Nintendo 2DS เครื่องเกมพกพารุ่นสโลว์ไลฟ์
ปกติแล้วในแวดวงการเกมคอนโซลเจนหนึ่งก็จะมีการผลิตเครื่องรุ่นใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพเท่ารุ่นแรกในเจนเดียวกันหรือสูงกว่า หรืออาจจะไปทดแทนที่ส่วนอื่น เช่น น้ำหนักเครื่องที่เบาลง กินไฟน้อยลง อะไรประมาณนี้ แต่ก็จะมีอยู่บางเคสที่ทางผู้ผลิตเลือกที่จะทำรุ่นประหยัดหรือรุ่นลดต้นทุนแล้วขายในราคาที่ถูกกว่ารุ่นแรกมาก เพื่อเป็นการตอบโจทย์คนเล่นที่มีพฤติกรรมหรือความต้องการที่ไม่เหมือนกัน และ Nintendo 2DS ก็เป็นอีกเครื่องเกมพกพาที่เข้าข่ายนี้ครับ ซึ่งในโอกาสที่เครื่อง Nintendo 2DS ได้วางจำหน่ายสู่ท้องตลาดครบรอบ 3 ปีพอดีในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ ทางทีมงาน play ก็เลยขอนำเสนอข้อมูลเล็กน้อยเพื่อรำลึกถึงเครื่องนี้กันสักหน่อยครับ
Nintendo 2DS นั้นถูกผลิตขึ้นตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการขายแก่ผู้เล่นที่ไม่ได้สนใจฟีเจอร์การแสดงผลหน้าจอแบบ 3D และต้องการเพียงแค่ "เล่นเกมได้" เป็นหลักไว้ก่อนครับ ซึ่งตัว 2DS จะมีการตัดฟีเจอร์หลักๆ ออกไป 4 อย่าง ได้แก่ การแสดงผลแบบ 3D, ระบบ Power Saving, ระบบเสียงที่เปลี่ยนเป็นแบบโมโน และไม่มีฝาพับเหมือน 3DS โดยราคาที่เปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือจะอยู่ที่ 129.99 เหรียญ (หรือประมาณ 4,600 บาท) ถือว่าถูกลงไปมากกับคำว่า "รุ่นประหยัด" และแน่นอนว่าทาง Nintendo ได้รับเสียงตอบรับไปในทางบวกและได้ฐานแฟนๆ เพิ่มขึ้นอีกพอสมควร
จนถึงตอนนี้ ยอดขายของ 2DS ก็ยังไปได้สวยครับ เพราะมีผู้เล่นอยู่จำนวนไม่น้อยที่ยังต้องการเพียงแค่ฟีเจอร์พื้นฐานของ 3DS แต่ไม่อยากจะจ่ายแพงในระดับราคาเครื่อง 3DS โดยหากนับรวมถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเจ้า 2DS ทำยอดขายไปได้แล้ว 5.17 ล้านเครื่องทั่วโลก และปัจจุบันก็ยังคงมีการผลิตเครื่อง 2DS ออกสู่ตลาดอยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้ กรณีของ 2DS หรือ 3DS ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการปรับกลยุทธ์จาก Nintendo เพื่อเข้าหาผู้เล่นในวงที่กว้างขึ้นท่ามกลางการรุกตลาดอย่างหนักจากฟากเกมบนสมาร์ทโฟนนั่นเอง