วันนี้ในอดีต: 30 กันยายน
วันที่ 30 กันยายน 2541 หรือวันนี้เมื่อ 18 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Tales of Destiny บนเครื่อง PS1 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเกมนี้เป็นเกมแนว RPG ที่พัฒนาโดย Wolf Team (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น Namco Tales Studio ที่เน้นทำเกมซีรีส์ Tales ป้อนให้ Namco เป็นหลัก) ซึ่ง Tales of Destiny ถือเป็นเกมลำดับที่ 2 ของซีรีส์ถัดจาก Tales of Phantasia ที่เคยลงให้กับเครื่อง Super Famicom มาก่อน
เนื้อเรื่องของ Tales of Destiny จะกล่าวถึง สตาห์น (Stahn) หนุ่มขาลุยที่รักการผจญภัยได้ลักลอบเข้าไปยังเรือเหาะที่มีชื่อว่า ดราโกนิส (Draconis) แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่พบตัวและโดนบังคับให้มาใช้แรงงานเป็นกะลาสีประจำเรือ ทว่าก็ดันเกิดผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีเรือเหาะเสียก่อน สตาห์นเลยอาศัยช่วงชุลมุนหนีมาได้ เขาเลยหนีเข้าไปในห้องเก็บสัมภาระเพื่อค้นหาอาวุธไว้ป้องกันตัวจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย และแล้วก็ไปสะดุดตากับดาบเล่มหนึ่งที่พูดได้และเรียกตัวมันเองว่า ดิมลอส (Dymlos) จากนั้นสตาห์นกับดิมลอสก็ฝ่าวงล้อมของพวกสลัดอากาศหนีเข้ายานชูชีพได้สำเร็จก่อนที่เรือเหาะจนโหม่งพสุธา และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยของชายหนุ่มกับดาบพูดได้ที่จะกลายเป็นตำนานในเวลาต่อมา
ระบบการผจญภัยของเกมนี้จะเป็นแนว 2D ทั้งฉากสำรวจและฉากต่อสู้ครับ โดยเฉพาะฉากต่อสู้จะค่อนข้างแตกต่างจากเกมอื่นตรงที่ผู้เล่นกับศัตรูจะออกแอ็กชั่นต่างๆ เพื่อซัดกันแบบรีลไทม์ ส่วนเวทมนตร์ก็จะมีการใช้เวลาร่ายมากน้อยตามแต่ชนิดของเวทนั้นๆ ซึ่งดูแล้วจะออกไปทางแอ็กชั่น RPG มากกว่าการป้อนคำสั่งแบบเกม Final Fantasy ในช่วงเวลานั้น ทั้งนี้ ผู้เล่นจะได้บังคับตัวละครนำของปาร์ตี้ ในขณะที่ตัวละครอื่นๆ จะออกแอ็กชั่นต่างๆ แบบอัตโนมัติ แต่ระหว่างสู้ก็ยังสามารถสลับไปบังคับตัวละครอื่นได้เพื่อใช้ท่าพิเศษหรือท่าเฉพาะตัวละคร พร้อมกันนี้ ตัวเกมยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เซ็ตแผนการเล่นที่ถนัดก่อนเข้าไปสู้ได้อีกด้วย
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Tales of Destiny
- เกมนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ค่อนข้างเหลือเชื่ออยู่อย่างหนึ่งครับ คือตัวเกมได้รับคะแนนวิจารณ์จากหลายๆ สำนักค่อนข้างต่ำ แต่ยอดขายกลับทำได้เกินจากที่ Namco คาดเอาไว้มาก โดยอยู่ที่ 1.14 ล้านชุดทั่วโลก (นับรวมถึงเดือนธันวาคม 2550) และยังเป็นภาคที่ขายดีที่สุดของซีรีส์ Tales ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่มีภาคไหนที่ทำยอดขายแซงหน้าภาคนี้ได้เลย
- จากความสำเร็จของเกม Tales of Destiny ทาง Namco จึงได้นำมันไปรีเมคลงบนเครื่อง PS2 อีกครั้งแล้ววางจำหน่ายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2549 โดยทำยอดขายไปได้ 368,000 ชุดในญี่ปุ่น ตามมาด้วยภาค Director's Cut ที่เป็นเวอร์ชั่นสมบูรณ์ที่ขายไปได้อีก 142,301 ชุดเช่นกัน