30 ปี Castlevania กับวันที่ Konami ไม่หันมามอง

แชร์เรื่องนี้:
30 ปี Castlevania กับวันที่ Konami ไม่หันมามอง

จริงๆบทความนี้ควรจะต้องมาวันที่ 26 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา แต่ติดปัญหาบางอย่างเลยทำไม่ได้ กลายเป็นบทความนี้มาเลื่อนออกวันนี้แทน 26 กันยายน 2559 ถือเป็นวาระฉลองครบรอบอายุ 30 ปีของ 1 ในเกมที่อยู่คู่วงการเกมมาช้านานอย่าง Castlevania หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนามเกมแส้ เกมที่เป็นเรื่องราวของนักรบ Belmont ผู้มีอาวุธประจำตระกูลอย่าง แส้ แต่ต้องบุกสังหาร Dracula ในปราสาทของมัน ซึ่งรวมภาคหลักและภาคย่อยต่างๆ มีจำนวนกว่า 40 ภาคเลยทีเดียว (ใช่ พูดอย่างผูกใจเจ็บ เราก็นับภาคปาจิงโกะเข้าไปด้วย) ซีรีส์นี้ถือเป็นเกมที่แทบจะเคยลงบนทุกเครื่องเกม Console ที่เคยออกมาบนโลกใบนี้อีกด้วย

แต่ก็น่าเสียดายที่ Konami ค่ายต้นสังกัดของเกมนี้ กลับไม่ได้ให้ความเหลียวแลหรือใส่ใจต่อวาระครบรอบเลย ไม่มีแม้กระทั้งข้อความเฉลิมฉลองใน Twitter มีเพียงแค่ไปไปกด Retweet คนอื่นเสมือนเกมนี้ไม่ใช่เกมของค่ายตนเอง ไม่ควรต้องใส่ใจ ในฐานะแฟนเกม แม้จะเข้าใจว่ามันไม่ใช่ซีรีส์ที่โคตรทำเงินของบริษัท แต่อย่างน้อยมีข้อความหรือออกแบบอะไรมาหน่อยให้ชื่นใจก็ยังดี แต่นี้ไม่มีเลย ไม่มีแม้แต่ข้อความแสดงความยินดี แต่เราก็เข้าใจ เพราะ Konami ตอนนี้มันก็ไม่ใช่ Konami ที่เรารักแล้วล่ะ

ซีรีส์ Castlevania ที่ไปไกลได้ขนาดนี้ ส่วนนึงเราต้องขอบคุณ Kouji Igarashi โปรดิวเซอร์ของ Castlevania Symphony of the Night ที่เข้ามาคุมบังเหียนซีรีส์ในภาค Harmony of Dissonace ที่มีทั้งเอาใจแฟนๆที่ชื่นชอบภาค 2D ทุนเดิม และก็พยายามนำซีรีส์ไปให้ไกลมากขึ้น ทั้งการสร้างแบบภาค 3D การทำภาคต่อสู้ การทำภาค Arcade ภาคมือถือ ภาคที่เน้นการเล่นแบบ Multiplayer จึงถือเป็นบุคลากรที่พาซีรีส์นี้ไปไกลกว่าเดิมจริงๆ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ออกไปเพราะเริ่มไม่ชอบการทำงานภายใน Konami

Konami ก็เลือกจะปั้น Castlevania ต่อ โดยการให้สตูดิโอจากสเปนอย่าง Mercury Stream  ร่วมมือกับ Hideo Kojima ก็ทำการ Reboot ซีรีส์นี้เป็นครั้งแรกในไตรภาค Lords of Shadow ซึ่งมันก็ขายดีใช้ได้ แม้จะมีเสียงบ่นจากแฟนเกมถึงความเป็น3D และอารมณ์ที่ออกไปทาง God of War แต่มันก็เป็นตลกร้าย เพราะ Lords of Shadow เป็นภาคที่ขายดีที่สุดนับตั้งแต่ Symphony of the Night มันเป็นการบอกว่าหากซีรีส์นี้ต้องการอยู่ต่อ มีความจำเป็นที่จะต้องเอาใจตลาดอื่นมากกว่านี้ ซึ่งว่ากันตรงไปตรงมา Lords of Shadow ก็ถือเป็นการเปิดตลาดซีรีส์นี้ให้กว้างขึ้นได้ประสบความสำเร็จจริงจัง

แต่สุดท้าย Konami ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบการบริหารไป ไม่แคร์หรือสนใจแฟนเกมอีกต่อไปอย่างที่เราทราบกัน เพราะขนาดซีรีส์ขายดียังไม่มีความคิดจะทำให้มันดีๆ แน่ล่ะ Castlevania จะไปเหลือรอดไหม การนำเกมนี้ไปลงตลาดปาจิงโกะถือว่าเป็นความคิดที่โง่ ไม่มีความฉลาดเอาเสียเลย เพราะ Castlevania ไม่ใช่เกมที่ขายดีในตลาดญี่ปุ่น แต่ดันเลือกที่จะมอบเกมนี้ให้ตลาดญี่ปุ่นแทน แบกรับการขาดทุนโดยการออกตู้ใหม่ๆที่ไม่มีใครคิดจะใส่ใจ ฉลาดจนไม่รู้จะเอาอะไรชมให้สำนึกเหมือนกัน จริงๆสิ่งที่ Lords of Shaodw ทำไว้มันก็พอจะทิ้งเส้นทางให้ Konami เดินตามรอยแม้จะไม่มีเงา Igarashi หรือทีม Mercury Stream แต่นั่นแหละ ทีมผู้บริหารมันบัดซบ มันจะไปใส่ใจอะไร

สุดท้ายเราจะได้เล่นภาคต่อของเกมนี้ไหม ก็คงต้องรอ Konami หายบ้าแล้วได้สติ อาจจะคิดอะไรมาได้ แต่ในวันนี้ วันที่มันควรจะเป็นวันที่แฟนเกมชูมือขึ้นไชโย มันกลายเป็นวันที่แฟนเกมน้ำตาหลังไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดที่ไม่มีแม้แต่การฉลองจากค่ายเกมหลักของมัน มันเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก แต่ท้ายที่สุดการที่แฟนเกมจับเกมซีรีส์นี้ซักภาคมาเล่นระลึกความหลัง ความสนุกของมันก็ยังคงอยู่ตลอดกาล ในใจแฟนๆเสมอ เราก็ได้แต่หวังว่า วันที่เกมภาคใหม่จะเฉิดฉายออกมาจะเกิดขึ้นซักวันนึง อาจจะเป้นฉลอง 40 ปี หรือ ฉลอง 50 ปี ก็ได้

เราจะรอจนมันถึงวันนั้น

HBD Castlevania

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ