เจาะประวัติ Enix ค่ายเกมผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Dragon Quest

แชร์เรื่องนี้:
เจาะประวัติ Enix ค่ายเกมผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Dragon Quest

เจาะประวัติ Enix ค่ายเกมผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Dragon Quest

ในวงการเกมญี่ปุ่นเมื่อสัก 25 ปีขึ้นไปนั้นมีการขับเคี่ยวกันระหว่าง 2 ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงเรื่องการพัฒนาเกมแนว RPG จนเป็นที่โด่งดังไปทั่วประเทศ นั่นก็คือ Square และ Enix โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ทาง Square ก็มีซีรีส์ Final Fantasy ที่เป็นแบรนด์หลักของค่าย ส่วนทาง Enix ก็มี Dragon Quest เป็นซีรีส์หัวเรือของบริษัทเช่นกัน และแม้ว่าในที่สุด 2 บริษัทนี้จะควบรวมกันเป็นบริษัทเดียวภายใต้ชื่อ Square Enix ไปเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม วันที่ 22 กันยายนนี้ก็ถือว่าเป็นวันครบรอบการก่อตั้งบริษัท Enix ซึ่งเวียนมาครบ 41 ปีพอดี ทางทีมงาน play จึงขอนำประวัติเกี่ยวกับค่ายเกมแห่งนี้มาเล่าสู่กันฟังกันสักหน่อยครับ

(ล่าง) เกม Dragon Quest ภาคแรก

เดิมทีนั้น Enix ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในชื่อ เอย์ดันฉะ โบชู เซอร์วิส เซ็นเตอร์ (Eidansha Boshu Service Center) โดยมีคุณยาสุฮิโร่ ฟุกุชิมะ เป็นผู้ก่อตั้งครับ ซึ่งในช่วงแรกเริ่มทางบริษัทได้ดำเนินธุรกิจตีพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ประสบความล้มเหลวในการที่จะดันตัวเองให้เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วประเทศญี่ปุ่น ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชือบริษัทเป็น Enix แล้วเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดของวงการเกมด้วยการจัดประกวดการเขียนโปรแกรมเกมสำหรับเล่นบน PC และ 1 ในผู้ชนะเลิศของโครงการดังกล่าวก็คือคุณยูจิ โฮริอิ ผู้ซึ่งกลายมาเป็นบุคคลที่ให้กำเนิดซีรีส์ Dragon Quest ในอีกไม่กี่ปีให้หลังนั่นเอง

(ล่าง) เกม Dragon Quest III เป็นภาคที่ขายดีที่สุดของซีรีส์ (6.045 ล้านชุด)

ราวๆ ปี 2528 เป็นต้นมา ทาง Enix พยายามที่จะใช้บริการบริษัท Outsource ทั้งหลายในการพัฒนาเกมลงเครื่องต่างๆ ให้ นั่นก็เพราะต้องการจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเครือข่ายนักพัฒนาเกมในประเทศให้เป็นปึกแผ่น โดย Dragon Quest ภาคแรกก็เป็นผลงานการพัฒนาจากบริษัท Chunsoft ที่มีคุณยูจิ โฮริอิ เป็นผู้เขียนพล็อตเรื่อง, คุณอากิระ โทริยาม่า นักวาดการ์ตูนชื่อดังเรื่อง Dragon Ball รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบตัวละคร ฯลฯ กระทั่งแล้วเสร็จและวางจำหน่ายในปี 2529 ซึ่ง Dragon Quest ถือเป็นเกม RPG เกมแรกบนเครื่อง Famicom ของทาง Enix และเกมดังกล่าวก็สามารถทำยอดขายในญี่ปุ่นไปได้ถึง 1.5 ล้านชุด กลายเป็นเกมที่ทำกำไรสูงสุดให้กับบริษัททันที

(ล่าง) Dragon Quest X ภาคล่าสุดของซีรีส์ที่ลงเครื่อง Wii เมื่อปี 2555

ความดังของซีรีส์ Dragon Quest นับเป็น 1 ในปรากฏการณ์ของประเทศญี่ปุ่น ณ ขณะนั้นครับ เนื่องจากมันเป็นเกม RPG ที่มีกลิ่นอายของความอนุรักษ์นิยมและคงความคลาสสิกเอาไว้ทุกภาคเรื่อยมา และถูกจริตคนญี่ปุ่นมาก แถมทุกครั้งที่ภาคหลักวางขาย ก็จะพบเห็นชาวญี่ปุ่นไปต่อคิวรอซื้อเกมซีรีส์นี้กันยาวเป็นกิโลเลยทีเดียว ซึ่งในที่สุดความดังของมันก็ไปถึงหัวเลี้ยวหัวต่อเอาตอนที่เกมจะวางจำหน่ายภาค 4 เมื่อทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีจดหมายเปิดผนึกเชิงขอความร่วมมือกับทาง Enix ให้ช่วยกำหนดวันวางจำหน่ายเกม Dragon Quest ให้ตรงกับวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดราชการแทน เพราะ 3 ภาคแรกนั้นวางจำหน่ายตรงกับวันธรรมดา ส่งผลให้มีคนญี่ปุ่นพากันหยุดงานเพื่อไปซื้อเกม Dragon Quest จนกระทบกับสภาพเศรษฐกิจในประเทศอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้ Dragon Quest ภาค 4 เป็นต้นมาจึงมีการกำหนดวันวางจำหน่ายให้ตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้

(ล่าง) คุณยูจิ โฮริอิ ผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Dragon Quest

ก่อนที่ Enix จะรวมบริษัทกับ Square เพียงไม่กี่ปี ทาง Enix เองได้ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักจากการที่เลื่อนวางจำหน่ายเกม Dragon Quest VII จนต้องไปขายในปี 2543 จากที่ตั้งใจแต่แรกว่าจะได้ขายในปี 2542 ทำให้มูลค่าของหุ้นบริษัท Enix ร่วงลงกว่า 40% ภายในปีเดียวกัน แถมเกม Dragon Quest Monsters 2 ก็ยังมีเหตุให้ต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายอีก ผลกำไรของบริษัทเลยยิ่งลดลงไปถึงเกือบ 90% และนี่จึงเป็นอีก 1 เหตุผลที่เกิดการเจรจากับ Square ในการรวมบริษัทเพื่อให้การบริหารงานเป็นไปด้วยความคล่องตัวยิ่งขึ้น (ทาง Square เองก็เพิ่งอ่วมมาจากภาวะขาดทุนย่อยยับของหนัง Final Fantasy: The Spirit Within) ทุกวันนี้ แม้ว่า Enix จะกลายสภาพเป็น Square Enix ไปเรียบร้อย แต่ซีรีส์ Dragon Quest ก็ยังคงมีการพัฒนาภาคต่อออกมาอย่างต่อเนือง เช่นเดียวกับ Final Fantasy XV ที่ออกมาจนถึงภาคที่ 15 แล้ว ผู้คนในวงการเกมก็ยังคงจดจำว่าสองค่ายนี้ยังเป็นหน้าเป็นตาให้กับเกมแนว RPG สไตล์ญี่ปุ่นเสมอมา ซึ่ง Square Enix เองก็ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อฝ่ามรสุมการแข่งขันรอบด้านกับค่ายเกมฝั่งตะวันตกต่อไปครับ

แชร์เรื่องนี้:
Vesper
About the Author

Vesper

เซเว่นที่ว่าแน่ ก็ยังหารักแท้มาขายไม่ได้

เรื่องที่คุณอาจสนใจ