ก็ผ่านพ้นกันไปแล้วนะครับสำหรับ Overwatch ในโหมด Competitive Play Season ที่ 1 ตอนนี้ก็คงจะได้รับรางวัลกันไปเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ในเซิร์ฟเวอร์ PTR เองก็ได้มีการอัพเดตต่อเนื่องด้วย Competitive Play Season ที่ 2 พร้อมกับการปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของโหมดนี้ และสมดุลฮีโร่อย่างมากมาย เรียกว่าเป็นแพตช์ใหญ่อีกแพตช์นึงเลยก็ว่าได้ ผมจะขอสรุปคร่าวๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับ Competitive Play และปรับสมดุลฮีโร่ละกันครับผม
การปรับเปลี่ยนใน Competitive Play Season 2
อย่างแรกที่เปลี่ยนไปก็คือ Skill Rating จะขยายจาก 1-100 เป็น 1-5,000 และจะมีการแยก Tier ตามคะแนนดังต่อไปนี้
Bronze - 1-1499
Silver - 1500-1999
Gold - 2000-2499
Platinum - 2500-2999
Diamond - 3000-3499
Master - 3500-3999
Grandmaster - 4000-5000
ถ้าหากว่าผู้ที่อยู่ในระดับ Bronze, Silver, Gold, Platinum และ Diamond มี Skill Rating ตกจนเกินกว่าระดับของตนเองในปัจจุบัน ก็จะไม่มีการลดระดับแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็น Master และ Grandmaster ก็เตรียมตกได้เลย
นอกจากนี้ก็ยังมีระบบการลดแต้ม Skill Rating ด้วยหากไม่เข้าไปเล่นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มตั้งแต่ระดับ Diamond ขึ้นไป เพราะผู้เล่นที่มีแต้มตั้งแต่ 3,000 แต้มขึ้นไป หากไม่ได้เล่นครบ 24 ชั่วโมง จะถูกลดแต้ม 50 แต้มไปเรื่อยๆ แต่จะไม่ต่ำกว่า 3,000 แต้ม และถ้าหากคนที่ติด Top 500 ไม่ได้เล่น Competitive 7 วันก็จะถูกดีดออกจาก Top 500 ด้วยครับ
การปรับแต้ม Competitive Points
ใน Season 2 แต้ม Competitive จะถูกเพิ่มจำนวนขึ้นจากเดิม 10 เท่า ทั้งแต้มที่เหลืออยู่ในตัวและแต้มที่ใช้ในการซื้ออาวุธทอง เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนนำ Sudden Death ออกแล้ว ทำให้สามารถเสมอกันได้ จึงต้องมีการปรับแต้มเพื่อแจกให้ 2 ทีมในกรณีเสมอกัน โดยจะแบ่งดังนี้
- ทีมชนะได้รับ 10 Competitive Points ทีมแพ้ไม่ได้แต้มเช่นเดิม
- ในกรณีที่เสมอกัน ทั้ง 2 ทีมจะได้รับ Competitive Points กันไปทีมละ 3 แต้ม
ส่วนใครที่อยากติด Top 500 ก็ต้องเล่นให้ชนะอย่างน้อย 50 ครั้งใน Competitive Play ก่อนครับ และสำหรับคนที่เล่นเป็นกลุ่ม งานนี้จะสามารถเล่นรวมกลุ่มกันได้แค่ผู้เล่นที่ Skill Rating ห่างกันไม่เกิน 500 แต้มเท่านั้นแล้วด้วย เกาะกลุ่มกันให้ดี
ปรับสมดุลฮีโร่
หลักๆ ที่โดนกันทุกตัวก็คือระยะเวลาการลดเกจอัลติหลังจากกดใช้ จะลดเร็วขึ้น จาก 1 วินาทีเป็น 0.25 วินาที ส่วนรายละเอียดแยกฮีโร่จะมีดังนี้
D.VA
- Defense Matrix โดนปรับให้ฟื้นฟูเกจช้าลงจาก 0.5 วินาที เป็น 1 วินาที (ชาร์จนานกว่าเดิม 2 เท่าเลยทีนี้)
Hanzo
- ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ขณะเล็งยิงจาก 40% เหลือ 30%
- เพิ่มความเร็วของลูกธนูตอนชาร์จเต็มอีก 30%
Mei
- Blizzard สามารถทะลุบาเรียต่างๆ ได้แล้ว และเพิ่มขอบเขตการแช่แข็งจาก 8 เมตรเป็น 10 เมตร
McCree
- Deadeye เวลากดใช้แล้วเกจอัลติจะลดลงเรื่อยๆ ทุก 0.25 วินาทีตามปกติ ต่อให้ไม่ยอมยิงก็จะเหลือ 0% อยู่ดี จากที่ของเดิมจะเหลือ 50%
Mercy
- Caduceus Staff เพิ่มความแรงในการฟื้นฟู HP อีก 20% ต่อวินาที
- Resurrect ผู้เล่นที่ถูกชุบชีวิตจะเคลื่อนไหวได้หลังจากครบ 2.25 วินาที จากเดิม 3 วินาที
Genji (ผู้น่าสงสาร)
- กระโดดสองครั้งจะไม่ถูกรีเซทเมื่อไต่กำแพงแล้ว
- Dash ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับดักได้แล้ว และไม่สามารถผ่านกับดัก Steel Trap ของ Junkrat แล้วด้วย
- Swift Strike ไม่สามารถหยุดได้ด้วยการกด Melee Attacks แล้ว
- Dragon Blade ระยะเวลาสั้นลงเหลือแค่ 6 วินาที จาก 8 วินาที
Lúcio
- Amp it Up ในโหมดเพิ่มความเร็วจะถูกลดความเร็วลง 30%
Roadhog
- Chain Hook ถ้าหากเป้าหมายโดนสกิลแต่ไม่อยู่ในระยะสายตาของ Roadhog ก็จะถูกย้ายกลับไปตำแหน่งที่ก่อนฮุคเฉยๆ (ไม่ทะลุกำแพงแล้ว เย้)
Zenyatta
- Orb of Discord ความเสียหายที่เพิ่มขึ้นหลังจากโดนสกิลนี้จากเดิม 50% เหลือแค่ 30%
- Orb of Destruction เพิ่มความเสียหายจาก 40 เป็น 46
ฮีโร่ที่มีการปรับเปลี่ยนก็จะมีเท่านี้ครับ บางตัวก็โดนปรับให้เก่งขึ้น บางตัวก็โดนปรับให้อ่อนลงบ้าง (อย่างเกนจิ) บางตัวก็ผสมๆ กัน ก็อาจจะมีการเปลี่ยนเมต้ากันบ้างในการแข่งขันครับผม
ปรับสมดุลแผนที่
มีแผนที่เดียวที่โดนปรับก็คือ Watchpoint: Gibraltar ได้มีการเอาจุดเช็คพ้อยท์แรกที่ใต้สะพานโค้งแรกออกเท่านั้นเองครับผม
นอกจากนี้ก็มีการปรับเล็กๆ น้อยๆ แก้บั๊คบ้างเล็กน้อย ที่น่าสนใจก็คือเรื่องของการมี emotion ใหม่ๆ เพิ่มให้กับฮีโร่ แต่ดูเหมือน D.VA จะพิเศษหน่อยตรงมี Emotion แบบสีทองด้วย น่ารักสุดๆ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถดูรายละเอียดแบบเต็มๆ กันได้ที่ https://playoverwatch.com/en-us/blog/20243886#patchnotes จ้า