"วันนี้ในอดีต" by play
วันที่ 15 กรกฎาคม 2542 หรือวันนี้เมื่อ 17 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของ Legend of Mana เกมแนว Action RPG ที่พัฒนาโดย Squaresoft (ปัจจุบันคือ Square Enix) ทั้งนี้ Legend of Mana ถือเป็นภาคที่ 4 ของซีรีส์ Mana ซึ่งเป็นอีกซีรีส์ของค่าย Squaresoft ที่ได้รับความนิยมพอสมควร จนมีเกมเมอร์บางส่วนในสมัยนั้นนิยามว่าซีรีส์นี้เหมือนกับเป็น Final Fantasy เวอร์ชั่น Action RPG ยังไงยังงั้น
ระบบของเกม Legend of Mana จะเป็นการลุยตามดันเจี้ยนต่างๆ โดยมีศัตรูตามทางและบอสที่รออยู่ท้ายฉาก ซึ่งนอกจากตัวเอกของเกมที่ผู้เล่นต้องตั้งชื่อตั้งแต่ต้นเกมแล้ว ก็จะมีเพื่อนร่วมทีมที่เราสามารถเลือกมาอยู่ในทีมได้อย่างอิสระ แต่ก็จะมีเพื่อนบางคนที่เราต้องไปหามาจากเควสต์ และเพื่อนบางคนก็จะบังคับร่วมปาร์ตี้ไปกับเราเพื่อผ่านบางเควสต์ด้วย ส่วนปุ่มที่ใช้ก็จะมีปุ่มโจมตีด้วยอาวุธที่สวมใส่ ปุ่มใช้เวทมนตร์ที่ติดตั้งไว้ ปุ่มตั้งการ์ดเพื่อป้องกันการโจมตี และปุ่มใช้ท่าพิเศษ (ใช้ได้ต่อเมื่อเกจท่าไม้ตายเต็มหลอดเท่านั้น)
เนื้อเรื่องของเกมนี้จะเล่าถึงโลกของ Fa'Diel หรือต้นไม้มานา ที่เป็นแหล่งมอบมานาและชีวิตของทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ได้ถูกเผามอดไปเกือบทั้งต้นเมื่อ 900 ปีก่อนเหตุการณ์ในเกม จากนั้นจึงได้เกิดสงครามขึ้นระหว่างเผ่าภูตแฟรี่และมนุษย์ รวมถึงมีเผ่าอื่นๆ ที่ออกตามหาเศษพลังมานาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ กระทั่งเมื่อสงครามสิ้นสุดลง ซากต้นไม้มานาก็ได้กำเนิดใหม่และแผ่นดินหลายส่วนบนโลกก็ได้ถูกเก็บไว้ในวัตถุโบราณในตำนานชิ้นหนึ่ง ซึ่งตัวละครที่ผู้เล่นเลือกตั้งแต่ต้นเกมมีหน้าที่ต้องออกตามหาวัตถุชิ้นนั้นเพื่อกอบกู้โลกให้กลับคืนสู่สภาพเดิมให้ได้
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Legend of Mana
- เกมนี้จะมี Easter Eggs อยู่อย่างหนึ่งครับ โดยเมื่อเราอยู่ในโรงแรม Domina จะเห็นว่ามีไข่ที่ชื่อ Pee Wee อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ ตรงนี้ให้เรากดคุยกับ Pee Wee ดู 15 ครั้ง แล้วพอเรากดคุยเป็นครั้งที่ 16 ไข่จะแตก และ Yuka จะเข้ามาตำหนิเราที่ทำให้ Pee Wee ตาย ซึ่ง Easter Eggs นี้จะมีผลทำให้เราไม่สามารถทำบางเควสต์ได้อีกเลยตลอดทั้งเกมด้วย เพราะฉะนั้นควรเซฟเกมไว้ก่อนที่จะลอง Easter Eggs นี้นะครับ
- ผู้เล่นสามารถเลี้ยงโจโคโบะ ที่เป็นนกประจำซีรีส์ Final Fantasy ในเกม Legend of Mana ได้โดยไม่ต้องทำเควสต์ Monster Corral ก่อน ขอแค่เพียงแค่มีเซฟเกม Final Fantasy VIII (FF8) อยู่ในเมโมรี่การ์ด ตัวเกมก็จะตรวจสอบข้อมูลในเมโมรี่การ์ดของเราโดยอัตโนมัติเอง
- หากผู้เล่นมีเซฟของเกม SaGa Frontier 2 อยู่ในเมโมรี่การ์ดอันเดียวกับที่ใช้เซฟเกม Legend of Mana ก็ให้ลองเข้าหน้าจอเซฟเกมของ Legend of Mana ดู จากนั้นก็เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ตัวไฟล์เซฟของ SaGa Frontier 2 แล้วให้ออกจากโหมดเซฟเกม หลังจากนี้ก็ให้เลือกไปสถานที่ที่ชื่อว่า Bone Fortress และมุ่งหน้าไปยังสะพานที่เราสู้กับศัตรูที่ชื่อ DeathBringer เมื่อไปถึงเราจะเจอ Skeleton ขวางทางอยู่ 2 ตัว พอกำจัดมันได้หมด เราจะได้สู้กับ DeathBringer 2 ต่อทันที ถ้าเอาชนะได้ ก็จะได้รางวัลเป็นดาบสุดยอดจากเกม SaGa Frontier 2 มาใช้ในเกม Legend of Mana
- เพลงไตเติ้ลของเกมนี้เป็นการขับร้องโดยคุณแอนนิก้า ลุงเบิร์ก (Annika Ljungberg) อดีตนักร้องนำจากวง Rednex ของประเทศสวีเดน ที่เคยโด่งดังจากเพลง Cotton Eye Joe โดยคุณลุงเบิร์กได้ให้สัมภาษณ์ในช่วงที่เกม Legend of Mana วางจำหน่ายไว้ว่าทางทีมพัฒนาเกมได้เลือกเธอมาขับร้องให้เกมนี้ ก็เนื่องจากเสียงร้องของเธอมีเสน่ห์เหมือนต้องมนต์สะกดแบบสวีดิชและเข้ากับธีมแฟนตาซีของ Legend of Mana เป็นอย่างดี