OVERWATCH
ซื้อเถอะครับ พี่ขอร้อง...
ประเภท: FPS ผู้พัฒนา: Blizzard Entertainment ผู้ผลิต Blizzard Entertainment ผู้จัดจำหน่าย: www.zest.co.th, Blizzard Entertainment จำนวนผู้เล่น: 12 เครื่องที่ต้องการ: Intel Core i3 or AMD Phenom X3 8650, 4 GB RAM, HDD Space 30 GB, GeForce GTX 460, ATI Radeon HD 4850
Overwatch คือเกมเดินยิง Multiplayer เต็มรูปแบบ นี่ไม่ใช่เกมที่มีโหมดเนื้อเรื่อง นี่ไม่ใช่เกมที่มีโหมด Co-Op (แม้จะมีโหมดให้คุณได้จัดทีมไปสู้กับ Bot) หัวใจและแก่นหลักของเกม Overwatch คือการต่อสู้แบบทีมระหว่างผู้เล่นสองฝั่งในแบบ 6 VS 6 ผ่านแผนที่และโหมดต่างๆ ที่มีในเกม และนี่คือเกมยิงที่เน้นการร่วมมือเป็นทีม ในโลกของ Overwatch หมาป่าเดียวดายจะถูกทิ้งให้ตายตัวเดียว
สิ่งสำคัญที่ทำให้ Overwatch นั้นสนุกจนถึงขั้นยอดเยี่ยมก็คือเหล่าตัวละครทั้ง 21 ตัว โดยทุกตัวถูกออกแบบมาอย่างดีและมีความแตกต่างในการเล่นและการบังคับ ตัวเกมจะแบ่งฮีโร่ทั้งหมดออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ Attack, Defense, Tank และ Support โดยกลุ่ม Attack นั้นมาพร้อมความสามารถในการโจมตีและการบุก ส่วน Defense มาพร้อมความสามารถในการป้องกันพื้นที่ Tank ที่มีพลังชีวิตมากกว่าฮีโร่ตัวอื่นและสามารถสร้างความวุ่นวายให้กับทีมฝ่ายตรงข้าม สุดท้าย Support กับความสามารถในการเพิ่มพลังชีวิตและสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม เมื่อเหล่าฮีโร่ทั้งหมดลงมาต่อสู้กันในสนามรบมันก็ทำให้เกิดปฏิกริยาทางเคมีที่สุดแสนจะลงตัวและสร้างความสนุกให้กับผู้เล่น ฮีโร่แต่ละตัวจะมีจุดอ่อนจุดแข็งและแพ้ทางกันไปมาเหมือนกับ ค้อน-กรรไกร-กระดาษ ผู้เล่นจำเป็นต้องคอยอ่านเกมและทำการปรับเปลี่ยนฮีโร่ให้เข้ากับสถานการณ์
มีเหล่าฮี่โร่ในเกมให้คุณเลือกเล่นหลากหลายแบบยกตัวอย่างเช่นพี่ค้อนยักษ์ Reinhardt คนนี้
Blizzard ได้ทำการขัดเกลาระบบต่างๆ เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายที่สุด ตัวละครส่วนใหญ่มักจะมีอาวุธเพียงแค่ชิ้นเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ขณะเดียวกัน Skill ความสามารถต่างๆ ก็ใช้ระบบ Cooldown ที่ง่ายต่อการเข้าใจ ตัวเกมยังใช้ระบบกระสุนแบบไม่จำกัด ผู้เล่นสามารถรีโหลดกระสุนและยิงต่อได้ทันที โดยไม่ต้องออกไปหาเก็บจากที่อื่น สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่สามารถเข้ามาสัมผัสและสนุกกับการเล่น Overwatch ได้อย่างรวดเร็วแต่ขณะเดียวกันตัวเกมก็มีความลุ่มลึกและเทคนิคพิเศษมากมายให้ผู้เล่นมือเซียนได้พยายามฝึกฝน ตัวละครอย่าง Genji หุ่นยนต์นินจาครึ่งมนุษย์นับเป็นอีกตัวละครที่ผู้เล่นจำเป็นต้องใช้ฝีมือและเทคนิคชั้นสูงในการเล่นให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
สิ่งที่ผมชื่นชอบอีกอย่างในตัวเกมคือ ตัวละครนั้นมีการเคลื่อนที่ซึ่งแตกต่างกันไป Tracer ที่สามารถ Blink หายตัวได้, Genji กับความสามารถในการกระโดดสองชั้นและการไต่กำแพง, Lucio กับการวิ่ง Wallrun หรือ Widowmaker ที่ใช้ตะขอเกี่ยวดึงตัวสู่ที่สูง และ Mercy คุณหมอคนสำคัญที่มีความสามารถในการลอยตัวไปหาเพื่อนร่วมทีม ซึ่งการที่เหล่าตัวละครนั้นมีความสามารถในการเคลื่อนที่ที่แตกต่างกันก็ทำให้การเล่นฮีโร่แต่ละตัวเหมือนกับคุณได้เปลี่ยนไปเล่นเกมยิงเกมอื่นเลยทีเดียว
แม้จำนวนรูปแบบการเล่นหลักและแผนที่ของ Overwatch จะถือว่ามีจำนวนค่อนข้างน้อย (12 แผนที่และ 4 โหมด) แต่ข่าวดีก็คือแผนที่ทั้งหมดถูกออกแบบมาอย่างดี เส้นทางในการลอบจู่โจม พื้นที่สูงต่ำ มุมหลบต่างๆถูกออกแบบมาอย่างสมดุล ขณะเดียวกันตัวฉากก็เต็มไปด้วยรายละเอียด ตัวอย่างเช่นในด่าน Volskaya Industries หากผู้เล่นสังเกตให้ดีจะสามารถมองเห็นหุ่นยนต์ยักษ์ที่อยู่นอกฉากได้ ซึ่งการเก็บรายละเอียดนั้นถือเป็นจุดเด่นของค่าย Blizzard อยู่แล้วครับ
ระบบ Play of the Game ที่จะแสดงการเล่นเจ๋งๆ ในตอนจบเกม
ในด้านงานภาพนั้นแม้กราฟฟิกในเกมอาจจะไม่ได้สวยงามคมชัดแบบเกมดังอย่าง Battlefield แต่ก็ถือว่า Blizzard ทำภาพในเกมออกมาได้อย่างดี ตัวเกมมีความโดดเด่นในเรื่องของงานศิลป์และสดใส แทนการใช้แสงเงาหรือรายละเอียดพื้นผิวระดับสูงก็ทำให้ตัวเกมใช้สเป็คเครื่องค่อนข้างต่ำและเล่นได้อย่างลื่นไหลและงดงามในเครื่องแทบทุกระดับ ตัวเกมยังมาพร้อมออฟชั่นมากมายให้คุณได้ปรับแต่งซึ่งถือเป็นข้อดีสำคัญของเกมบนพีซี
คุณภาพเสียงถือเป็นอีกจุดของตัวเกมที่ผมต้องขอชื่นชม เสียงในเกมนั้นมีความสำคัญอย่างมากในการบอกข้อมูลสำคัญเช่นตำแหน่งของศัตรู ชนิดของศัตรู เสียงตระโกนก่อนการปล่อยท่าไม้ตายหรือท่า Ultimate ของเหล่าตัวละครนอกจากจะช่วยเตือนให้คุณรีบหลบหรือหาทางจัดการยังทำออกมาได้เท่และน่าจะกลายเป็น Meme ฮิตบนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างแน่นอน Overwatch ยังเป็นวีดีโอเกมเกมแรกที่ใส่เทคโนโลยีเสียงที่มีชื่อว่า Dolby Atmos เข้าไปในเกม ซึ่งเทคโนโลยีนี้ต้องใช้งานร่วมกับหูฟังแบบสเตอริโอเท่านั้น หากหูฟังของคุณรองรอบให้เข้าไปเลือกปรับในส่วนของออฟชั่น และเปิดใช้งานดู ผลที่ได้รับคือตำแหน่งของเสียงภายในเกมจะชัดเจนมากขึ้นไปอีกระดับเสียงของกระสุนปืนที่แหวกผ่านอากาศเฉียดหัวคุณไปจะชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่อ
ฉากต่างๆ ในเกมเต็มไปด้วยสีสันอันแสนสดใส
แม้ตัวเกมจะเต็มไปด้วยข้อดีมากมายแต่ Overwatch ก็มีข้อด้อยบางจุดที่ไม่อาจมองข้าม เช่น ผู้เล่นบางส่วนใน Quick Play ไม่สนใจที่จะทำภารกิจเป้าหมาย ทำให้การเล่นเกมนี้คนเดียวในบางครั้งจะสร้างความหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เพราะใน Overwatch นั้นคุณไม่สามารถเก่งคนเดียวจนสามารถพลิกเกมได้เหมือนในเกมอย่าง Call of Duty หรือ Battlefield แต่ปัญหานี้น่าจะบรรเทาลงหลังผ่านไปสักระยะและผู้เล่นเริ่มปรับตัวเข้ากับเกมได้และการมาถึงของ Rank Mode ที่ Blizzard สัญญาว่าจะถูกปล่อยออกมาก็น่าจะแก้ปัญหานี้ได้อีกขั้น แต่ทางที่ดีคือคุณควรจะมีกลุ่มเพื่อนรู้ใจไว้สำหรับเล่นเกมนี้ด้วยครับ
Blizzard สร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้กับเกมตระกูลใหม่อย่าง Overwatch มันเริ่มต้นเปิดตัวได้อย่างสวยงามและดูมีแนวโน้มที่ยิ่งจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ด้วยการมาถึงของโหมดใหม่ แผนที่ใหม่ ตัวละครใหม่และของปลดล็อคใหม่แบบฟรีๆ นี่คือเกมเดินยิง Multiplayer ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยมและสมบูรณ์ มันเต็มไปด้วยตัวละครที่มีเสน่ห์และน่าสนใจและมาพร้อมความสามารถในการต่อสู้ที่สนุกตื่นเต้น นี่คือสุดยอดเกม Multiplayer แบบทีมที่ดีที่สุดในท้องตลาด แม้มันจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้เล่นสายโดดเดี่ยวไร้ Party แต่ระบบการเล่นและใจกลางสำคัญของ Overwatch นั้นแข็งแกร่งจนปฏิเสธไม่ได้ ยกเว้น Blizzard จะเดินทางผิดและพัฒนาเกมนี้แบบผิดพลาดครั้งใหญ่ Overwatch น่าจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเกม FPS ระดับตำนานได้โดยไม่ยากเย็น
เรื่อง: ณัฐวุฒิ อภิรัตน์วรากุล
กองบรรณาธิการนิตยสาร Future Gamer
คะแนน 9.0
ข้อดี: ตัวละครมีเสน่ห์สูง, งานศิลป์โดดเด่นสดใส, ระบบการเล่นสนุกตื่นเต้น, แผนที่ถูกออกแบบมาอย่างดี
ข้อเสีย: มีโหมดการเล่นน้อยไปนิด, ระบบ Loot Box แบบสุ่มของ, อาจไม่คุ้มค่าหากคุณต้องการเกมที่อัดแน่นด้วยเนื้อหาหลากหลาย
โดยรวม: เกม FPS Multiplyer ชั้นเยี่ยมโดยการสนับสนุนของ Blizzard ในอนาคตและการขยายจักรวาลของเกมให้ยิ่งใหญ่ออกไปเรื่อยๆ Overwatch นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ Blizzard ต้องภาคภูมิใจและแฟนเกม FPS ควรหามาลองลิ้มรส
ไม่ต้องเทพเกม FPS ก็สนุกกับเกมนี้ได้ด้วยคลาสสาย Support
ชัยชนะจะได้มาด้วยความร่วมใจของเหล่าคนในทีม
ตัวเกมเต็มไปด้วยของปลดล็อคมากมายให้คุณสะสม