นอกจากบทภาพยนตร์ที่ทำการบ้านมาอย่างดีและการวางรากฐานให้มั่นคงไปยังผลงานชิ้นต่อไปของ Marvel Cinematic Universe แล้วนั้น นักแสดงผู้รับบทเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ทีมงานจึงขอพาผู้อ่านไปรู้จักผลงานที่ผ่านมาของนักแสดงในภาพยนตร์ Captain America: Civil War ซึ่งจะมีบทบาทจากเรื่องไหนน่าสนใจบ้างนั้นตามไปดูกันเลย
1. Chris Evans (Captain America)
ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกในบทของกัปตันอเมริกาสุดหล่อล่ำนั้น คริสได้เคยแสดงเป็นมนุษย์เพลิง หรือ Human Torch ในภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Four ทั้งสองภาค แต่ผลงานที่แจ้งเกิดเขาเป็นตัวเป็นตนต้องยกให้บทนักกีฬาสุดหล่อเกรียนแตกใน Not Another Teen Movie ภาพยนตร์ตลกล้อเลียนหนังวัยรุ่นในยุคในนั้น แถมยังเคยรับทบทตัวร้ายคิ้วโคตรโก่งในภาพยนตร์ฮาไอเดียสุดล้ำอย่าง Scott Pilgrim vs. The World รวมทั้งยังเคยแสดงเป็นแฮกเกอร์กล้ามบึ้มใน The Losers อีกต่างหาก
ฉากวิปครีมทาตัวในตำนานจากเรื่อง Not Another Teen Movie
บทบาทมนุษย์เพลิง (Human Torch) ที่สร้างชื่อให้กับเขา
ปิดท้ายด้วยบทยียวนกวนประสาทจากเรื่อง Scott Pilgrim VS The World และ The Losers (กวน***ได้ใจมากสองเรื่องนี้)
2. Robert Downey JR. (Iron Man)
ก่อนจะกลายมาเป็นโทนี่ สตาร์ค อัจฉริยะ นักบุญ เพลย์บอย ผลงานที่ผ่านมาก็ดีใช่ย่อย ไม่ว่าจะเป็น Chaplin ภาพยนตร์อัตชีวะประวัติของ ชาลี แชปลิน ดาวตลกชื่อดังที่เส้นทางชีวิตนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือ Zodiac ฆาตกรต่อเนื่องที่สร้างจากเหตุการณ์จริง ที่ลุงโรเบิร์ตรับบทเป็นนักข่าวที่ต่อกรกับฆาตกรด้วยสำนวนโวหาร ไม่เพียงเท่านี้ แกยังเคยป็นถึงนักสืบสมองเพชรอย่างเชอลอค โฮล์มในเรื่อง Sherlock Holmes อีกด้วย ซ้ำยังแสดงเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่ต้องแสดง(งงมะ 555)เป็นจ่าผิวหมึกได้อย่างฮาใน Tropic Thunder ด้วยนะ
Chaplin ผลงานชิ้นแรกๆ ทั้งยังเป็นผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตของ Robert Downdy Jr.
Tropic Thunder ภา่พยนตร์ฮาอุจจาระร่วงที่เขาต้องรับบทเป็นนักแสดงที่ต้องแสดงเป็นคนผิวหมึกอีกที
3. Scarlett Johansson (Black Widow)
นักแสดงสาวหุ่น-เสียงเซ็กซี่ที่ไม่ได้มีดีแค่ภายนอกเท่านั้น เพราะผลงานของเธอที่ผ่านมาสามารถการันตีความเป็นดาราเจ้าบทบาทได้เลยไล่ตั้งแต่ Lost in Translation ภาพยนตร์อารมณ์เหงาในเมืองใหญ่ ที่ต้องยกเครดิตซีนแสดงอารมณ์ในเรื่องให้เธอ, Match Point ภาพยนตร์โรแมนติก ดราม่าว่าด้วยสัมพันธ์ชู้สาวต้องห้ามที่มีสกาเล็ตเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง แถมเธอยังเคยร่วมงานกับผู้กำกับแห่งทศวรรษอย่างคริสโตเฟอร์ โนแลน ในภาพยนตร์มายากลหยุดโลกอย่าง The Prestige และ Her ที่แม้จะไม่ได้โผล่มาแสดงแต่ก็ได้ฝากบทบาทอันสำคัญผ่านเสียงสุดเซ็กซี่ของเธอ
Match Point ที่ภาพยนตร์ใช้ความเซ็กซี่ของเธอได้อย่างคุ้มค่า
Lost in Translation คือผลงานที่ทำให้โลกรู้ว่าเธอนั้นไม่ได้มีดีแค่ภายนอก
ไม่ต้องหาตัวเธอในเรื่อง ฟังแค่เสียงเพราะๆ ในเรื่อง Her ก็พอ
4. Sebastian Stan (Winter Soldier, Bucky)
ส่วนใหญ่เขาจะปรากฏตัวบนภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ในบทตัวประกอบ แต่เรื่องที่ทำให้เซบาสเตียนได้แจ้งเกิดจริงๆ คงจะเป็น The Convenent ที่ว่าด้วยทายาทจอมเวทย์ทั้งสี่ต้องสืบเสาะหาความจริงว่าใครเป็นคนใช้พลังเวทย์อันลึกลับที่ทยอยฆ่าชีวิตเพื่อนของเขา ซึ่งเซบาสเตียน สแตนนั้นได้ฝากผลงานไว้ในเรื่องนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนจะรับบทเป็นอะไรนั้นขอแนะนำให้ไปพิสูจน์กันเอง (งดสปอยด์ อิอิ)
ส่วนใหญ่เขาจะเน้นหนักไปทางทีวีซีรีส์และโผล่เป็นนักแสดงประกอบบ้าง
The Covenant คือภาพยนตร์เรื่องแรกๆ ที่เคยแสดง
5. Anthony Mackie (Falcon)
นักแสดงหน้าใหม่ไฟแรงสูงที่ผลงานแต่ละชิ้นของเขานั้นไม่แพ้ใครหน้าไหน ไม่ว่าจะบทแรพเปอร์สุดเถื่อนใน 8 Miles ที่ได้ปะทะฝีปากกับ Eminem และค่อยๆ ทยอยหย่อนฝีมือการแสดงผ่านการเป็นตัวประกอบเรื่อยมาไล่ตั่งแต่ Million Dollar Baby , The Hurt Locker , Real Steel , จนมาถึงสงครามปะฉะดะกับเหล่าแวมไพร์ใน Abraham Lincoln จนถึงเข้าร่วมหน่วยปราบปรามแกงค์มาเฟียอย่าง Gangster Squad และได้แสดงฝีมือการแสดงใน No Pain No Gain
8 Mile s ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ได้ประชันแรพกับ Eminem
เขาได้มีโอกาสแสดงร่วมกับเจ้าฝีมืออย่าง The Rock และ Mark Walberg ในภาพยนตร์ตลกร้าย อย่าง No Pain No Gain
6. Don Cheadle (War Machine)
เอาเข้าจริงๆ ดอน เชียเดิล ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงอยู่แล้ว เพราะก่อนจะมารับบทบาทเป็น War Machine เขาได้เคยฝากผลงานมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์แนวปล้นสมองบวมรวมซุปเปอร์สตาร์อย่าง Ocean Eleven , Ocean Twelve , Ocean Thriteen และผลงานดราม่าเปี่ยมด้วยพลังการแสดงที่ส่งให้ดอน เชียเดิลเข้าชิงรางวัลออสก้าอย่าง Hotel Rwanda เป็นต้น
Hotel Rwanda ผลงานสร้างชื่อบรรลือไกลให้กับเขา
มือวางระเบิดเจ้าอารมณ์ นี่แหล่ะบทบาทของเขาใน Ocean 11 – 13
7. Jeremy Renner (Hawk Eye)
เจ้าของบทนักธนูนัยน์ตาเหยี่ยวคนนี้ดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อรับบทเป็นบุรุษในเครื่องแบบ (5555) ไล่ตั้งแต่การเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยสวาทสุดฉ้อโกงใน S.W.A.T. พลแม่นปืนที่ต้องส่องกบาลเหล่าซอมบี้ใน 28 Weeks Later ต่อด้วยสิบเอกใจถึงในภาพยนตร์กู้ระเบิดสุดระทึกอย่าง Hurt Locker ปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายร่วมกับทอม ครูส ใน Mission Impossible – Ghost Protocol เป็นสายลับสมองเสื่อมใน Bourne Legacy แถมยังเคยเป็นนายกที่ตกเป็นแพะรับบาปจากการคอรัปชั่นการเมืองใน American Hustle อีก
ดูเหมือนเจเรมี่จะเกิดมาเพื่อรับบทเป็นเจ้าหน้าที่แฮะ
เคยร่วมมือกับทอม ครูซใน MI4: Ghost protocol ด้วยนะ
8. Chadwick Boseman (Black Panther)
อาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตาผลงานเก่าๆ ของเขาสักเท่าไหร่ เพราะมักจะไปโผล่เป็นนักแสดงประกอบตามซีรีส์ต่างๆ เสียส่วนใหญ่ แต่เห็นอย่างนี้แล้วเขาเคยได้รับบทเป็นนักร้องผิวสีฉายาเจ้าพ่อเพลงโซลอย่าง James Brown ในภาพยนตร์อัตชีวประวัติ Get on Up แถมยังเคยเป็นถึงเทพเจ้าแห่งความล่วงรู้ใน God of Egypt มาแล้วการมารับบท Black Panther นั้นจึงดูจะไม่ใช่ปัญหาของพ่อหนุ่มคนนี้สักเท่าไหร่
แม้จะไม่เหมือนมากนักแต่อินเนอร์การแสดงถือว่าสามผ่านนะ
ลุคเทพก็เท่ไม่หยอกนะ
9. Paul Bettany (Vision)
ด้วยหน้าตา-น้ำเสียงที่ดูเจ้าเล่ห์ลึกลับอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขาได้มีโอกาสพากย์เสียงเป็น J.A.R.V.I.S ใน Iron Man ก่อนที่จะกลายมาเป็นซุปเปอร์ฮีโร่พลังมหาศาลอย่าง Vision แต่กระนั้นผลงานอื่นที่ผ่านมาของเขานั้นถือว่าหลากหลาย แถมยังเคยเป็นทั้งพระเอกและตัวร้าย ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้าอาชญากรใน Firewall , นักบวชคลั่งศาสนาใน The Da Vinci Code , นักกายกรรมไฟผู้แสนโศกเศร้าใน Inkheart , เทวดาตกสวรรค์ใน Legion และนักบุญพิฆาตแวมไพร์ใน Priest
อาจเพราะหน้าตาที่ดูเจ้าเล่ห์ บทตัวร้ายจึงเข้ากับเขาเป็นอย่างดีใน Firewall
(ซ้าย Legion , ขวา Priest) แม้จะได้รับบทพระเอกแต่ก็ไม่ไหวลายออกแนวๆ แกมโกง
10. Elizabeth Olsen (Scarlet Wtich)
จอมเวทย์สาวแพราวเสนห์คนนี้นั้น ผลงานที่ผ่านมาส่วนใหญ่ออกไปทางภาพยนตร์แนวอินดี้ดราม่า ก่อนที่จะก้าวกระโดดไปแสดงในเรื่อง Oldboy ภาพยนตร์แนวแอกชั่น ทริลเลอร์ที่เธอนั้นลงทุนเปลือยกายเล่นฉากนู้ดเลยทีเดียว และในเวลาต่อมาไม่นานนักก็ก้าวมาสู่การเป็นนักแสดงแนวหน้าด้วยผลงานถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศอย่าง Godzilla ฉบับตุ้ยนุ้ยน่ากอดในเวอร์ชั่นรีเมค
บทบาทพยาบาลอาสาสมัครสุดสวยใน Oldboy
ใจละลายคนอะไรเกิดมาน่ารักน่าหยิก (อินเนอร์คนเขียนล้วนๆ 555)
11. Paul Rudd (Ant-Man)
แม้จะมีดราม่าการถอนตัวของผู้กำกับตลกสุดอัจฉิรยะอย่าง Edgar Wright แต่ดูเหมือนผลกระทบนั้นดูจะไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร นั่นก็เพราะผู้ที่มารับบท Ant-Man ยังคงเป็น Paul Rudd ที่เป็นนักแสดงขวัญใจประชาชนอยู่แล้ว และเชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาจากหนังตลกเบาสมองหลายเรื่องที่ผ่านมา โดยผลงานที่เด่นๆ ของเขานั้นได้แก่ Anchorman: The Legend of Ron Burgundy ที่แสดงเป็นนักข่าวขี้หลีสาวเป็นชีวิตจิตใจ , The 40 Year Old Virgin และ Knocked Up นั่นเอง
ลุคกวนๆ ใน Anchorman: The Legend of Ron Burgundy
นักแสดงตลกที่แฟนคลับวางใจได้เสมอไม่ว่าจะโผล่ไปเรื่องไหน ( ในภาพจากเรื่อง Knocked Up)
ฉากด่ากันไปกดเกมไปสุดฮา(ผู้เขียนชอบฉากนี้มาก เพราะนักแสดงด้นสดคำพูดล้วนๆ)จากเรื่อง The 40 Year Old Virgin
12. Tom Holland (Spider-Man)
ตาวรุ่งพุ่งแรงด้วยวัยเพียง 19 ปีแต่สามารถคว้าบท Spider-Man ซุปเปอร์ฮีโร่ขวัญใจแฟนบอยมาได้ เห็นอย่างนี้ผลงานที่ผ่านมาของเขานั้นเต็มไปด้วยคุณภาพทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น The Impossible ที่สร้างจากเรื่องจริงของการตามหาสมาชิกที่หายไปของครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวสเปนในเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิที่ภูเก็ต หรือจะเป็นนักล่าวาฬใน In the Heart of the Sea ที่ได้ร่วมแสดงกับพ่อหนุ่ม Thor หรือ Chris Hemsworth
ฝีมือการแสดงของเขาเฉิดฉายตั้งแต่เรื่องนี้แล้ว (The Impossible)
การได้ร่วมแสดงกับดาราทำเงินทั้งหลาย ก็พอจะเห็นได้ว่าพ่อหนุ่มคนนี้นั้นฝีมือการแสดงก็ไม่เบา (ภาพจากเรื่อง In the Heart of the Sea)
หากมีเวลาว่างก็ลองหาหนังในลิสท์ที่เราได้จัดมาให้ไปดูสักเรื่อง สองเรื่อง รับรองว่าจะยิ่งรักในตัวพวกเขามากกว่านี้อย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ขอตัวไปดู Elizabeth Olsen ก่อนละกันนะครับ 5555