"วันนี้ในอดีต" by play
วันที่ 25 เมษายน 2529 หรือวันนี้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Gradius เกมยานยิงตะลุยด้านข้าง หนึ่งในซีรีส์ยอดฮิตของค่าย Konami บนเครื่อง Famicom ที่ประเทศญี่ปุ่น โดย Gradius นั้นเคยลงในรูปแบบตู้อาเขดหยอดเหรียญมาตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2528 ก่อนที่ทาง Konami จะทำการพอร์ตลงเครื่องคอนโซลในปีถัดมา
ในเกม Gradius ผู้เล่นจะได้บังคับยานรบที่มีชื่อว่า "วิคไวเปอร์" โดยต้องบุกไปจนถึงท้ายฉากของแต่ละด่านเพื่อสู้กับบอส ซึ่งบอสส่วนใหญ่ก็จะเป็นยานรบขนาดยักษ์ที่มีรูปร่างแตกต่างกันไป บ้างก็จะดูคล้ายกับสัตว์ประหลาด แต่วิธีการปราบบอสหลักๆ ก็จะเป็นการยิงทำลายเกราะป้องกันแกนกลางของยานบอส ที่พอทำลายเกราะได้แล้ว ก็จะยิงแกนกลางที่เป็นจุดอ่อนของบอสได้ ทั้งนี้ ยานวิคไวเปอร์จะสามารถอัพเกรดตัวเองได้ ด้วยการเก็บไอเทมที่ดรอปในฉาก ที่มักจะดรอปหลังยิงศัตรูตอนต้นฉากที่วิ่งมาเป็นแถว หรือศัตรูที่มีสีส้ม เมื่อเก็บได้แล้วก็จะขึ้นแถบสว่างที่เกจด้านล่าง โดยเกจจะมีทั้งหมด 6 ช่อง ถ้าเกจไปสว่างที่ช่องไหน ผู้เล่นจะสามารถดึงความสามารถที่อยู่ในช่องนั้นได้ หรือถ้าไม่ดึงและเก็บไอเทมมาเพิ่ม เกจก็จะสว่างในช่องถัดไปแทน
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Gradius
- Gradius สมัยที่ยังเป็นตู้อาเขดหยอดเหรียญ ได้เคยนำไปเปิดให้บริการในประเทศซีกโลกตะวันตกด้วย แต่มีการเปลี่ยนชื่อเกมให้ดูแล้วน่าเล่นยิ่งขึ้น ซึ่งชื่อนั้นก็คือ Nemesis นั่นเอง ทว่าในภายหลัง ชื่อ Gradius ก็ถูกใช้เหมือนกันทั่วโลก เพื่อคงความเป็นสากลร่วมกัน
- เกม Gradius ภาคแรก ถือเป็นเกมแรกของโลกที่พัฒนาโดยค่าย Konami ที่มีการนำ Konami Code มาใช้ โดยระหว่างเล่นเกมอยู่นั้น หากผู้เล่นกดปุ่ม Start เพื่อ Pause เกมไว้ แล้วลองกดปุ่ม บน, บน, ล่าง, ล่าง, ซ้าย, ขวา, ซ้าย, ขวา, B, A แล้วกดปุ่ม Start เพื่อกลับเข้าสู่เกม ยานวิคไวเปอร์ของเราก็จะได้รับอัพเกรดของยานทุกอย่างทันที (ยกเว้น Speed Up, ปืน Double และปืน Laser)
- Konami Code หรือสูตรโกงประจำค่าย Konami ที่ผู้เล่นน่าจะคุ้นกันดีกับการใช้เป็นสูตร 30 ตัวในเกม Contra ซึ่งสูตรนี้ถูกริเริ่มครั้งแรกโดยคุณคาซุฮิสะ ฮาชิโมโตะ นักพัฒนาเกมของบริษัท Konami ที่รับหน้าที่พอร์ตเกม Gradius จากเวอร์ชั่นตู้อาเขดหยอดเหรียญมาลงเครื่อง Famicom โดยตัวคุณฮาชิโมโตะเองต้องทำการทดลองเกมเพื่อตรวจสอบหาบั๊กต่างๆ ที่อาจจะหลงเหลือในเวอร์ชั่นพอร์ต แต่ก็พบว่า Gradius นั้นมีความยากเกินกว่าที่เขาจะเล่นจนจบได้ จึงได้เขียน Konami Code ลงไปในเกมเพื่อใช้สูตรนี้ในการทำให้เล่นเกมได้ง่ายขึ้น ทว่าพอถึงขั้นตอนที่เกมแล้วเสร็จ และต้องส่งให้ฝ่ายอื่นทำการอัดเกมลงตลับเพื่อเตรียมการจัดจำหน่าย เขากลับลืมเอา Konami Code ออกจากเกม เลยทำให้พอเกมวางจำหน่ายไปแล้ว ผู้เล่นก็เลยพบสูตรนี้และบอกต่อกันปากต่อปากจนแพร่หลาย
- Gradius ภาคแรกสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 1 ล้านชุดในญี่ปุ่น โดยทางสำนักข่าว Gamespot ได้ยกให้ Gradius เป็นเกมแนวชู้ตติ้งลุยด้านข้างของ Konami ที่ยอดเยี่ยมเป็นอันดับ 2 รองจากเกม Contra
- จากความสำเร็จของเกม Gradius ทำให้ทาง Konami เข็นภาคต่อของซีรีส์นี้ออกมามากมาย และยังมีการทำภาค Spin-off ภายใต้ชื่อต่างๆ อีกเพียบ อาทิ Salamander หรือ Parodius เป็นต้น แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า Gradius ภาคหลังๆ รวมถึงภาค Spin-off ต่างไม่สามารถไปถึงดวงดาวเหมือนอย่างที่ภาคแรกเคยทำได้เลย โดยภาคล่าสุดของซีรีส์ Gradius ก็คือ Gradius ReBirth ซึ่งลงให้กับเครื่อง Wii เมื่อปี 2551 และนั่นก็คือภาคสุดท้ายที่เหล่าเกมเมอร์ได้เห็นซีรีส์นี้โลดแล่นอยู่ในวงการเกมครับ
