มาเพียบ! ข้อมูลเพิ่มเติมของ Final Fantasy XV จากนิตยสาร Game Informer

นิตยสาร Game Informer ฉบับล่าสุดได้ลงรายละเอียดจำนวน 20 หน้าของ Final Fantasy XV ไว้ให้ได้อ่านกันซึ่งก็มีรายละเอียดใหม่ๆมากมาย และเว็บไซต์ Nova Crystallis ก็ได้รวบรวมรายละเอียดมาให้ตามที่ปรากฏด้านล่าง

• ในทีแรกที่ทีมเริ่มต้นพัฒนา Final Fantasy XV นั้น ภาพลักษณ์ของเกมยังไม่ชัดเจนนัก

• คุณ Tabata เชื่อว่าแฟรนไชส์นี้จะไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้เลยหากว่าไม่ยอมละวางศักดิ์ศรีเดิมๆลง เขารู้ว่าแฟนๆยังคงมีความหวังในทิศทางที่ซีรีส์นี้จะมุ่งหน้าไป

• คุณ Tabata และทีมงานในแผนก Business Division 2 ได้นิยามของคุณภาพหลักสามประการที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นตัวกำหนดแบรนด์ของ Final Fantasy นั่นคือ ท้าทายสถานะของสิ่งที่เป็นอยู่, มอบประสบการณ์อันสุดพิเศษ และก็การใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เขาคิดว่าภาค 7 ถือเป็นภาคล่าสุดในซีรีส์ที่มีครบทั้งสามประการเช่นว่านั้น ส่วน Final Fantasy XV นี้ถือเป็นช่วงที่เรียกได้ว่า “จะอยู่หรือจะไป” ถือเป็นโอกาสที่จะดึงแฟนหน้าเก่าที่ห่างเหินกันไปและแฟนหน้าใหม่เข้ามาด้วยกัน

• พอเริ่มพัฒนาให้เป็น Final Fantasy XV นั้น ตัวเกมก็หลุดจากการเชื่อมโยงกับ Fabula Nova Crystallis ไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ตัวละครอย่าง Stella จาก Versus XIII เองก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และถึงแม้ว่าทีมพัฒนาจะพยายามรักษาคอนเซปต์ดั้งเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุดแต่พวกเขาก็ใช้โอกาสนี้ปั้นแต่ง XV ให้เป็นรูปร่างเต็มตัวไปด้วย

• เนื้อเรื่องของ Final Fantasy XV จะเน้นมิตรภาพ, ชะตากรรมและมรดกที่สืบทอดกันมา

• ในตอนที่เราเริ่มเกมนั้น จะมีการต่อสู้เกิดขึ้นในสถานที่ที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย ซึ่งก็คล้ายกับภาค 2 ที่เริ่มเกมมาก็ได้สู้กับบอสเลย และการต่อสู้นี้จะถือเป็นฉากฝึกหัดก่อนจะเข้าสู่บทที่ 1 ด้วย

• บทที่ 1 จะเริ่มต้นขึ้นทันทีหลังจากฉากเปิดที่ Noctis และเพื่อนๆกำลังเดินทางบนถนนไปสู่ Altissia ซึ่ง Regalia จะไปเสียในบริเวณพื้นที่ Leide และทั้งทีมก็จะต้องออกจากรถเพื่อเข็นรถไปที่ปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด ตรงนี้จะเป็นพื้นที่แรกที่ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับฉากโอเพนเวิลด์

• Noctis และเพื่อนๆ จะได้พบกับทั้ง Cid และ Cidney และเธอก็จะมอบหมายเควสต์ต่างๆให้กับทีมในระหว่างที่กำลังซ่อมแซมรถให้

• ไอเดียที่ว่าเป็นแฟนตาซีซึ่งอิงบนพื้นฐานความเป็นจริงก็ยังคงอยู่ เพราะที่ปั๊ม Hammerhead นั้น คุณจะได้ยินเพลง Heart of Gold ของ Neil Young บรรเลงให้ฟัง

• ช่วงต้นของเกมจะเต็มไปด้วยภาพที่คุ้นตาก่อนที่จะเริ่มใส่สิ่งต่างๆเข้ามาให้รู้สึกว่านี่คือโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์

• จะมีตัวเลือกบทสนทนาในเกมที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น Noctis จะสามารถถามเพื่อนๆเพื่อขอคำแนะนำได้แทนที่จะขอส่วนลดหรือกู้ยืมเงินจาก Cidney ซึ่งรางวัลที่จะได้จากตัวเลือกเหล่านี้ดูจะเป็นพวกโบนัสเพิ่มสถานะคล้ายกับการกินอาหารหรือการพักผ่อน

• ระบบการต่อสู้จะพัฒนาไปจากเดโมอย่างมาก การบังคับจะตอบสนองดีขึ้นและสามารถเปลี่ยนอาวุธได้ทันทีโดยการใช้ปุ่มทิศทาง มีแท็บสำหรับดาบ, มีดสั้น, หอก, ปืน, โล่, ศาสตราราชนิกูล และเวทย์ธาตุต่างๆ นอกจากนั้นยังมีหมวดที่เรียกว่าเครื่องจักรด้วย แต่จะมีประโยชน์อย่างไรนั้นยังไม่ได้รับการเปิดเผย

• เวทย์มนต์ต่างๆจะต้องทำการเก็บรวบรวมเสมือนเป็นทรัพยากร และจะสามารถเติมได้ตามสถานที่ต่างๆบนแผนที่ (คิดซะว่าคล้ายกับระบบ Draw ของภาค 8)

• รถ Regalia นั้น จะมีกระโปรงรถที่ทำหน้าที่เป็นกล่องเก็บของของทั้งทีม คุณอาจจะต้องจ่ายเงินเติมน้ำมันเป็นครั้งคราวแต่ราคาจะไม่สูงนัก ตัวรถเองก็จะเล่นเพลงจากวิทยุให้ฟังซึ่งก็ล้วนแต่เป็นเพลงรีมิกซ์จาก Final Fantasy ภาคเก่าๆ เช่น เพลง “Final Fantasy”

• ในระหว่างที่มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายนั้น Prompto อาจจะขอให้หยุดรถเพื่อแวะถ่ายรูป ซึ่งรูปที่ถ่ายไว้จะสามารถเอามาดูได้ตอนแวะตั้งแคมป์และยังสามารถแชร์ลงบน social media ได้ด้วย และถ้าให้ Prompto ถ่ายรูปบ่อยๆ ฝีมือถ่ายภาพของเขาก็จะพัฒนาขึ้นอีกด้วย

• ตัวละครหลักทั้งสี่จะมีความสามารถพิเศษต่างกัน Noctis จะตกปลาได้, Ignis จะทำอาหารได้ และ Gladio จะมีสัญชาตญาณในการดำรงชีพที่สูง ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถ “เลเวลอัพ” ได้หากว่าเล่นไปเรื่อยๆ

• เมื่อเรียกใช้มนต์อสูรออกมา พวกมันจะไม่ทำแบบเดิมเสมอไป เพราะพวกนี้คือตัวตนที่ดำรงอยู่ในโลกนี้ เพราะฉะนั้นพวกมันอาจจะทำอะไรที่ต่างออกไปตามแต่สถานการณ์ในขณะนั้น ยกตัวอย่างเช่น บางครั้ง Titan ก็จะวิ่งเข้าใส่แล้วโจมตีศัตรู แต่บางครั้งก็จะยกหินขึ้นมาเขวี้ยงใส่ศัตรู นอกจากนั้นแล้วบางทีก็จะถอดใจแล้วออกจากการต่อสู้ไปดื้อๆเลย ที่สำคัญคือหากอยู่ในดันเจี้ยนแล้วพวกมันก็จะมีพฤติกรรมที่ต่างออกไปจากตอนอยู่ในฉากโอเพนเวิลด์อีกด้วย

• สุนัขดำที่เห็นในเทรลเลอร์นั้นเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ ชื่อของมันคือ Umbra

• Noctis และเพื่อนๆจะได้พบกับภูติ Ardyn แห่ง Niflheim ในช่วงต้นเกมระหว่างที่มุ่งหน้าไปยัง Altissia

• ตัวเควสต์จะมีทั้งหมดสี่ประเภทนั่นคือ เอาสนุก (เช่นการตกปลาหรือการแข่งโชโคโบะ), เนื้อเรื่องหลัก, ล่ามอนสเตอร์และเควสต์ประจำพื้นที่ ในตอนนี้มีเควสต์มากกว่า 200 เควสต์ในเกมแต่ทีมงานกำลังจะเพิ่มเข้าไปอีก

• เมื่อเล่นไปก็จะสามารถสังเคราะห์เวทย์เพื่อสร้างเวทย์ที่รุนแรงกว่าเดิมได้ เช่น Blizzara

• อาวุธจะสามารถพัฒนาได้ด้วยวัตถุดิบที่รวบรวมมาในโลกและรวมถึงที่ได้มาจากการต่อสู้ แต่วิธีหลักที่จะพัฒนาตัวละครก็คือการใช้ ability points ที่สะสมมาจากการเลเวลอัพ

• คุณจะมีตัวเลือกว่าจะอัพเกรด Noctis และเพื่อนๆยังไง เช่น การเน้นเสริมประสิทธิภาพของการหลบอัตโนมัติหรือจะเพิ่มคำสั่งใหม่ๆให้พวกเขาก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นการช่วยให้ผู้เล่นหาแนวทางการเล่นของตัวเอง

• Luna ถือเป็นตัวละครที่คอยสนับสนุน Noctis ให้ทำตามชะตากรรมของตน และเธอก็ยังเป็นนางเอกแบบที่คุณอยากจะพบแต่ก็ไม่อาจเข้าถึงได้

• คุณ Tabata ไม่มีความคิดที่จะสร้างภาคต่อของเกมนี้เลย เขาอยากให้คนซื้อเกมไปเล่นแล้วสนุกกับมันได้เป็นเวลานานๆ ซึ่งก็ไม่ได้หมายความถึงแค่เนื้อหาเสริมเท่านั้นแต่ยังหมายความถึงสิ่งอื่นๆที่จะช่วยสร้างประสบการณ์อันน่าสนใจให้ผู้เล่นด้วย