"วันนี้ในอดีต" by play
วันที่ 6 เมษายน 2533 หรือวันนี้เมื่อ 26 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Ninja Ryukenden II: Ankoku no Jashin Ken บนเครื่อง Famicom ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเกมนี้คนไทยในยุคนั้นจะนิยมเรียกกันว่า "นินจาริวเคนเด็น" แต่ในนอกประเทศญี่ปุ่นจะใช้ชื่อเกมว่า Ninja Gaiden II: The Dark Sword of Chaos แทน และหลังจากที่เกมนินจาริวเคนเด็นออกมาจนถึง 3 ภาคบนเครื่อง Famicom ซีรีส์นี้ก็เงียบหายไปนาน ซึ่งทาง Tecmo ไม่ได้หยิบมาทำภาคใหม่อีกเลย จนกระทั่งคุณโทโมโนบุ อิตางาคิ หรือที่เกมเมอร์ชาวไทยคุ้นชื่อฉายาของเขาว่า "เฮียแว่นดำ" ได้เข้ามารีบูตซีรีส์นี้อีกครั้งให้กลายเป็นเกมแนว Hack & Slash อันโด่งดัง ภายใต้ชื่อ Ninja Gaiden ที่ใช้ร่วมกันทั่วโลกนั่นเอง
เรื่องราวของ Ninja Ryukenden II จะเป็นเหตุการณ์ช่วง 1 ปีให้หลังจากภาคแรก เมื่อจักรพรรดิมารนามว่า แอชตาร์ ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของจาคิโอ บอสใหญ่จากภาคแรกและเป็นสมุนมือขวาของแอชตาร์ (คำว่า จาคิโอ เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า 邪鬼王 มีความหมายคือ "ราชันปีศาจ") จึงคิดแผนชั่วร้ายขึ้นใหม่เพื่อที่จะครองโลกและทำให้โลกทั้งใบต้องตกอยู่ในความมืดมิดไปตลอดกาล โดยอาศัยพลังของดาบปีศาจที่มีชื่อว่า Dark Sword of Chaos เป็นเครื่องมือช่วยให้แผนการนี้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่จากกองทัพสหรัฐฯ นามว่า โรเบิร์ต สเตอร์เจี้ยน เลยต้องออกตามหา ริว ฮายาบุสะ พระเอกของเราให้มาช่วยหยุดยั้งแอชตาร์กับลูกสมุน พร้อมกับช่วย ไอรีน หลิว แฟนสาวของริวที่ถูกจับตัวไปกลับมาด้วยเช่นกัน
ระบบของภาค 2 จะเป็นการนำจุดเด่นของภาคแรกมาปรับปรุงใหม่ พร้อมกับแก้ไขจุดด้อยที่เคยมีในภาคแรกให้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน ซึ่งภาคนี้ริวจะสามารถไต่กำแพงในแนวดิ่งได้แล้ว จากที่ในภาคแรกจะต้องใช้วิธีกระโดดชิ่งกำแพงไปมาเท่านั้น พร้อมกันนี้ก็มีการเพิ่มท่าไม้ตายใหม่ๆ ให้ผู้เล่นได้เก็บมาใช้ระหว่างทางด้วย ได้แก่ ท่า Split Body ที่จะเป็นการแยกร่างของริวออกมาอีกคนนึงเพื่อช่วยโจมตี ซึ่งสามารถเก็บได้ถึง 2 ชิ้นเพื่อแยกร่างได้อีก 2 ร่างพร้อมๆ กันด้วย และร่างที่แยกออกมาจะออกแอ็กชั่นเลียนแบบริวทุกประการ ถ้าริวโจมตีด้วยการฟัน ร่างแยกก็จะฟันตาม ถ้าริวกระโดด ร่างแยกก็กระโดดตาม เป็นต้น โดยร่างแยกจะหายไปก็ต่อเมื่อผู้เล่นโดนศัตรูโจมตีจนตาย หรือตกเหวตายไปเอง
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Ninja Ryukenden II: Ankoku no Jashin Ken
- คำว่า "Ninja Ryukenden" (นินจาริวเคนเด็น) เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า 忍者龍剣伝 โดยความหมายของมันก็คือ "ตำนานดาบมังกร" นั่นเองครับ
- ภาคนี้เป็นภาคที่ได้รับคะแนนรีวิวเฉลี่ยสูงสุดจากนักวิจารณ์เกือบทุกสำนัก (นับเฉพาะไตรภาคริวเคนเด็นบนเครื่อง Famicom) และเป็นภาคที่ทำให้เกมเมอร์ในไทยในสมัยนั้นเริ่มรู้จักซีรีส์นี้ หลังจากที่ภาคแรกยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก อีกทั้งภาค 2 นี้ก็ยังได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลธีมเกมยอดเยียม, เกมเพลย์ยอดเยี่ยม, ตัวละครนำยอดเยี่ยม (ริว ฮายาบุสะ), ตัวร้ายยอดเยี่ยม (แอชตาร์) และเกมยอดเยี่ยมประจำปี 1990 (พ.ศ. 2533) ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นการโหวตจากกลุ่มผู้อ่านนิตยสาร Nintendo Power ที่มีฐานผู้อ่านสูงสุดในขณะนั้น ซึ่งแม้ Ninja Ryukenden II จะไม่สามารถคว้ารางวัลใดๆ มาได้เลย แต่อย่างน้อยเกมนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในใจของแฟนๆ แล้ว
- คุณฮิเดโอะ โยชิซาว่า โปรดิวเซอร์ของเกมนี้ได้ใช้นามแฝงของตัวเองในเครดิตของเกมว่า "Sakurazaki" โดยเขาได้ออกจาก Tecmo และย้ายเข้าไปทำงานกับ Namco ในช่วงประมาณปี 2535-2536 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งระหว่างที่เขาอยู่กับทาง Tecmo ก็ได้มีผลงานพัฒนาเกมทั้งหมด 4 เกมด้วยกัน ได้แก่ นินจาริวเคนเด็นทั้ง 3 ภาค (ภาคแรกในฐานะไดเร็กเตอร์และผู้เขียนบท และภาค 2 กับ 3 ในฐานะโปรดิวเซอร์) และ Radia Senki: Raimeihen
