วันนี้ในอดีต by play: 5 เมษายน

แชร์เรื่องนี้:
วันนี้ในอดีต by play: 5 เมษายน

"วันนี้ในอดีต" by play

วันที่ 5 เมษายน 2539 หรือวันนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Rudra no Hihō (หรือแปลเป็นไทยว่า สมบัติแห่งรูดร้า) บนเครื่อง Super Famicom ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเกมนี้เป็นเกมสุดท้ายที่พัฒนาโดยบริษัท Squaresoft (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน) เพื่อลงให้กับเครื่อง Super Famicom ก่อนที่จะย้ายแพลตฟอร์มไปสู่เครื่อง PS1 ที่กำลังได้รับความนิยมแทนที่เครื่อง Super Famicom ที่กำลังจะโรยราลงไป

เกม Rudra no Hihō เป็นเกมแนว RPG ที่มีพล็อตเรื่องแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ โดยที่แต่ละส่วนจะมีตัวละครนำพล็อตละ 1 คน ได้แก่เนื้อเรื่องของทหารนามว่า ซิออน, นักบวชหญิงนามว่า ริซ่า และนักโบราณคดีที่มีชื่อว่า เซอร์เลนท์ ซึ่งผู้เล่นจะต้องผจญภัยในดินแดนใหม่ๆ พร้อมกับรับเควสต์มาทำ ขณะเดียวกัน ตัวเกมจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลือกเล่นเนื้อเรื่องของใครก่อนก็ได้ และการกระทำของตัวละครหนึ่งในสถานที่หนึ่งก็จะส่งผลต่อตัวละครอื่นๆ ตามไปด้วย เมื่อเล่นจนจบทั้ง 3 เนื้อเรื่องแล้ว ก็จะมีเนื้อเรื่องที่ 4 คือจอมโจรชื่อ ดูน ที่จะได้รวมตัวกับฮีโร่จาก 3 เนื้อเรื่องแรกเพื่อบุกไปปราบบอสใหญ่ของเกมด้วยกัน

เกมเพลย์ของเกมนี้จะมีจุดเด่นอยู่อย่างหนึ่งครับ นั่นก็คือระบบการใช้เวทมนตร์ ซึ่งในเกม RPG ทั่วไปจะให้ผู้เล่นได้เลือกใช้เวทมนตร์จากรายชื่อที่ปรากฏในเมนู โดยการใช้แต่ละครั้งจะหักค่าพลังเวทที่เรียกว่า MP หรือ SP (แล้วแต่เกมนั้นๆ จะเรียก) ตามจำนวนที่เกมระบุไว้ แต่ใน Rudra no Hihō จะให้ผู้เล่นได้สร้างสรรค์การใช้เวทมนตร์ได้อย่างอิสระ ด้วยการป้อนพยัญชนะที่เรียกว่า โคโตดามะ ทีละตัวเพื่อให้ประกอบเป็นคำแล้วยิงเวทออกไป ซึ่งพยัญชนะแต่ละตัวก็จะส่งผลต่อรูปแบบของเวทที่แตกต่างกัน เวทที่ออกมาก็จะมีทั้งดีบ้าง ห่วยบ้าง อย่างไรก็ตาม ระบบเวทของเกมนี้ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง จะเสียดายก็เพียงแค่เกมนี้ดันออกมาสู่สายตาเกมเมอร์ช้าเกินไป หรือถ้าหากเกมนี้ได้ลงในเครื่อง PS1 ในเวลาไล่เลี่ยกัน อาจจะได้กระแสตอบรับที่ดีและกว้างกว่านี้

Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Rudra no Hihou

- แม้ว่า Rudra no Hihō จะถูกพัฒนาเป็นเกมสุดท้ายสำหรับลงเครื่อง Super Famicom จากทาง Squaresoft ก็จริง แต่ถ้าหากดูจากตารางวันวางจำหน่ายแล้ว ยังมีเกมที่วางจำหน่ายหลังจากเกมนี้อยู่อีกเกมหนึ่ง ซึ่งก็คือ Treasure Hunter G ที่วางจำหน่ายในวันที่ 24 พฤษภาคม ในปีเดียวกัน หรือหลังจาก Rudra no Hihō เพียงเดือนเศษเท่านั้น ทว่า Treasure Hunter G นั้นได้ถูกพัฒนามาก่อนเกม Rudra no Hihō อยู่พอสมควร

- เกม Rudra no Hihō ไม่มีการทำเป็นเวอร์ชั่นอังกฤษสำหรับขายในประเทศฝั่งตะวันตกอย่างเป็นทางการ โดยมีสาเหตุหลักคือบรรดานักพัฒนาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแปลงภาษาในตัวเกมได้โยกไปร่วมพัฒนาเกมบนเครื่องเจนใหม่ ได้แก่ PlayStation, Sega Saturn หรือ 3DO กันหมดแล้ว อีกทั้งระบบเวทมนตร์ของเกมนี้มีความซับซ้อนในเรื่องของการให้คำอธิบายแก่ผู้เล่นมาก เพราะต้องมีการใส่พยัญชนะญี่ปุ่นตัวต่างๆ มาผสมกันเป็นคำเพื่อยิงเวทออกมา การดัดแปลงเป็นภาษาอังกฤษเลยต้องใช้เวลานาน เกมนี้จึงถูกละเลยในการแปลเป็นเวอร์ชั่นอังกฤษในที่สุด จนกระทั่งมีแฟนๆ บางกลุ่มได้ทำการดัดแปลงไฟล์ Rom ของเกมนี้เป็นภาษาอังกฤษในปี 2546 ขึ้นมา และสามารถแปลภาษาในเกมทั้งหมดได้เสร็จสมบูรณ์ในปี 2549

- เพลงประกอบหรือ Soundtrack ของเกมนี้ประพันธ์โดยคุณริวจิ ซาซาอิ ผู้ที่เคยมีผลงานแต่งเพลงประกอบให้กับเกม SaGa 3 (Game Boy), Tobal No.1 (PS1) และ Bushido Blade 2 (PS1) โดยแนวเพลงที่คุณซาซาอิถนัดคือแนวร็อคทั่วไป และหลังจากที่เขาลาออกจากบริษัท Squaresoft ในปี 2541 ก็ได้หันไปทำเพลงประกอบให้กับการ์ตูนอนิเมะบางเรื่อง รวมถึงตู้ปาจิงโกะต่างๆ ด้วย

- แม้ว่าทางนิตยสาร Famitsu ของญี่ปุ่นจะให้คะแนนเกมนี้เพียง 31 จากเต็ม 40 คะแนน แต่บรรดาแฟนเกมแนว RPG ต่างยกให้เกมนี้เป็นเกมที่แน่น ครบเครื่องในด้านเนื้อหาและเกมเพลย์ ทว่าก็ยังไม่ดีพอในสายตาคนทั่วไปที่มองเกมนี้ เพราะด้วยความที่ตัวเกมมี Text ให้อ่านในปริมาณที่เยอะมากเกินไป ดังนั้นผู้ที่จะเล่นเกมนี้ให้สนุกและเข้าถึงแก่นแท้ของเกมได้ จำเป็นที่จะต้องรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับพอสมควรเลย

แชร์เรื่องนี้:
Vesper
About the Author

Vesper

เหนื่อยจากเกมก็ลองหยุดพัก แต่ถ้าเหนื่อยจากรักก็จงหยุดเถอะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ