วันนี้ในอดีต by play: 20 มีนาคม

แชร์เรื่องนี้:
วันนี้ในอดีต by play: 20 มีนาคม

"วันนี้ในอดีต" by play

วันที่ 20 มีนาคม 2540 หรือวันนี้เมื่อ 19 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Castlevania: Symphony of the Night บนเครื่อง PS1 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดย Castlevania นั้นเป็นหนึ่งในซีรีส์ยอดฮิตของค่าย Konami ที่ได้คุณโคจิ อิการาชิ มาเป็นผู้ช่วยไดเร็กเตอร์ของภาคนี้ และคุณอิการาชินี่เองที่เป็นผู้พลิกโฉมซีรีส์ Castlevania ให้เป็นที่จดจำของเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกมานับแต่นั้น

ด้านเนื้อเรื่องของภาคนี้เป็นเหตุการณ์ต่อจากภาค Rondo of Blood ที่วางจำหน่ายบนเครื่อง PC-Engine เมื่อปี 2536 เมื่อ ริชเตอร์ เบลมอนท์ บุกไปเผชิญหน้ากับ เค้าท์แดร็กคูล่า และเอาชนะได้สำเร็จ ทว่าในอีก 4 ปีให้หลัง อลูคาร์ด บุตรชายที่เกิดจากท่านเค้าท์กับหญิงมนุษย์ก็สัมผัสได้ถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังมาเยือนอีกครั้ง จึงตื่นจากการหลับใหลและมุ่งหน้ามายังปราสาทแดร็กคูล่า แต่แล้วเขาก็ได้พบกับ เดธ ยมทูตผู้รับใช้ท่านเค้าท์ที่เข้ามาขวางอลูคาร์ดและริบเอาอาวุธชุดป้องกันของอลูคาร์ดไปจนหมด จากนั้นอลูคาร์ดก็ได้พบกับ มาเรีย เรนาร์ด นักล่าแวมไพร์สาวที่ออกตามหาริชเตอร์ที่หายสาปสูญไปในปราสาทนี้เช่นกัน ทั้งคู่จึงต้องแยกย้ายกันออกตามหาริชเตอร์ พร้อมทั้งค้นหาความจริงเกี่ยวกับผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ทั้งหมด

เกมเพลย์ของภาค Symphony of the Night ต้องเรียกว่าเป็นการปฏิวัติแนวทางของเกมนี้ไปเกือบทั้งหมดครับ ซึ่งนอกจากระบบแอ็กชั่นที่จะยึดโยงจากภาคเก่าๆ อยู่บ้างบางส่วน เช่น ไอเทมปาที่ต้องใช้หัวใจ หรือการลุยแบบแอ็กชั่นแพลตฟอร์ม สิ่งที่เปลี่ยนไปก็จะมีระบบสวมใส่อาวุธชุดป้องกัน และการอัพเลเวลเหมือนเกม RPG ทั่วไป รวมถึงระบบร้านขายไอเทมที่สามารถแวะมาได้ทุกเมื่อ พร้อมกันนี้ ตัวเกมจะไม่ได้แยกเป็นด่านๆ เหมือนภาคก่อน แต่จะแบ่งแผนที่ของปราสาททั้งหมดออกเป็นโซน และแต่ละโซนก็จะมีเส้นทางเชื่อมถึงโซนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้หลายวิธี

Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Castlevania: Symphony of the Night

- ช่วงที่เกมนี้ออกวางจำหน่ายในระยะแรก ตัวเกมได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปในหลายๆ ทาง ทั้งด้านบวกและลบปะปนกัน ซึ่งสืบเนื่องมาจากตลาดเกมในยุค PS1 กำลังเข้าสู่ยุคกราฟิกที่เป็นโพลิกอน 3 มิติกันแพร่หลาย ทว่า Castlevania: Symphony of the Night กลับยังยึดแนวทางการลุยแบบ 2D อยู่ แต่ก็ยังได้รับความนิยมจากคนเล่นเกมมากมาย ขนาดที่ว่าแม้แต่ทาง Nintendo เองที่ทำเกมเน้นเกมเพลย์เป็นหลัก ก็ยังนำ Mario และ The Legend of Zelda ไปทำเป็นกราฟิกแบบ 3D กัน เพราะเห็นพ้องเช่นเดียวกับค่ายเกมอื่นๆ ว่าเกมลุยสไตล์ 2D นั้นกำลังจะตกยุคแล้ว ในที่สุด...จนแล้วจนรอด เกมนี้ก็ยังสวนกระแสตลาดมาเป็นหนึ่งในเกมยอดฮิตของเครื่อง PS1 ได้อย่างหายห่วง และจากความสำเร็จของเกมนี้ เลยทำให้มีเกมเมอร์หลายคนนำมันไปเปรียบเทียบกับเกม Metroid ซึ่งเป็นซีรีส์ตะลุยด้านข้างแบบ 2D ชื่อดังของ Nintendo กลายเป็นว่าพอเรียกเทียบกัน เลยกำเนิดศัพท์ใหม่ขึ้นมาว่า Metroidvania ที่เป็นการผสมคำระหว่าง Metroid กับ Castlevania นั่นเองครับ

- ในปี 2541 เกมนี้ได้ถูกพอร์ตลงเครื่อง Sega Saturn (จำหน่ายเฉพาะเวอร์ชั่นญี่ปุ่นเท่านั้น) และมีการเพิ่มฟีเจอร์บางส่วนเข้ามา โดยผู้เล่นจะสามารถบังคับเป็นมาเรียได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีพื้นที่โซนใหม่ๆ ในปราสาทให้ลุยกันอีก อาทิ The Cursed Prison และ The Underground Garden ที่มีบอสประจำโซนให้สู้ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความที่เวอร์ชั่น Sega Saturn นั้นพอร์ตมาแบบไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่ จึงทำให้ต้องเจอปัญหาการโหลดระหว่างเกมที่ถี่มากๆ แถมนานกว่าเวอร์ชั่น PS1 ค่อนข้างเยอะ อีกทั้งสเปคของเครื่อง Sega Saturn ก็ด้อยกว่า PS1 ดังนั้นการประมวลผลฉากแวดล้อมต่างๆ เลยมีปัญหาหมด ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟ็กต์ของน้ำตกหรือตอนอลูคาร์ดแปลงร่างเป็นหมอก ก็โดนแทนที่ด้วยเอฟเฟ็กต์อื่นแบบลวกๆ แทน ซึ่งปัญหาดังกล่าวคุณอิการาชิได้อธิบายในภายหลังว่าเป็นเพราะการพอร์ตถูกทำขึ้นโดยทีมพัฒนาที่เป็นทีมอื่น และไม่ได้พอร์ตโดยอาศัยข้อได้เปรียบของตัวเครื่อง Sega Saturn เลยแม้แต่น้อย ผลที่ได้ก็เลยออกมาอย่างที่เห็นกัน

- หากจบเกมไปแล้วรอบหนึ่ง เมื่อเล่นรอบใหม่จะมีทริคในการตั้งชื่อตามนี้ครับ

1. ถ้าตั้งชื่อว่า AXEARMOR ผลที่ได้คือ จะมีชุดเกราะ Axe Lord Armor อยู่ในช่องไอเทมตั้งแต่เริ่มเกม
2. ถ้าตั้งชื่อว่า X-X!V"Q ผลที่ได้คือ เมื่อเริ่มเกมมา อลูคาร์ดจะมีค่า Luck สูงถึง 99 ทันที
3. ถ้าตั้งชื่อว่า RICHTER ผลที่ได้คือ ได้เล่นเป็นตัวละคร ริชเตอร์ เบลมอนท์ ตั้งแต่เริ่มเกม

แชร์เรื่องนี้:
Vesper
About the Author

Vesper

เซเว่นที่ว่าแน่ ก็ยังหารักแท้มาขายไม่ได้

เรื่องที่คุณอาจสนใจ