วันนี้ในอดีต by play: 11 มีนาคม

แชร์เรื่องนี้:
วันนี้ในอดีต by play: 11 มีนาคม

"วันนี้ในอดีต" by play

วันที่ 11 มีนาคม 2538 หรือวันนี้เมื่อ 21 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Chrono Trigger บนเครื่อง Super Famicom ที่ประเทศญี่ปุ่น โดย Chrono Trigger เป็นเกมแนว RPG รูปแบบใหม่จากค่าย Squaresoft (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน) ที่ออกตามหลัง Final Fantasy VI ได้ไม่นาน ซึ่งได้คุณโทริยาม่า อากิระ นักวาดการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball อันโด่งดังมาเป็นผู้ดีไซน์ตัวละครและอาร์ตเวิร์กต่างๆ ของเกม

เนื้อเรื่องช่วงแรกของ Chrono Trigger จะกล่าวถึง โครโน่ ชายหนุ่มในยุคปัจจุบันที่บังเอิญได้พบ มาร์ล สาวลึกลับในงานรื่นเริงที่จัดขึ้นใกล้กับหมู่บ้านของตนเอง ทั้งคู่ได้มีโอกาสไปชมการทดลองสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ของ ลุคก้า เพื่อนสาวของโครโน่ ซึ่งเป็นเครื่องย้ายมวลสาร (เทเลพอร์ต) ทว่ากลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมาร์ลอยากจะลองใช้เครื่องดังกล่าวดูบ้าง แต่ระหว่างที่เครื่องกำลังจะย้ายมาร์ลจากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่ง สร้อยคอของเธอได้ทำปฏิกิริยากับเครื่องย้ายมวลสาร จึงเกิดประตูกาลเวลาขึ้น ทำให้มาร์ลถูกดูดไปอยู่ในยุคอดีตเมื่อ 400 ปีก่อน โครโน่เลยอาสาไปช่วยมาร์ลกลับมา และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยท่องเวลาของโครโน่ พร้อมทั้งร่วมมือกับมิตรสหายจากต่างยุคสมัยเพื่อช่วยกันเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโลกที่พวกเขาอยู่

ทางด้านเกมเพลย์ จะเป็นแนว Active Time Battle คล้ายกับ Final Fantasy ภาค 5-9 แต่จะมีบางอย่างที่ปลีกย่อยออกไป คือ การผสมผสานท่าไม้ตายที่ใช้ร่วมกันตั้งแต่ 2-3 คน ตลอดจนการกำหนดตัวละครให้มีความเก่งกาจเฉพาะทาง เช่น โครโน่จะใช้เวทตระกูลสายฟ้า, มาร์ลใช้เวทย์สายน้ำแข็ง, ลุคก้าใช้เวทไฟ เป็นต้น พร้อมกันนี้ การเจอศัตรูจะไม่เป็นแบบสุ่มเจอเหมือน Final Fantasy ในยุคนั้น แต่ผู้เล่นศัตรูวิ่งอยู่ตามฉากเลย และเมื่อวิ่งไปชนศัตรู การต่อสู้ก็จะเริ่มกัน ณ จุดนั้น ไม่มีตัดเข้าฉากต่อสู้ ทำให้เกิดความฉับไวและดูต่อเนื่องกว่ามาก และการท่องเวลาในเกมก็เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ผู้เล่นจะต้องเดินทางไปมาระหว่างยุคสมัยอยู่ตลอด ซึ่งสามารถเข้าได้ตามประตูเวลาที่ปรากฏอยู่เฉพาะที่ของแต่ละยุค (หลังๆ จะมีไทม์แมชชีนที่ช่วยให้เดินทางข้ามเวลาได้ง่ายขึ้น และใช้เป็นยานพาหนะบินข้ามเกาะได้อีกด้วย)

Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Chrono Trigger

- คงไม่ต้องบรรยายกันมากถึงสิ่งที่ Chrono Trigger ทำไว้ให้กับวงการเกมในยุคนั้นครับ ตัวเกมสามารถทำยอดขายในญี่ปุ่นได้ถึง 2 ล้านชุดหลังวางจำหน่ายไปได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น และเป็นเกมขายดีอันดับที่ 3 ของปี 2538 โดยเป็นรองเพียงแค่ Dragon Quest VI: Realms of Revelation และ Donkey Kong Country 2: Diddy's Kong Quest จากความนิยมที่แฟนๆ มีต่อเกมนี้อย่างล้นหลาม จึงทำให้ทาง Squaresoft (และ Square Enix ในเวลาต่อมา) ได้จัดการพอร์ตเกมนี้ลงเครื่องต่างๆ มากมาย อาทิ PlayStation (PS1), Nintendo DS และสมาร์ทโฟน ทั้งนี้ ยอดขายรวมของเวอร์ชั่น Nintendo DS เองก็กวาดไปได้ 490,000 ชุดในญี่ปุ่น, 240,000 ชุดในทวีปอเมริกาเหนือ และ 60,000 ชุดในทวีปยุโรป ซึ่งถือว่าสูงมากๆ แม้ว่าเวอร์ชั่น Nintendo DS จะเว้นช่วงจากเวอร์ชั่น Super Famicom ถึง 13 ปีแล้วก็ตาม

- แม้ว่าเกมจะออกมานานถึง 21 ปีแล้ว แต่ทว่าความนิยมที่แฟนๆ เคยมีความทรงจำร่วมกันกับเกมนี้ยังคงไม่เสื่อมคลาย กระทั่งมีสาวกกลุ่มหนึ่งได้ทำตัวอย่างเกม Chrono Trigger เวอร์ชั่น Fanmade ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า Chrono Resurrection ซึ่งรันบนเครื่อง PC พร้อมกราฟิกแบบ 3D ทั้งเกม นอกจากนี้ก็ยังมีการผุดโปรเจ็กต์ Chrono Trigger Remake ที่ทำขึ้นโดยแฟนๆ ด้วย แต่สุดท้ายโครงการที่ว่านี้ก็มีอันต้องยกเลิกไปตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นรูปเป็นร่าง เนื่องจากทาง Square Enix ได้ออกมาปรามแฟนๆ กลุ่มดังกล่าวให้หยุดทำ เพราะผิดกฎหมายเรื่องสิทธิ์ในตัวเกมที่ทาง Square Enix ถือครองอยู่นั่นเอง

- ในเวอร์ชั่นที่ลงเครื่อง PS1 ได้ถูกพอร์ตโดยทีม Tose และวางจำหน่ายในปี 2542 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ Chrono Cross จะออกสู่ตลาดไม่นานนัก โดย Chrono Cross เป็นภาคต่อของ Chrono Trigger ที่มีเนื้อเรื่องต่อจากกัน ทั้งนี้ สิ่งที่เพิ่มมาในเวอร์ชั่น PS1 ของ Chrono Trigger ก็คือคัทซีนเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นที่วาดโดยทีมงาน Bird Studio ของคุณโทริยาม่า อากิระ และทำเป็นภาพเคลื่อนไหวโดยบริษัท Toei Animation พร้อมทั้งเพิ่มฉากจบในตอนท้ายที่มีความเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องของ Chrono Cross ด้วย ขณะเดียวกัน สำหรับเวอร์ชั่นที่พอร์ตลง Nintendo DS (วางจำหน่ายในปี 2551) ก็ได้เพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มจากเวอร์ชั่น PS1 มาอีกหลายอย่าง อาทิ ปรับปรุงการแปลภาษาในเกมให้ถูกต้องและแม่นยำกว่าเดิม, การใช้ลูกเล่นสองหน้าจอของเครื่อง Nintendo DS โดยจอด้านบนจะเป็นเมนูต่างๆ และจอด้านล่างจะใช้เล่นปกติ นอกจากนี้ยังเพิ่มในส่วนของอารีน่าที่ให้ผู้เล่นสามารถสร้างมอนสเตอร์ไว้ต่อสู้ในลานประลองได้ รวมทั้งเพิ่มดันเจี้ยนใหม่อีกสองแห่ง ได้แก่ The Lost Sanctum และ The Dimensional Vortex

- Ozzie, Slash และ Flea ลูกน้องทั้งสามของ Magus เป็นการตั้งชื่อตามนักดนตรีชื่อดังของโลกครับ ได้แก่ Ozzie Osbourne อดีตนักร้องนำของวง Black Sabbath ส่วน Slash ก็เคยเป็นมือกีตาร์ของวง Guns n' Roses และ Velvet Revolver และสุดท้าย Flea ก็คือมือเบสของวง Red Hot Chili Peppers นั่นเองครับ

- ขณะเดียวกัน Ozzie, Slash และ Flea ก็มีอีกชื่อที่ใช้ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอยู่ด้วย นั่นก็คือ บีเนเกอร์ (แผลงมาจาก Vinegar ที่แปลว่าน้ำส้มสายชู), ซอยโซ (แผลงมาจาก Soy Soyce ที่หมายถึงซอสถั่วเหลืองหรือโชยุ) และ มาโยเน่ (แผลงมาจาก Mayonnaise ที่แปลว่ามายองเนส)

- ชื่อของ ไอล่า (Ayla) หนึ่งในเพื่อนของโครโน่ ผู้มาจากยุคดึกดำบรรพ์ (65 ล้านปีก่อน) ก็อ้างอิงมาจากบทประพันธ์ของ Jean M. Auel ที่เล่าถึงหญิงคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งหญิงคนนั้นก็ชื่อ Ayla ด้วยเช่นกัน

- นักปราชญ์ในเกมทั้งสาม ได้แก่ Melchior, Gaspar และ Belthasar ต่างก็เป็นการนำชื่อมาจากชาย 3 คนผู้เข้าเฝ้าพระเยซูในวันประสูติกาลครับ

แชร์เรื่องนี้:
Vesper
About the Author

Vesper

อยากเป็นคนที่ถูกหวย จะได้รวยกว่าถูกรัก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ