มาอ่านทำความเข้าใจก่อนกับระบบการต่อสู้ของ Tales of Berseria

Bandai Namco ได้เผยข้อมูลระบบการต่อสู้ของ Tales of Berseria มาให้ได้อ่านทำความเข้าใจกันก่อน โดยระบบมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

พื้นฐานทั่วไปของการต่อสู้
- Arte

Arte คือการโจมตีกายภาพหรือการใช้เวทย์ที่สามารถใช้งานได้โดยการตั้งค่าเอาไว้ที่ปุ่มใดปุ่มหนึ่ง ผู้เล่นจะต้องสู้กับศัตรูโดยการใช้ท่า arte ดังกล่าวเหล่านี้ โดยที่ตัวละครแต่ละตัวก็จะมีท่า arte ที่ต่างกันไป และเมื่อตัวละครมีเลเวลมากขึ้นก็จะได้ท่าใหม่ๆมาใช้งาน บรรดาท่า arte เหล่านี้ก็จะมีเอฟเฟคต์พิเศษอย่างเช่นการทำให้มึนงงหรือทำให้ติดสภาวะผิดปกติต่างๆ และการโจมตีจุดอ่อนของศัตรูหรือการเปลี่ยนลำดับการใช้งาน arte ในคอมโบก็จะทำให้ช่วงชิง Soul มาได้ง่ายขึ้นด้วย

- Soul

Soul นี้คือสัญลักษณ์ของพลังเวทย์ จำนวนของ Soul ที่ตัวละครนั้นๆมีหมายถึงจำนวนท่า arte สูงสุดที่ตัวละครนั้นสามารถเชื่อมท่าในระหว่างคอมโบได้ โดยผู้เล่นสามารถช่วงชิง Soul มาจากศัตรูได้ และในทางกลับกันศัตรูก็ชิง Soul ไปจากผู้เล่นได้

- Guard

ผู้เล่นสามารถป้องกันการโจมตีของศัตรูได้โดยการกดแค่ปุ่ม L1 เพื่อลดความเสียหายจากการโดนโจมตี

- Quickstep

ผู้เล่นสามารถทำ quickstep เพื่อหลบการโจมตีได้โดยการดันอนาล็อกซ้ายในขณะที่กด L1 ค้างไว้ ซึ่ง quickstep นี้ถือเป็นกลวิธีที่ดีในการหลบหลีกการโจมตีหรือไม่ก็เพื่อเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว และหากสามารถหลบการโจมตีได้สำเร็จก็จะได้โบนัสบางอย่างด้วย

An evolution

ฟีเจอร์ใหม่ของเกมในคราวนี้ก็คือ ผู้เล่นสามารถควบคุมมุมกล้องได้อย่างอิสระในการต่อสู้แล้วโดยใช้อนาล็อกขวา ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถติดตั้งท่า arte ได้หลากหลายบนปุ่มทั้งสี่บนคอนโทรลเลอร์ตามรูปแบบการเล่นที่ถนัดเพื่อต่อคอมโบได้ง่ายขึ้น ซึ่งคอนเซปต์ของการ “ช่วงชิง soul” นั้นจะอยู่ในระบบ Soul Gauge” อันเป็นระบบใหม่ที่จะทำให้ผู้เล่นเพิ่มจำนวนหรือลดจำนวนคอมโบลงได้ ระบบใหม่นี้จะช่วยทำให้ผู้เล่นต้องวางแผนในการเล่นมากขึ้นและทำให้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนจังหวะการเล่นของตนได้ไม่ว่าจะการโจมตีหรือป้องกัน ถือเป็นระบบที่ยืดหยุ่นที่สุดที่เคยมีมา

Soul Gauge

Soul Gauge เป็นระบบใหม่ประจำซีรีส์นี้ ระบบนี้ถือเป็นระบบที่ริเริ่ม “การช่วงชิง” และถือว่าสดใหม่เมื่อเทียบกับระบบในภาคก่อนๆอย่าง TP (Technical Point) หรือ CC (Chain Capacity)

เพราะทุกท่า arte ที่ใช้งานจะต้องเสียค่า SG ไปและเกจดังกล่าวก็จะลดลงตามแต่ท่าที่ตัวละครนั้นใช้ และเมื่อค่า SG เหลือเป็นศูนย์แล้ว ผู้เล่นก็ยังคงสามารถใช้ท่าได้อยู่แต่จะเสียเปรียบหลายประการ เช่น การโจมตีสามารถโดนสะท้อนกลับได้ง่ายมาก เป็นต้น โดยที่ค่า SG นี้จะฟื้นฟูกลับมาโดยอัตโนมัติเมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ทีมพัฒนาจึงแนะนำให้ทำการต่อสู้โดยคำนึงถึงสมดุลระหว่างการโจมตีและการป้องกันอยู่เสมอ เช่น การการ์ดเพื่อรอให้เกจฟื้นฟู เป็นต้น

เกจนี้จะแสดงให้เห็นถึงจำนวนของ soul ที่มี และผู้เล่นก็จะเข้าสู่การต่อสู้พร้อมกับ SG ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

I. ตัวละครแต่ละตัวจะเข้าสู่การต่อสู้พร้อมกับ soul ที่ตนเองมี

II. ตัวละครจะสามารถใช้ท่า arte ในหนึ่งคอมโบได้เท่ากับจำนวน soul ที่ตัวละครนั้นมีอยู่

III. ผู้เล่นสามารถช่วงชิง “soul” มาจากศัตรูได้ แต่ศัตรูก็สามารถแย่งชิง soul จากผู้เล่นได้เช่นเดียวกัน

โดยที่ “Soul” นี้ถือเป็นสิ่งแทนพลังเวทย์หรือพลังใจของตัวละครนั้นๆ และทุกตัวละครจะเข้าการต่อสู้โดยมีค่า soul ติดตัวอยู่แล้ว จำนวนของ soul ในตอนเริ่มการต่อสู้ก็คือ 3 แต่ผู้เล่นก็สามารถเพิ่มจำนวน soul ได้โดยการทำเงื่อนไขพิเศษในการต่อสู้

ตัวละครทุกตัวรวมถึงศัตรูต่างก็มี soul เป็นของตัวเอง ดังนั้นจำนวนของ soul ที่ตัวละครแต่ละตัวมีก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในระหว่างการต่อสู้ ระบบนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการต่อสู้ ดังนั้นผู้เล่นควรที่จะเฝ้าสังเกต soul ที่ตนมีและปรับเปลี่ยนระบบการต่อสู้ไปตามสถานการณ์

จำนวนของ “Soul” นั้นสามารถเพิ่มได้โดยการ
- กำจัดศัตรู
- โดยการทำให้ศัตรูมึนงงหรือทำให้ศัตรูติดสภาวะผิดปกติ
- โดยการใช้ไอเท็มหรือบางอย่างหรือการเก็บ “Soul” ที่อยู่ตามฉากสู้
- เงื่อนไขอื่นๆ จะได้รับการเปิดเผยในภายหลัง

บางครั้ง “Soul” ก็อาจจะออกมาให้เก็บหากว่าเพื่อนร่วมทีมหมดสติ หรือผู้เล่นสามารถหลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้โดยการใช้ quickstep

เงื่อนไขหลักที่จะทำให้ “Soul” ลดลงก็คือ
- การโดนศัตรูโจมตีจนมึนงงหรือติดสภาวะผิดปกติจากการโจมตีของศัตรู
- เงื่อนไขอื่นๆจะได้รับการเปิดเผยในภายหลัง