"วันนี้ในอดีต" by play
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2538 หรือวันนี้เมื่อ 21 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Front Mission บนเครื่อง Super Famicom ที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ Front Mission ถือเป็นการซีรีส์บุกเบิกเกมแนววางแผนการรบแบบเทิร์นเบส ด้วยสไตล์หุ่นยนต์สู้กันที่เน้นสมจริง (สำหรับในยุคนั้น) ซึ่งพื้นฐานจะอิงจากระบบ Point & Click คือเลื่อนลูกศรหรือเคอร์เซอร์ไปยังช่องที่ต้องการเพื่อเคลื่อนที่ไปยังจุดนั้น หรือเลือกโจมตีศัตรูที่อยู่ในระยะทำการ โดยผู้เล่นจะได้บังคับตัวละครที่ขี่หุ่นที่เรียกกันว่า แวนเซอร์ (Wanzer) พร้อมกับเป้าหมายหลักคือกำจัดศัตรูภายในฉากให้หมด ทางด้านของ Wanzer ที่เราบังคับก็จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนทั้ง 4 ได้แก่ ลำตัว, แขนทั้งสองข้าง และขา เมื่อใดก็ตามที่ชิ้นส่วนใดถูกทำลาย ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะของแวนเซอร์ตัวนั้นทันที เช่น ถ้าแขนถูกทำลายทั้งสองข้างก็จะไม่สามารถโจมตีศัตรูได้ หรือถ้าขาถูกทำลาย ระยะการเคลื่อนที่ก็จะสั้นลง เป็นต้น
ขณะเดียวกัน การโจมตีของแวนเซอร์จะมีอยู่ 3 แบบ คือ ระยะประชิด, ระยะใกล้ และระยะไกล ซึ่งการโจมตีระยะไกลด้วยมิสไซล์หรือบาซูก้านั้นศัตรูจะไม่สามารถโจมตีสวนกลับได้ในเทิร์นเดียวกัน ในขณะที่มือเปล่าหรือกระบองจะเป็นอาวุธระยะประชิด และปืนต่างๆ จะเป็นอาวุธระยะใกล้
เมื่อเสร็จสิ้นแต่ละภารกิจ ผู้เล่นจะได้รับเงินรางวัลเป็นการตอบแทน (และอาจถูกหักเงินได้หากมีหุ่นในฝ่ายของเราถูกทำลาย) โดยเราสามารถนำเงินที่ได้มาไปปรับแต่งหุ่นให้แข็งแกร่งขึ้น ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีกว่าเดิม และนอกจากการหาเงินด้วยการผ่านมิชชั่นทั่วไปแล้ว เวลาที่อยู่ในเมืองก็จะมีโคลอสเซียมให้ผู้เล่นได้เข้าไปวางเดิมพันแล้วประลองกับคู่ต่อสู้เพื่อลุ้นเงินรางวัลได้อีกเช่นกัน
เนื้อเรื่องของ Front Mission ภาคแรกจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะฮัฟแมน สถานที่สมมติซึ่งตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก อันอยู่ใต้การถือครองโดยสหประชาชาติมาเป็นเวลานาน จนเมื่อวันหนึ่งทาง USN ซึ่งเป็นกลุ่มสมาพันธ์ประเทศจากอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อขอยึดครองเกาะฮัฟแมนแทนสหประชาชาติที่ต้องการถอนตัวออกไป ทางกลุ่มสมาพันธ์ประเทศจากทวีปเอเชียและทวีปออสเตรเลียก็ได้ออกมาคัดค้านและเกิดเป็นกรณีพิพาทกัน จากนั้นความตึงเครียดจึงเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นจนนำไปสู่สงครามบนเกาะฮัฟแมนในที่สุด
สำหรับเวอร์ชั่นบนเครื่อง Super Famicom ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น รอยด์ ไคลฟ์ เจ้าหน้าที่ของฝั่ง OCU ที่นำลูกทีมไปสอดแนมคลังแสงของฝ่าย USN บริเวณทางตะวันออกของเกาะฮัฟแมน เนื่องจากสืบทราบมาว่าทาง USN คิดจะซ่องสุมกำลังเพื่อทำโปรเจ็กต์ลับบางอย่างอยู่ แต่แล้วทีมของรอยด์ก็ถูกซุ่มโจมตีโดยหุ่นของฝ่าย USN นำโดยนายทหารระดับสูงนามว่า ดริสคอล ที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทันใดนั้น หุ่นของ คาเรน คู่หมั้นของรอยด์ก็ถูกดริสคอลยิงทำลายไปต่อหน้าต่อตา ด้วยความเข้าใจว่าคาเรนถูกฆ่าตาย รอยด์กับลูกทีมที่เหลือจึงเข้าปะทะกับทีมของดริสคอล ทางฝั่งดริสคอลเลยตัดสินใจระเบิดคลังแสงทิ้งแล้วรีบหนีไป เหตุการณ์ดังกล่าวเท่ากับเป็นการประกาศสงครามครั้งที่ 2 บนเกาะแห่งนี้ ส่วนรอยด์กลับถูก OCU กล่าวโทษว่าเป็นต้นเหตุทำให้เรื่องราวครั้งนี้บานปลาย พร้อมกับโดนสั่งปลดประจำการทันที
1 ปีต่อมา ผู้พันจากฝ่าย OCU นามว่า ออลสัน ได้ไปเจอรอยด์ที่ผันตัวเองไปเป็นนักสู้ในโคลอสเซียม (ขี่หุ่นสู้กัน) ที่เมืองบารินเด้น จึงชักชวนให้มาเป็นหัวหน้าทีมทหารรับจ้างนามว่า Canyon Crows ที่ตัวเองก่อตั้งขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ในการเป็นกองหนุนให้ฝ่าย OCU ในภารกิจต่างๆ พร้อมกันนี้ รอยด์เองก็หวังว่าการร่วมทีม Canyon Crows จะช่วยให้เขาได้เจอกับดริสคอลอีกครั้งเพื่อล้างแค้นให้กับคาเรนด้วย
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Front Mission
- ในเวอร์ชั่นดั้งเดิมที่ลงให้กับเครื่อง Super Famicom ได้เปิดตัวในญี่ปุ่นด้วยยอดขายที่ดีเกินคาด โดยกวาดไปได้กว่า 500,000 ชุดภายในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย ทว่าเวอร์ชั่นที่พอร์ตลงเครื่อง Nintendo DS นั้นกลับค่อนข้างซบเซา และทำยอดขายในปีที่จำหน่าย (2550) ไปได้แค่ 57,153 ชุดเท่านั้น
- ทางด้านเนื้อเรื่องฝั่งของรอยด์ ในมิชชั่นที่ 15 จะมีปืนลับสุดยอดซ่อนอยู่ตรงมุมซ้ายบนสุดของฉาก (ตรงซอกด้านในกำแพง) เมื่อนำหุ่นของฝั่งเราไปยืนอยู่ตรงช่องดังกล่าว ก็จะได้ปืน Ziege ซึ่งเป็นอาวุธประเภทไรเฟิลที่มีความแรงสูงสุดในเกม (99 x 1) และมีอัตราความแม่นยำอยู่ที่ 99% แถมที่โกงกว่านั้นคือ เวลาเรายิงโดนศัตรูจะได้ exp ประมาณ 800 ขึ้นไป อีกทั้งเวลายิงพลาดก็ยังได้ exp ถึง 700 เรียกได้ว่าเป็นปืนขั้นเทพที่ใช้ปั๊มเลเวลตัวละครได้ดีที่สุดในเกมแล้ว
- นอกจากเครื่อง Super Famicom แล้ว เกมนี้ยังได้ถูกพอร์ตลงให้กับอีก 3 แพลตฟอร์มด้วยกัน ได้แก่ WonderSwan Color, PS1 และ Nintendo DS โดยเวอร์ชั่นที่ลงให้กับเครื่อง PS1 และ Nintendo DS จะใช้ชื่อว่า Front Mission 1st ซึ่งมีการเพิ่มเนื้อเรื่องของอีกฝ่ายมาให้เล่นด้วย นั่นก็คือฝั่ง USN ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น เควิน กรีนฟิลด์ ผู้นำกองกำลัง Black Hounds สังกัดฝ่าย USN ที่ได้รับภารกิจให้ปราบปรามกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ใช้ชื่อว่า The Star of Freedom ทั้งนี้ เนื้อเรื่องทั้งฝั่งของรอยด์และเควินจะมีส่วนที่เชื่อมโยงกันหลายจุด รวมถึงจะมีบางฉากที่ทั้งคู่ต้องโคจรมาเจอและต่อสู้กันด้วย เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ของเนื้อหามากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ในเวอร์ชั่นของเครื่อง Nintendo DS จะมีการใช้ลูกเล่นของจอบน-ล่างเข้ามาเสริม ทำให้เห็นภาพรวมของข้อมูลแต่ละฉากได้กว้างมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มมิชชั่นลับมาให้เล่นอีก 9 ฉากด้วย
- งานประพันธ์เพลง Soundtrack ของเกมนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างคุณโนริโกะ มัตสึเอดะ (ผลงานที่เด่นๆ ได้แก่ Bahamut Lagoon, Racing Lagoon และ Final Fantasy X-2) และคุณโยโกะ ชิโมมุระ (ผลงานที่เด่นๆ ได้แก่ Parasite Eve, Kingdom Hearts II และรวมถึง Final Fantasy XV ที่กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ด้วย) โดยในช่วงแรกนั้นคุณชิโมมุระกำลังเตรียมงานประพันธ์เพลง Soundtrack ให้กับเกม Super Mario RPG อยู่ แต่ได้ถูกร้องขอจากคุณฮิโรโนบุ ซาคากุจิ ซึ่งเป็นรองประธานของ Squaresoft ในขณะนั้น ว่าต้องการคนที่มีประสบการณ์สูงกว่ามาช่วยงานคุณมัตสึเอดะในการประพันธ์เพลง Soundtrack ให้กับเกม Front Mission ซึ่งเธอตั้งใจจะตอบปฏิเสธอยู่แล้ว กระทั่งได้ไปพบกับคุณเท็ตสึโอะ มิซึโนะ ประธานบริษัท จึงได้เปลี่ยนใจและได้มาช่วยแต่งเพลงในส่วนของธีมที่เป็นฉากแอ็กชั่นเกือบทั้งหมด