"วันนี้ในอดีต" by play
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2534 หรือวันนี้เมื่อ 25 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Double Dragon III: The Sacred Stones บนเครื่อง Famicom ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง Double Dragon จัดว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์แอ็กชั่นยุคบุกเบิกแบบเล่นพร้อมกัน 2 คนที่มีสไตล์เดินตะลุยด้านข้าง ก่อนที่จะมีซีรีส์ Final Fight หรือซีรีส์อื่นๆ ตามมาในภายหลัง
โดยพล็อตของภาค 3 ได้กล่าวถึงวายร้ายกลุ่มใหม่ที่ได้ลักพาตัว แมเรียน แฟนสาวของบิลลี่และจิมมี่ สองพี่น้องฝาแฝดที่เป็นพระเอกของซีรีส์นี้ (คุณเธอกะควบสองเลยนะครับ แหม่...) ทว่า เบรตต์ พยานคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์กลับถูกฆ่าเสียก่อนที่จะทราบตัวตนที่แท้จริงของหัวหน้าองค์กรดังกล่าว เคราะห์ดีที่แม่เฒ่าพยากรณ์นามว่า ฮิรุโกะ ได้บอกใบ้แก่บิลลี่และจิมมี่ว่า ผู้ที่ลักพาตัวแมเรียนไปนั้นกำลังตามหาศิลาศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 อยู่ ซึ่งศิลาแต่ละก้อนถูกนำไปซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ ของโลก ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น และอิตาลี โดยทางเดียวที่จะช่วยแมเรียนได้ก็คือตามล่าศิลาเหล่านั้นมาให้ได้ก่อนพวกเหล่าร้ายนั่นเอง
ทางด้านเกมเพลย์ของเกมนี้จะสามารถเล่นได้ 2 คนพร้อมกัน โดยหากเล่น 2 คนก็จะมีให้เลือกยิบย่อยอีกว่าโหมด A คือผู้เล่นทั้งสองคนไม่สามารถอัดโดนกันเองได้ ในขณะที่โหมด B นั้น ผู้เล่นทั้งคู่จะโจมตีกันเองได้ ถือเป็นการเพิ่มความท้าทายไปอีกแบบ นอกจากนี้ก็ได้มีการตัดระบบ Lives และ Continue จากที่เคยมีในเวอร์ชั่นตู้เกมอาเขดออกไป ทำให้เมื่อผู้เล่นถูกโจมตีจนตายก็จะเกมโอเวอร์ทันที และต้องเริ่มเกมใหม่ทั้งหมด รวมถึงนำระบบร้านขายไอเทมที่เคยมีอยู่ในเวอร์ชั่นตู้เกมอาเขดออกไปด้วย
ทั้งนี้ นอกจากบิลลี่กับจิมมี่ที่เป็นตัวละครเอกของเกมนี้แล้ว ก็ยังมีอีก 2 ตัวละครที่ผู้เล่นสามารถนำมาเป็นพวกได้ นั่นก็คือ เฉิน ชิงหมิง (Chen Qingming แต่ในเกมจะเขียนสั้นๆ ว่า Chin) ปรมาจารย์ด้านกังฟูที่เป็นบอสด่าน 2 และ ยางิว รันโซ (Yagyu Ranzo) หัวหน้ากลุ่มนินจาที่เป็นบอสด่าน 3 ซึ่งสองคนนี้จะร่วมทีมกับเราหากผู้เล่นสู้ชนะได้ ตรงจุดนี้เพื่อนของเราจะเหมือนเป็นตัวช่วยผู้เล่นทางอ้อมอย่างหนึ่ง เพราะหากผู้เล่นบังคับเป็นบิลลี่หรือจิมมี่แล้วเกิดตายขึ้นมา เกมก็จะให้เราเลือกตัวละครอื่นที่ยังไม่ตายมาสู้ต่อทันที
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Double Dragon III: The Sacred Stones
- ภาคนี้ได้วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นโดยใช้ชื่อว่า Double Dragon III: The Rosetta Stone และก็เป็นชื่อเดียวกับเวอร์ชั่นตู้เกมอาเขดด้วย
- ภายหลังการวางจำหน่าย ก็ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของตัวเกมเวอร์ชั่นเครื่อง Famicom ไปในทางลบค่อนข้างมาก เนื่องจากทีมพัฒนาได้ปรับเปลี่ยนเกมเพลย์จากเวอร์ชั่นตู้อาเขดแทบยกชุด จึงทำให้มีแฟนๆ หลายคนรู้สึกรับไม่ได้กัน
- ระบบร้านขายไอเทมที่เคยมีในเวอร์ชั่นตู้เกมอาเขด น่าจะเรียกได้ว่าเป็นระบบ Pay to Win ของยุคสมัยนั้นครับ เพราะผู้เล่นจะต้องหยอดเหรียญเพื่อเพิ่มจำนวน Credit ของตัวเอง แล้วนำ Credit ไปซื้อท่าไม้ตายใหม่ๆ หรือของเพิ่มความสามารถตัวละคร ตลอดจนซื้อตัวละครใหม่ๆ มาใช้ได้ เท่ากับว่าใครเตรียมเหรียญมาเป็นถุงแล้วยังเล่นไม่เคลียร์ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
- Technōs Japan ค่ายเกมที่พัฒนาซีรีส์ Double Dragon มีผลงานที่โด่งดังอยู่อีกซีรีส์ นั่นก็คือ Kunio-kun หรือที่เกมเมอร์ชาวไทยรุ่นลายครามมักรู้จักกันในชื่อ คุนิโอะคุง หรือ ดาวน์ทาวน์คุนิโอะ ครับ โดยซีรีส์ Kunio-kun ได้ถือกำเนิดก่อนซีรีส์ Double Dragon เพียงปีเดียวเท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน Technōs Japan ได้ยุติการดำเนินกิจการไปแล้วตั้งแต่ปี 2539 ครับ ในขณะที่ซีรีส์ Kunio-kun ก็ได้มีทีม Million Corp. ได้สิทธิในการรับช่วงเพื่อไปพัฒนาต่อ ส่วนซีรีส์ Double Dragon ก็มีทีม WayForward Technologies นำไปพัฒนาต่อเช่นกัน