"วันนี้ในอดีต" by play
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2530 หรือวันนี้เมื่อ 29 ปีที่แล้ว เป็นวันเปิดให้บริการเกม Contra แบบตู้อาเขดหยอดเหรียญที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ Contra เป็น 1 ในซีรีส์เก่าแก่ของทางค่าย Konami ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยซีรีส์นี้ได้สร้างวัฒนธรรมขนาดย่อมและอะไรหลายๆ อย่างให้เป็นที่จดจำแก่เกมเมอร์อยู่นับไม่ถ้วน เช่น พฤติกรรมเล่นดึงฉากแกล้งกันในด่าน 3 ฯลฯ แต่ทว่ามีเกมเมอร์ในไทยน้อยคนนักที่จะทราบว่า Contra ที่เราได้เล่นกันบนเครื่อง Famicom นั้นมีต้นกำเนิดจากตู้เกมอาเขดแบบหยอดเหรียญนั่นเอง (ในไทยเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน การหาตู้เกม Contra เล่นเป็นอะไรที่ยากมาก)
(ล่าง) ภาพจากโบรชัวร์โปรโมทเกม Contra แบบตู้อาเขดที่ทวีปอเมริกาเหนือ
เนื้อเรื่องของ Contra ภาคแรกกล่าวถึงปีคริสต์ศักราช 2633 เมื่อองค์กรสุดชั่วร้ายนามว่า Red Falcon ได้มาตั้งฐานทัพลับอยู่ที่หมู่เกาะ Galuga ใกล้กับประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อหวังที่จะยึดครองโลก ด้วยเหตุนี้ บิล ไรเซอร์ และ แลนซ์ บีน สองนักรบคอมมานโดมือฉมัง จึงได้ถูกส่งมายังเกาะดังกล่าว โดยมีหน้าที่กวาดล้างกองทัพศัตรูและเหล่าเอเลี่ยนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังองค์กร Red Falcon ให้สำเร็จ
รูปแบบการเล่นของเกม Contra ถือว่าเป็นอะไรที่สดใหม่ในยุคนั้นครับ ด้วยสไตล์การผจญภัยแบบวิ่งไปยิงไปในฉากที่มีทั้งแนวนอนและแนวดิ่ง ซึ่งสเปคของตู้เกมอาเขดจะมีสูงกว่าเครื่อง Famicom ตัวละครทั้งสองที่ผู้เล่นได้บังคับจึงมีการออกแบบมาได้สวยงาม ดูแยกแยะออกว่าคนไหนคือบิล คนไหนคือแลนซ์ (พอพอร์ตมาเป็นเครื่อง Famicom ด้วยสเปคที่ต่ำกว่า เลยต้องทำให้ผู้เล่นคนที่ 1 ใส่กางเกงสีฟ้า และผู้เล่นคนที่ 2 ใส่กางเกงสีแดงแทน)
นอกจากนี้ ระหว่างการลุย ตัวเกมก็จะมีปืนพิเศษให้เก็บ โดยจะซ่อนอยู่ในกล่องไอเทมตามฉาก หรือในบอลลูนที่วิ่งเข้ามาในฉาก ซึ่งผู้เล่นมีต้องยิงเพื่อเก็บอาวุธเหล่านั้นมาใช้
(ซ้าย) กล่องเกม Contra ของเครื่อง Famicom ในญี่ปุ่น และ (ขวา) ในสหรัฐอเมริกา
(ซ้าย) หน้าจอไตเติ้ลของ Contra เครื่อง Famicom เวอร์ชั่นญี่ปุ่น และ (ขวา) เวอร์ชั่นอังกฤษ
เปรียบเทียบภาพ Contra แบบตู้อาเขด (ซ้าย) และเครื่อง Famicom (ขวา)
Fact เล็กน้อยเกี่ยวกับเกม Contra
- ในยุคแรกนั้น ตู้เกม Contra ที่ไปเปิดให้บริการที่ทวีปยุโรป และประเทศในแถบโอเชียเนีย (ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ปาปัวนิวกินี, คาเลโดเนีย, ฮาวาย และบางเมืองในอินโดนีเซีย) จะใช้ชื่อเกมว่า Gryzor (อ่านว่า กรีเซอร์) ซึ่งชื่อ Gryzor นี้ก็ยังได้ถูกนำมาใช้เป็นชื่อเกมสำหรับเวอร์ชั่นที่ลงเครื่อง NES (Famicom ของทางฝั่งตะวันตก) ด้วย
- เวอร์ชั่นตู้เกมอาเขดจะมีปืนพิเศษให้เก็บอยู่ 4 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ F (Fireball Gun), S (Spread Gun), R (Rapid Boost) และ B (Barrier) จนกระทั่งเวอร์ชั่น Famicom จึงมีการเพิ่มปืน M (Machine Gun) และ L (Laser Gun) เข้ามา
- สูตรกด บน, บน, ล่าง, ล่าง, ซ้าย, ขวา, ซ้าย, ขวา, B, A มีชื่อเรียกกันแบบสากลว่า Konami Code ซึ่งเกมแรกของค่าย Konami ที่มีการใช้สูตรนี้ได้ก็คือเกม Gradius ของเครื่อง Famicom ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2529 แต่สูตรนี้กลับมาดังและเป็นที่รู้จักกันในหมู่เกมเมอร์อย่างแพร่หลายกับเกม Contra ภาคแรกนี่แหละครับ โดยประเทศฝั่งตะวันตกยังมีการตั้งชื่อสูตรนี้กันเองว่า "Contra Code" หรือแม้แต่พี่ไทยเองก็ยังเรียกสูตรนี้ว่า "สูตร 30 ตัว" เช่นกัน
- Konami Code ถูกคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกโดยคุณคาซุฮิสะ ฮาชิโมโตะ ผู้รับหน้าที่พอร์ตเกม Gradius จากเวอร์ชั่นตู้เกมอาเขดแบบหยอดเหรียญ (2528) มาลงเครื่อง Famicom ในปีถัดมา โดยในขณะนั้นเจ้าตัวได้ลองเทสต์เกมดู แล้วพบว่าเกม Gradius นั้นมีความยากระดับมหาโหด เขาเลยคิดสูตรที่ว่านี้ขึ้นมาเพื่อให้ตนเองได้อาวุธและสกิลของยานครบถ้วนตั้งแต่เริ่มเกม ทว่าคุณฮาชิโมโตะดันลืมเอาสูตรนี้ออกตอนที่เกม Gradius วางจำหน่าย ก็เลยมีผู้เล่นได้ค้นพบสูตรดังกล่าวและบอกต่อๆ กันแบบปากต่อปากนับแต่นั้น
- หากเล่นจนจบเกมแล้ว ช่วงที่เฮลิคอปเตอร์กำลังบินออกจากเกาะและยังไม่ขึ้น Credits ให้กดปุ่ม Select และ Start พร้อมกันค้างไว้ แล้วรอจน Credits ขึ้นจนจบ จะพบข้อความทิ้งท้ายจากหน่วย Red Falcon ว่าพวกมันจะกลับมาล้างแค้นบิลกับแลนซ์แน่นอน (เหตุการณ์ดำเนินต่อในภาค Super Contra)
- Contra เคยถูกยกให้เป็นเกมยอดเยี่ยมอันดับที่ 7 ของเครื่อง NES ซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสาร Nintendo Power และทางนิตยสาร Game Informer ก็ได้จัดอันดับให้ Contra เป็นเกมยอดเยี่ยมตลอดกาลอันดับที่ 13 เมื่อนับรวมจากทุกแพลตฟอร์มอีกด้วย (จัดอันดับเมื่อปี 2547)