บทความพิเศษ by play: 30 ข้อชวนระลึกถึงเครื่อง Famicom

แชร์เรื่องนี้:
บทความพิเศษ by play: 30 ข้อชวนระลึกถึงเครื่อง Famicom

 


เอ้าเด็กโข่งทั้งหลาย ผมเชื่อว่าเกมเมอร์หลายท่านในนี้ต้องเคยสัมผัสจากเกมบนเครื่องเกมที่คลาสสิคที่สุดเครื่องหนึ่งอย่าง Famicom ของ Nintendo เครื่องเกมที่อยู่ในความทรงจำของใครต่อใครหลายๆ คน วันนี้ play จึงขอเขียนระลึกถึงเครื่องเกมนี้ให้เด็กโข่งทั้งหลายได้อ่านกันเพลินๆ ครับ มาดูกันว่าใน 30 ข้อนี้ ใครเอ่ยที่ต้องร้องว่า “เฮ้ยเราก็เหมือนกัน” กันบ้าง

 


1. เครื่องนี้จริงๆ แล้วมีชื่อว่า Family Computer (ชื่อเล่นคือ Family) แต่เมื่อถูกนำไปจำหน่ายนอกญี่ปุ่นก็จะใช้ชื่อว่า Nintendo Entertainment System (NES)


2. ส่วนเวอร์ชั่นอื่นของตัวเครื่องนอกจากนั้นหรืออะไรอีกมากมาย จะเป็นพวกค่ายอื่นเอามาทำ ที่ดังๆ จนคนไทยใช้ชื่อเรียกเครื่องนี้ไปเลยคือ FR202 จากค่าย Family


3. เครื่อง Famicom ของแท้จากญี่ปุ่นค่อนข้างหายากและมีราคาแพง แต่เครื่องที่ใช้เล่นเกม Famicom สามาารถเดินหาได้ตามร้านของเล่น และห้างสรรพสินค้าทั่วไปได้อย่างง่ายดาย

 

 

4. ตลับ 9,999,999 เกมที่เราเห็นกันเกลื่อนตามท้องตลาด ส่วนใหญ่จะมีเกมจริงๆ อยู่แค่ประมาณ 10-20 เกม นอกนั้นคือเกมซ้ำที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนอะไรบางอย่างในตัวเกมเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น


5. จอยปืนของเครื่อง Famicom หากไม่ยิงชิดกับจอทีวี มักจะยิงพลาดเสมอ


6. แม้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรามักเชื่อว่าการเป่าตลับเกมจะช่วยให้เปิดเกมติด แต่เคยมีการวิจัยพิสูจน์ออกมาแล้วว่าเป็นสิ่งอุปมาอุปมัยของเกมเมอร์ เอาเข้าจริงๆ แล้วการเป่าตลับอาจทำให้ตลับสกปรกและเสียง่ายกว่าเดิมด้วยซ้ำ


7. ตลับเกม Famicom มีความแข็งแกร่งระดับน้องๆ Nokia 3310 เรียกได้ว่าปาใส่กำแพง 10 รอบ แล้วเอามาเปิดก็ยังติด


8. สำหรับเด็กบางคน หากโดนพ่อแม่ต่อรองว่าตัวเขาต้องทำงานบ้านให้เสร็จก่อนจึงจะเล่นเกมได้ เราจะพบว่าเด็กพวกนี้ทำงานเร็วซะยิ่งกว่าแม่บ้านจริงๆ เสียอีก

 

 

9. เกมบางเกมระบุว่า 2 Player ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเล่นพร้อมกัน 2 คน หากแต่เป็นการเล่นสลับกัน


10. และหากคนจับจอย 1 เป็นคนที่เล่นเกมนั้นได้เทพ คนถือจอย 2 จะได้แต่จับจอยแล้วน้ำตาตกใน


11. ไม่ว่าจะมีเกมให้เล่นมากมายแค่ไหน ส่วนใหญ่ผู้ปกครองของพวกเรามักจะจำกัดความเกมเหล่านั้นไว้แคบๆ ว่า "Mario"


12. หลายคนไม่ค่อยเข้าใจเด็กรุ่นนั้นว่าการเช่าเล่นเกมที่ร้านแบบ 1 ชั่วโมง 20 บาท ที่ต้องรวมตังค์กับเพื่อน เพียงเพื่อการเล่น Contra ให้ตายตั้งแต่ด่านแรกน่ะ...มันเจ็บปวดจะตาย

 

 

13. เรามักจะจำสูตร “ขึ้นๆ ลงๆ ซ้ายขวาๆ AB Start” ได้แม่นกว่าบทเรียนที่จะออกสอบวันรุ่งขึ้นซะอีก


14. คนที่เล่นเกม RPG และ Rockman มักจะมีสมุด 1 เล่มเสมอ ไม่ใช่มาเขียนวิธีผ่านอะไรหรอก แต่เอามาจด Password ไว้เล่นต่อนั่นแหละ


15. แต่ถ้าเกิดเผลอจดผิดแม้แต่ตัวเดียวนะ...วันนั้นจะกินอะไรไม่ลงทั้งวันเลยทีเดียว


16. ความเป็นเพื่อนของเกมเมอร์สมัยนั้นอาจทลายลงได้เพียงเพราะการโดนดึงฉากในเกม Contra


17. ไม่รู้ทำไม...ในยุคนั้นทั้งที่ภาษาไทยยังจะเอาตัวไม่รอด แต่เราดันขวนขวายใฝ่รู้ภาษาญี่ปุ่นซะยังกับเป็นภาษาบ้านเกิด


18. หลายๆ เกมเราเรียกชื่อเกมจากตัวเอกที่เราเล่น...ด้วยความที่อ่านชื่อเกมไม่ออก

 

 

19. ราคาตลับเกมในยุคนั้นไม่ใช่เบาๆ แน่นอนว่าตอนนั้นเรายังเป็นเด็ก ต้องเก็บเงินกันหลายเดือนกว่าจะได้มา ครั้นจะไปซื้อตลับปลอมก็ไม่รู้ว่าจะเล่นได้รึเปล่า ด้วยเหตุนี้จึงถือกำเนิดการแลกเปลี่ยนตลับกับร้านเกม และอาจมีการเพิ่มเงินบ้าง แต่แน่นอนครับว่าเมื่อร้านพวกนี้เห็นเราเป็นเด็ก ก็ย่อมต้องมีการฟันหัวแบะเป็นธรรมดา


20. หลายเกมที่เราหยิบมาเล่นตอนนี้ ก็มักจะสงสัยกันว่า “ตอนเด็กเราเล่นจบไปได้ยังไงฟะ!?”


21. บางทีการที่เราสัมผัสเกมของเครื่องนี้หลายเกม ไม่ใช่เพราะว่าเรามีตลับเยอะ แต่ส่วนใหญ่มาจากการที่เราเล่นเกมพวกตลับรวมและเปิดมาเล่นเรื่อยๆ


22. จากข้อ 21 หลายๆ เกมถูกตัดสินความสนุกตั้งแต่ขึ้นภาษาญี่ปุ่นบนหน้าจอ


23. เกมที่พบบ่อยในตลับรวมเกมได้แก่ Contra, Circus Charlie, Super Mario Bros., Mario Bros และ Bomberman


24. ฉากจบหลายๆ เกม เพียงแค่ขึ้นวลีว่า “Congratulation” เราก็กลับซาบซึ้งจนน้ำตาไหลออกมา

 

 

25. หากว่าการเป่าตลับเกมไม่ช่วยให้เกมติด เราก็มักจะคิดค้นหลากหลายวิธีที่ทำให้เกมติดให้ได้ เช่น ขยับตลับตอนเสียบ ตบตลับ เอาตลับไปแช่ช่องฟรีซในตู้เย็น และอีกหลากหลายวิธี...ที่ถ้ามองตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วมันไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายตลับทางอ้อมชัดๆ


26. บางเคสที่หนักหน่อยอาจถึงขั้นแกะตลับพลาสติกชั้นนอกออก และเสียบแผ่นที่เป็นไส้ในของตลับ ด้วยความเชื่อที่ว่า มันจะช่วยระบายความร้อน ทำให้ตลับเปิดติดง่ายขึ้น


27. ไม่มีอะไรเลวร้ายเท่ากับการจะปราบบอสสุดท้ายแล้วไฟดับ เพราะคุณย่อมรู้ดีว่า...กว่า 70% ของเกมบนเครื่องนี้ ไม่มีระบบเซฟ คุณต้องเล่นมันแบบมาราธอนตั้งแต่ต้นจนจบ


28. บทสรุปเกมยุคนั้น ถ้าทำคุณภาพเดียวกันในยุคนี้ ราคาจะพุ่งไปที่เล่มละ 200-300 บาทแน่นอน


29. สารภาพมาเถอะ ว่าเราเคยเจอร้านในสะพานเหล็กหลอกขายมาแล้ว และเชื่อมั้ยว่า ก่อนสะพานเหล็กจะปิดตัว เรายังหาซื้อตลับเกมแบบ 9,999,999 ในสะพานเหล็กได้


30. เคยมีเด็กโข่งที่เล่น PlayStation (PS1) เกิดอยากกลับไปเล่นเกม Famicom จึงมีทีมงานหัวใส ไปพัฒนา Emulator ของเครื่อง Famicom ให้เล่นบน PS1 ได้ แต่คุณภาพเหรอ...คิดว่าไปปัดฝุ่นเครื่องมาเล่นใหม่ น่าจะมีความสุขกว่านะ

 

 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ