หลายต่อหลายครั้งที่มีแฟนๆ ของ Online Station ถามไถ่กันเข้ามาทางหน้าแฟนเพจว่าไม่สามารถอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองเข้าใจได้ว่าการเล่นเกมมันมีประโยชน์อย่างไร ซึ่งก็เป็นปัญหาเดียวกับที่เกมเมอร์ส่วนใหญ่ประสบพบเจอ สาเหตุของปัญหานี้คือการที่ผู้ใหญ่มองว่าเกมนั้นมีข้อเสียมากกว่าข้อดี หรือในอีกมุมหนึ่งผู้ใหญ่มองว่าการเล่นเกมนั้นมีโอกาสทำให้เด็กคนนึงเสียคนมากกว่าได้ประโยชน์จากมัน เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร? ผมอยากลองเสนอแนวคิดที่พวกเราคนเล่นเกมควรเริ่มจากตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่จะคิดไปเปลี่ยนมุมมองของผู้ใหญ่ครับ
1. ทำหน้าที่ของตัวเองในปัจจุบันให้ไม่ขาดตกบกพร่อง
เมื่อผู้ใหญ่มองมาเห็นเรานั่งเล่นเกม มองครั้งแรกเล่นเกม มองครั้งที่สองเล่นเกม มองครั้งที่สามก็ยังเห็นเราเล่นเกม สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นคำถามในหัวของผู้ใหญ่คือ "เราไม่ทำอย่างอื่นเลยหรือ?"
ใครยังอยู่ในวัยเรียนก็เรียนและทำการบ้านให้ดีอย่าให้การเรียนเสีย
การที่เราทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีไว้อยู่เสมอจะตอบคำถามนี้ได้ 100% เพราะมันเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราทำหน้าที่ในความรับผิดชอบของเราทุกอย่างเสร็จหมดแล้วจึงมาเล่นเกม มองในอีกมุมหนึ่งยังสามารถสอดแทรกได้อีกว่าเราเป็นคนที่บริหารจัดการเวลาในการดำเนินชีวิตได้ดี ดังนั้นใครเป็นนักเรียนก็ควรเรียนให้ดี ใครทำงานก็ควรทำงานให้ดีเสียก่อนแล้วค่อยมาทุ่มเทเวลาให้กับการเล่นเกมในช่วงเวลาว่างดีกว่า
2. เอาประโยชน์ที่ได้จากเกมมาใช้ในชีวิตจริง
หนึ่งในประโยคเด็ดของคนเล่นเกมที่มักใช้เถียงหรือโต้แย้งกับผู้ใหญ่คือ "เกมเล่นแล้วได้ประโยชน์ ไม่ใช่มีโทษอย่างเดียว" ประโยคนี้พูดให้ตายยังไงผู้ใหญ่ก็ไม่เข้าใจครับ เพราะเค้าไม่เคยสัมผัสเกมและไม่อินกับมัน
ทางเดียวที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นเข้าใจได้คือการเอาประโยชน์ที่ได้จากเกมมาใช้ให้เห็นในชีวิตจริง ใช้แล้วแสดงให้คนรอบข้างได้เห็นว่าสิ่งๆ นี้มันมีประโยชน์จริงๆ และเราได้มันมาจากการเล่นเกม เช่น การเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจที่ได้จากเกมให้คุณพ่อคุณแม่ฟังในระหว่างดูทีวีหรือกินข้าว (ผมเคยทำนะ พ่อแม่ดูสนใจเกมนั้นขึ้นเยอะเลยว่าทำไมทำให้ลูกมีความรู้ขึ้นมาได้) เป็นต้น
ผมเคยเล่นเกม Commandos แล้วทำให้รู้เรื่องประวัติศาสตร์สงครามโลก ไปเล่าให้พ่อแม่ฟังตอนกินข้าวท่านก็มีความรู้ไปด้วย
3. เลิกเอาภาษาอังกฤษเป็นข้ออ้าง
เชื่อมั้ยครับว่ามีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยพูดว่าเล่นเกมแล้วได้ฝึกภาษา (เช่นภาษาอังกฤษ) อันนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ คนที่เล่นเกมแล้วได้ฝึกภาษามีอยู่จริงและมีจำนวนไม่น้อย แต่อีกพวกหนึ่งก็มีจำนวนไม่น้อยเหมือนกันคือพวกที่พูดว่าเล่นเกมแล้วได้ภาษาอังกฤษ แต่เมื่อถามคำศัพท์ภาษาอังกฤษแค่คำหรือประโยคง่ายๆ ยังแปลไม่ออกเลย แถมมาเปิดดูเกมที่เล่นก็เล่นแต่เกมที่มีภาษาไทยทั้งนั้น แบบนี้หากผู้ใหญ่รู้ความจริงเข้ารับรองว่าชาตินี้ทั้งชาติไม่มีวันเข้าใจเราแน่ๆ ดังนั้นอย่าเอาภาษาอังกฤษเป็นเพียงข้ออ้างครับ แต่ควรเล่นเกมแล้วให้ได้ภาษาอังกฤษจริงๆ
มีคนเล่นเกมเคยถามผมว่าหน้านี้แปลว่าอะไร ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือเขาอ่าน 2 ปุ่มข้างล่างไม่ออกและไม่รู้ความหมายของมัน แบบนี้อย่าพูดว่าเล่นแล้วได้ภาษาเลยครับ
4. เลิกเอารายได้จากการเล่นเกมเป็นข้ออ้าง
เช่นเดียวกันกับหัวข้อที่แล้ว รายได้จากการเล่นเกมก็เป็นอีกหนึ่งข้ออ้างยอดฮิตของเกมเมอร์พอๆ กัน ในความเป็นจริงแล้วต้องยอมรับก่อนว่ามีเกมเมอร์ส่วนน้อยครับที่สามารถสร้างรายได้จากการเล่นเกมได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่ว่าจะเป็นจากการสร้างช่องบน YouTube แล้วแคสเกมหารายได้ผ่านโฆษณาบนระบบของ YouTube, รายได้จากเงินรางวัลการแข่งขัน E-Sports และรายได้จากขายไอเทมเป็นเงินจริง ผมเชื่อว่าเกมเมอร์เกิน 90% ในประเทศไทยไม่ได้อยู่ใน 3 กลุ่มนี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาเสียเงินให้เกมมากกว่าที่จะได้รายได้กลับมา
ซ้ำยิ่งไปกว่านั้นบางคนสร้างรายได้จากการเล่นเกมได้จริง แต่รายได้ดังกล่าวก็กลับย้อนไปเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวกับเกมอยู่ดีจนแทบไม่เหลือกำไร ได้เงินมาเอาเงินไปซื้อเกมจนหมด ถ้าแบบนี้ก็ไม่เรียกว่ามีรายได้จากการเล่นเกมนะครับ เพราะรายได้นั้นถูกนำไปใช้จนหมดกับการเล่นเกมอยู่ดี
สิ่งที่ควรทำคือหากคิดจะใช้ข้อนี้ในการโต้แย้งกับผู้ใหญ่ ตัวเราเองก็ควรที่จะหาช่องทางสร้างรายได้ให้มันเกิดขึ้นได้จริง มีเกมเมอร์ที่ผมรู้จักจำนวนไม่น้อยนะครับที่เมื่อพวกเขาหารายได้จากการเล่นเกมได้แล้วเขาเอาเงินเหล่านั้นไปให้พ่อแม่เพื่อตอบแทนพระคุณ หรืออีกนัยหนึ่งคือเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถมีรายได้ย้อนกลับมาช่วยครอบครัวได้จากการเล่นเกม
5. หากจะเล่นเกมจนเป็นอาชีพ อย่าพูด แต่จงเข้าใจให้ถ่องแท้ และเดินหน้าลงมือทำ
หลายคนมัวแต่โต้แย้งผู้ใหญ่ว่าการเล่นเกมนั้นสามารถเล่นจนเป็นอาชีพได้ ในความเป็นจริงคือไม่มีใครที่เล่นเกมอย่างเดียวแล้วเป็นอาชีพได้ นักกีฬา E-Sports ที่มีเงินเดือน พวกเขาไม่ได้นั่งเล่นเกมไปวันๆ แล้วจะกลายมาเป็นนักกีฬา E-Sports ที่ประสบความสำเร็จ พวกเขามีตารางการซ้อม พวกเขามีการประชุมแผนการเล่น พวกเขามีการเก็บตัว ยิ่งไปกว่านั้นในทีมชั้นนำพวกเขายังต้องใส่ใจด้านสุขภาพ การพักผ่อน และโภชนาการไปพร้อมๆ กัน
คุณคิดว่าพวกเขาเหล่านี้นั่งเล่นเกมไปวันๆ แล้วได้ไปแข่งระดับโลกอย่างนั้นหรือ?
นักแคสเกมไม่ได้นั่งเล่นเกมไปเรื่อยๆ แล้วจะมีรายได้เข้า พวกเขาต้องคิดหาวิธีการนำเสนอใหม่ๆ ฝึกทักษะการพากย์ การตัดต่อ และเรียนรู้ระบบของ YouTube หรือ Video Platform ที่จะสร้างรายได้ให้พวกเขาได้
นอกจากนี้คำว่า "อาชีพ" ในมุมของวงการเกมไม่ได้มีแต่นักกีฬา E-Sports และนักแคสเกมเท่านั้น ผู้พัฒนาเกมก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทั้งประเทศนี้ยังต้องการ และยังมีสาขาอาชีพอื่นๆ อีกมากมายในวงการเกมที่ยังขาดบุคลากร (เช่นบทความที่ผมเคยเขียนไว้ที่นี่ http://www.online-station.net/feature/feature/16007)
หากคุณคิดที่จะใช้ข้ออ้างที่ว่าสามารถเล่นเกมจนเป็นอาชีพได้และต้องการอธิบายให้ผู้ใหญ่เข้าใจ คุณเองก็ควรที่จะต้องเข้าใจทิศทางที่ตัวเองจะเดินไปเสียก่อน ต้องอธิบายได้ว่าในอุตสาหกรรมเกมนั้นมีอาชีพอะไรบ้าง แต่ละอาชีพต้องใช้ทักษะหรือความรู้ด้านไหนบ้าง สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจคำว่าอาชีพในมุมของคนเล่นเกมมากยิ่งขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดคุณไม่ควรหยุดอยู่แค่การอธิบาย แต่ควรตั้งหน้าตั้งตาลงมือทำอย่างมุ่งมั่น ก้าวเดินไปในทางที่ตัวเองคิดว่าจะไปให้ถึงยังอาชีพที่ตัวเองต้องการ นั่นแหละดีกว่าคำอธิบายใดๆ ทั้งปวง
ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นไม่ได้เขียนจากความรู้สึกนะครับ แต่แรงบันดาลใจมันมาจากคำถามทั้งหมดทั้งปวงที่ทาง Online Station ได้รับมาโดยตลอดจากน้องๆ เกมเมอร์รุ่นเยาว์ทุกท่าน ลองทำ 5 ข้อนี้ดูครับแล้วมาดูกันว่าผู้ใหญ่จะเข้าใจเรามากขึ้นมั้ย