เรียกได้ว่าปีนี้ค่ายพ่อมดน้ำแข็งอย่าง Blizzard นั้นขยันขันแข็งสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมใหม่ที่คลอดออกมาไล่เรี่ยกันอย่าง Heroes of the Storm และ Hearthstone จนมาถึงเกมใหม่ล่าสุดถอดด้าม นามว่า Overwatch เกมแนว FPS ล้ำอนาคต ที่ให้ผู้เล่นได้รับบทฮีโร่อันหลากหลาย เพื่อเข้ามาห้ำหั่นกันในสังเวียนสุดมันส์ และวันนี้ ทีมงาน Online Station มี Review เกมนี้ช่วง Stress Beta Test มาฝากครับ
Graphic
First Impression อย่างแรกของเกมนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องของภาพหรือกราฟิกภายในเกม ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า Blizzard ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Next-Gen โดยเฉพาะการออกแบบตัวละครที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตัวละครทุกตัวที่ผู้เล่นสามารถหยิบมาเล่นได้นั้นถูกออกแบบมาอย่างดี ไม่แลดูเป็นตัวประกอบออกมาโดนยิงทีเดียวตาย และมีการผสมผสานความล้ำสมัยกับแฟนตาซีได้อย่างลงตัว แทบไม่มีที่ติเลย ถ้าหากใครแสวงหาเกมที่ทำให้อยากเล่นตัวละคร “ทุกตัว” จากรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็น มั่นใจได้เลยว่า Overwatch จะเป็นหนึ่งในนั้น
ส่วนในเรื่องของฉากก็ออกแบบมาได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งงานออกแบบฉากคงไม่ต้องสาธยายให้มากความ เพราะว่าทุกวันนี้โคตรเกม MMORPG อย่าง World of Warcraft ก็ยังมีคนวิ่งเล่นชมเมืองกันอยู่เพียบ สรุปง่ายๆ ในเรื่องของงานภาพ การดีไซน์ของเกม Overwatch นั้น ได้ใจผมไปเต็มๆ สวยสดงดงามแถม Optimize มาได้ดีเยี่ยม ไม่กินทรัพยากรเครื่องแต่อย่างใด จะติดอยู่อย่างเดียวเวลาซัดกันนัวๆ Effect ต่างๆ ที่ปล่อยออกมานั้นอาจจะฟุ้งกระจายทำให้ดูไม่รู้เรื่องไปหน่อยเท่านั้นเอง
Story
หลายคนคงทราบกันดีว่าค่ายนี้ชอบทำเกมที่มีเนื้อเรื่องหนักๆ และทุกเกมของค่ายนี้ก็มีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามทุกเกมเสียด้วย Cinematic ทุกตัวที่ปล่อยออกมานั้นเรียกเสียงกรีดร้องของเหล่าแฟนบอยได้ทุกครั้งไป ซึ่งเกม Overwatch ก็มีการวางเนื้อเรื่องเอาไว้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ว่าด้วยโลกที่เกิดสงครามจนถึงขั้นวิกฤต ทำให้ต้องมีการจัดตั้งหน่วยรบพิเศษขึ้นมา ประกอบด้วยผู้คนหลายสัญชาติ หลายอาชีพ และหลากหลายความสามารถ เพื่อฟื้นฟูความสงบสุขของโลกให้กลับคืนมา จนในที่สุดโลกก็กลับมาเป็นปกติ แต่อีกหลายปีต่อมา หน่วย Overwatch ก็เกิดการแตกหัก ถึงแม้จะไม่มี Overwatch อยู่... แต่โลกก็ยังต้องการฮีโร่!!
ทุกตัวละครที่ผู้เล่นสามารถเลือกมาเล่นได้นั้นจะมีปูมหลังและปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ อยู่ ซึ่งเราสามารถเข้าไปหาอ่านได้ที่เว็บหลักของเกมได้เลย แต่ปัจจุบันเนื้อเรื่องยังมีการปล่อยออกมาไม่มาก คาดว่าถ้าหากเกมเต็มออกช่วงกลางปีหน้า คงได้เห็นอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านี้
Gameplay
ในด้านของ Gameplay นั้นก็จะคล้ายกับเกม FPS ทั่วไป เพียงแต่มี Ability เพิ่มเข้ามา ซึ่งตัวละครแต่ละตัวก็มีความสามารถแตกต่างกันออกไปสร้างความสนุกสนานได้มากโข ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้รูปแบบการเล่นจะเป็นการวางแผนมากขึ้น ชัดเจนที่สุดก็คือ Role ซึ่งทำให้คล้ายกับเกม Team Fortress 2 แต่จะมีความหวือหวากว่า(เพราะตัวละครเยอะกว่า) แต่ก็มีตัวละครบางตัวที่เล่นง่ายจนเกินไป ไม่ค่อยหวือหวา เลยอาจจะทำให้เบื่อนิดหน่อย ถึงอย่างนั้นก็ยังมีตัวที่เล่นยากๆ อยู่ ซึ่งก็จะทำให้ Gameplay นั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่น Tracer ที่มีความสามารถในการวาร์ปผ่านสิ่งกีดขวาง และย้อนเวลา เป็นต้น
สำหรับรูปแบบการเล่นนั้นจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งละ 6 คน ซึ่งก็จะมีหลายโหมดการเล่น ปัจจุบันมีอยู่สองแบบคือ Point Capture ที่คล้ายกับพวก “ยึดธง” ของเกม FPS เกมอื่น และ Payload ที่ฝั่งหนึ่งต้องพายานพาหนะไปถึงจุดที่กำหนด และอีกฝั่งต้องคอยขัดขวาง แต่หลักๆ แล้วทั้งสองโหมดการเล่นนี้มีจุดหนึ่งที่เหมือนกันคือแบ่งเป็นฝั่งป้องกันหรือ Defender และ ฝั่งบุกหรือ Attacker
โดยรวมแล้ว Gameplay อยู่ในขั้นที่สนุก และจะสนุกยิ่งขึ้นถ้าหากเล่นกับเพื่อนแล้วมีการสื่อสารกันระหว่างทีม เพราะผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวละครได้ตลอดเวลาเพื่อแก้เกมไปตามสถานการณ์ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีเวลาให้พิมพ์สื่อสารกันเท่าไหร่
Audio
เสียงต่างๆ ภายในเกมก็ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน แต่ที่เด็ดคือมีการแยกเสียงจากทิศทางต่างๆ ได้ชัดเจนมาก และมีการแยกเสียงกระทบพื้นผิวอีกด้วย เช่นพื้นไม้ก็จะเป็นเสียงหนึ่ง พื้นปูนหรือหินก็จะเป็นอีกเสียงหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถอาศัยเสียงเหล่านี้ในการระวังตัวได้ด้วย นอกจากนี้ เสียงการพากย์ของตัวละครก็มีความโดดเด่น อย่างตัวละคร Mei ที่มีสัญชาติจีน ก็จะพูดภาษาจีน หรือ Genji ที่เป็นคนญี่ปุ่น ก็จะพูดญี่ปุ่นด้วย
Bugs
ตัวเกมเต็มจะเปิดให้เล่นในวันที่ 21 มิถุนายน 2559 ตามกำหนดการ แต่จากการที่เข้าไปเล่นในช่วง Stress Beta Test มานี้ต้องขอบอกว่า นี่มันคือเกมที่ “เสร็จแล้ว” ชัดๆ ไม่เจอบัคเลยแม้แต่น้อย หรือจริงๆ แล้วอาจจะมีแฝงอยู่เล็กน้อย แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ใน Community ของ Battle.net ก็ไม่มีบ่นให้เห็นกันเท่าไหร่ ตั้งหน้าตั้งตาเล่นกันรัวๆ
Pros & Cons
ข้อดีข้อเสียของเกม Overwatch ในช่วง Stress Beta Test นั้นคงไม่ต้องอธิบายอะไรกันให้มาก เพราะข้อดีนั้นมีเยอะเหลือเกิน และข้อเสียเพียงอย่างเดียวตอนนี้ก็คือเรื่องของ Server ที่เปิดแค่ NA กับ EU ทำให้ผู้เล่นชาวเอเชียอาจต้องทน Lag กันหน่อย และมีการแจกคีย์เข้าทดสอบแบบจำกัดมากๆ ทำให้ผู้เล่นอาจจะมีน้อย ส่งผลให้หาห้องนานในบางช่วงเวลา
สรุปแล้วนี่คือเกมที่เจ๋งมาก อยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสกันเหลือเกิน แต่ตัวเกมนี้ไม่ใช่เกมฟรี ต้องซื้อเพื่อเล่น ถ้าอยากเล่นก็คงต้องเก็บเงินรอกันเสียแต่เนิ่นๆ ด้วยราคา 39.99 เหรียญสหรัฐฯ เล่นได้ทั้ง PC, PS4 หรือ Xbox One และด้วยความที่นี่คือเกมของ Blizzard ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการหลังหักเท่าที่ควร เพราะทุกเกมของ Blizzard มีการดูแลและ Update อย่างต่อเนื่องทุกเกม เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่า เกมนี้จะเป็นเกมที่คุ้มค่าต่อการซื้อมาเล่นในอนาคตอย่างแน่นอน
ถ้าหากใครอยากดู Gameplay ช่วงทดสอบนี้ ทีมงาน Online Station ได้เข้าไปเล่นมาแล้วได้คัดช่วงสวยๆ มาให้ดูครับ จิ้มดูได้เลย ขอขอบคุณ O_Taiki สำหรับ Footage สวยๆ ครับ