หลังจากที่มีข่าว และกระแสเกี่ยวกับ Markus Persson ผู้สร้าง Minecraft ว่าชีวิตเขาไม่มีความสุขอีกเลยตั้งแต่ขาย Minecraft ไปให้กับ Microsoft ด้วยมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านเหรียญ US ทำให้เราไปเจอข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเหล่ามหาเศรษฐีในวงการเกมที่มีเงินใช้เป็นกระดาษ แต่การจัดอันดับครั้งนี้เป็นการจัดอันดับคนที่คลุกคลีกับวงการเกม สร้างเนื้อสร้างตัวมาจากวงการเกมล้วนๆ ทำให้เจ้าพ่อ Microsoft อย่าง Bill Gates ที่ถึงแม้จะเป็นผู้ครอบครองผลิตภัฑณ์อย่าง Xbox ถูกตัดออกไป เรามาดูกันเลยว่า Forbes จัดอันดับเอาไว้อย่างไร
1. Ma Huateng ทรัพย์สินทั้งหมด 16.3 พันล้านเหรียญ US – Tencent – China
ถ้าพูดถึงชื่อของนายคนนี้คงมีน้อยคนที่จะรู้จักเขา แต่ถ้าบอกว่าเป็นคนที่ทำให้ League of Legends หรือ LOL ดังไปทั่วโลกก็พอจะนึกขึ้นมากันได้บ้าง เริ่มแรกเดิมทีตัวของ Ma Huateng นั้นจับธุรกิจด้าน Internet ในฮ่องกงหลังจากนั้นเขาก็มองเห็นโอกาส และกระโดดเข้ามาลุยงานด้านเกม
2. William Ding ทรัพย์สินทั้งหมด 6.6 พันล้านเหรียญ US – NetEase – China
เจ้าพ่อแห่งวงการเกมคนที่ 2 คือ William Ding เจ้าของบริษัท NetEase ที่เปิดตัวบริษัทในปี 1997 ด้วยพนักงานเพียง 12 คน แต่ทุกวันนี้เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการเกมมือถือ ที่มีพนักงานอยู่ทั่วโลกกว่า 8,000 คน และบริษัทแม่อยู่ในอเมริกา สำหรับเกมที่คนในบ้านเราพอจะรู้จักบ้างก็คือ Advance Dino แต่ความยิ่งใหญ่ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น NetEase ยังไปซื้อลิขสิทธิ์ของเกมดังอย่าง Hearthstone และ World of Warcraft จาก Bilzzard มาเปิดในจีนอีกด้วย
3. Shi Yuzhu ทรัพย์สินทั้งหมด 3.9 พันล้านเหรียญ US – Giant Interactive – China
เรายังคงอยู่ในประเทศจีนกับบริษัท Giant Interactive ที่เจ้าของคือ Shi Yuzhu ชายผู้นี้อยู่ในวงการเกมมาหลายปีเช่นกัน โดยตัวบริษัทนั้นเป็นทั้งผู้พัฒนาเกมเองทั้งบน PC และ มือถือ รวมถึงซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาเปิดในจีนสำหรับเกมที่เขาซื้อมาเปิดแล้วคุ้นตาคุ้นตาในบ้านเราบ้างก็คือ Elsword นั้นเองครับ
4. Kwon Hyuk Bin ทรัพย์สินทั้งหมด 2 พันล้านเหรียญ US – SmileGate – South Korea
ข้ามมาที่ฝั่งเกาหลีกันบ้างกับบริษัทเกมอันดับ 2 ในเกาหลี SmileGate นั้นเปิดให้บริการเกม FPS ชื่อดังอย่าง Crossfire รวมไปถึง TalesRunner และบริษัทนี้ยังเป็น Partner กับทาง Tencent อีกด้วย ซึ่งเจ้าของบริษัทคือ Kwon Hyuk Bin นั้นเอง
5. Kim Jung-Ju ทรัพย์สินทั้งหมด 2 พันล้านเหรียญ US – Nexon - South Korea
มาถึงบริษัทที่คนในบ้านเรารู้จักกันดีอย่าง Nexon คือพูดชื่อทุกคนคงร้องอ๋อ เพราะเกมของทาง Nexon นั้นมีคนเล่นกว่า 350 ล้านคนในเอชียเลยทีเดียว สำหรับเกมที่คนในบ้านเรารู้จักกันดีก็มีหลายเกม ไม่ว่าจะเป็น MepleStory, Dragon Nest รวมไปถึง Vindictus(Mabinogi Heroes)
6. Naruatsu Baba ทรัพย์สินทั้งหมด 1.8 พันล้านเหรียญ US – Colopl – Japan
Colopl ถือเป็นเจ้าพ่อวงการเกมมือถือแห่งญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะเกมมือถือที่พวกเขาทำนั้นเจาะหลายๆ กลุ่มพร้อมกันทั้งวัยรุ่น เด็ก วัยทำงาน ส่วนเกมที่คนในบ้านเราเล่น และรู้จักคือ SLINGSHOT BRAVES และ MURAMASA
7. Gabe Newll ทรัพย์สินทั้งหมด 1.3 พันล้านเหรียญ US – Valve – US
แค่เห็นชื่อ Valve ก็ร้องอ๋อไปทั้งโลก ส่วนเจ้าของคือ Gabe Newll ที่สร้าง และพัฒนาเกมชื่อดังออกมาแล้วมากมายให้คนทั้งโลกเล่นไม่ว่าจะเป็น Counter Strike, Half Life และโคตรเกมอย่าง Dota2 ซึ่งเกมในเครือ Valve นั้นมีคนเล่นทั่วโลกกว่า 75 ล้านคน
8. Markus Persson ทรัพย์สินทั้งหมด 1.3 พันล้านเหรียญ US – Mojang – Sweden
สำหรับ Markus Persson นั้นเรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ของวงการเกมเลยก็ว่าได้ หลายต่อหลายคนรู้จักกันดีว่าเขาเป็นผู้สร้างเกม Minecraft ที่ล่าสุดได้ขายตัวเกมไปให้กับ Microsoft และเขายังเป็นคนจากฝั่งยุโรปเพียงคนเดียวที่ติดอยู่ใน 10 อันดับเศรษฐีแห่งวงการเกมอีกด้วย
9. Chen Tianqiao ทรัพย์สินทั้งหมด 1.2 พันล้านเหรียญ US – Shanda Game – Chian
กลับมาที่ฝั่งเอเชียอีกรอบกับบริษัท Shanda Games ผู้ให้บริการเกมในจีนที่มีพนักงานทั่วโลกกว่า 8,000 คน และบริษัทนั้นยังอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกา(NASDAQ) อีกด้วย สำหรับเกมชื่อดังที่ทาง Shanda Games ซื้อมาเปิดให้บริการคือ MapleStory และกำลังเป็นกระแสในจีนอย่าง Dragon Nest ที่นอกจากปล่อยให้เล่นฟรีแล้ว ยังจะทำ Anime ของ Dragon Nest ให้ดูในจีน และขายสินค้าเกี่ยวกับ Dragon Nest อีกด้วย
10. Kim Taek Jin ทรัพย์สินทั้งหมด 1.2 พันล้านเหรียญ US – NCSoft – South Korea
น้อยคนที่จะไม่รู้จักบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของเกาหลีอย่าง NCSoft บริษัทนี้ก่อตั้งโดย Kim Taek Jin ในปี 1997 และเป็นที่รู้จักไปกว่า 60 ประเทศในฐานะผู้พัฒนาเกม Online สำหรับเกมที่สร้างชื่อให้กับบริษัทคือ Lineage 2, AION, Blade & Soul และ Guild Wars 2
หลังจากที่เราได้ดู 10 อันดับคนที่รวยที่สุดในวงการเกมไปแล้วก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าส่วนใหญ่แล้วธุรกิจ และความโด่งดังนั้นอยู่ในฝั่งเอเชียเป็นหลัก เนื่องจากยุคของการเล่นเกมแบบ PC-Offline ทำให้ทางยุโรป หรืออเมริกาที่เพิ่งจะหันมาสนใจด้านนี้ยังคงตามอยู่อีกเยอะ แต่สิ่งที่ได้จากเกมฝั่งยุโรป และอมเริกาคือคุณภาพด้าน Graphic และเนื้อเรื่องภายในเกมแทนซึ่งใช้เงินลงทุนค่อนข้างเยอะทำได้ให้กำไรน้อย แต่สุดท้ายยังไงแล้วพวกเราก็เล่นกันอยู่ดี 5555+ และที่อยากจะฝากให้กับเหล่าเกมเมอร์ทุกๆคนเลยคือเล่นของแท้ แผ่นแท้ และสนับสนุนเกมลิขสิทธิ์กันเถอะครับเพื่อที่พวกเขาเหล่านี้จะได้พัฒนาเกมดีๆ ออกมาให้พวกเราได้เล่นกันอีก
Credit: http://www.forbes.com/sites/erikkain/2015/03/07/the-top-10-video-game-billionaires/