โหมโรงกันไปแล้วจากภาค Ground Zero ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมและต้อนรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี ความสนุกในสไตล์ MGS ที่มีเอกลักษณ์ น่าประทับใจ แต่เกมสั้นไปหน่อย ก็อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า Ground Zero นั้นเป็นเพียงภาคอารัมภบทเพื่อปูเรื่องราวไปสู่ The Phantom Pain เท่านั้น เป็นการให้ผู้เล่นได้คุ้นชินกับระบบของเกมไปด้วย โดยเนื้อเรื่องในภาคใหม่นี้จะต่อเนื่องจาก Ground Zero หลังจากเหตุการณ์สำคัญในช่วงท้ายเกม Mother Base โดนถล่มยับเยิน ผลพวงของเหตุการณ์นั้นทำให้ Big Boss (หรือ Snake) ของเราได้รับบาดเจ็บสาหัสเกือบตาย
“และต้องเสียแขนซ้ายไปด้วย”
เก้าปีผ่านไป Big Boss ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง และพบว่าแขนซ้ายกลายสภาพเป็นแขนเทียมไปแล้ว เขาได้พบกับตัวละครลึกลับ Ishmael ซึ่งอยู่ในสถานะผู้ป่วยเหมือนกัน หน้าของเขามีผ้าพันแผลปิดอยู่จนมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง Ishmael ได้ฉีด Digoxin ให้กับ Big Boss เพื่อฟื้นฟูร่างกายจากอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ขณะนั้นเองโรงพยาบาลกำลังถูกโจมตี และกองทัพฝ่ายตรงข้ามกำลังเข้ามาเคลียร์พื้นที่ทั้งหมด ทั้งคู่หลบหนีออกมาโดยอาศัยรถพยาบาลด้วยความยากลำบาก และได้รับการช่วยเหลือจากสหายเก่า Ocelot พา Big Boss หลบหนีโดยใช้อาศัยม้าเป็นพาหนะ
หลังจากหลบหนีได้สำเร็จ พวกเขาเดินทางมายังอัฟกานิสถาน เข้าไปยังพื้นที่ซึ่งถูกควบคุมโดยสหภาพโซเวียต และพบว่า Kazuhira Miller ได้ถูกจับกุมไป เชื่อว่าเวลาของเขาน่าจะเหลือแค่เพียงสามวันเท่านั้น และนี่คือภารกิจหลัก แทรกซึมแฝงตัวของ Big Boss เพื่อช่วยเหลือพวกพ้องภายในเวลาอันจำกัด และอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายสุดๆ ยิ่งไปกว่านั้นมันคือการล้างแค้นตัวการใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีที่ทำให้ Big Boss ต้องอยู่ในอาการโคม่าอย่างยาวนาน
ควบม้าท่องไปในทะเลทรายกว้างใหญ่
แม้ว่าในภาคที่แล้วจะไม่ได้มีพื้นที่มากมาย แต่ก็มีรายละเอียดไม่น้อย มีจุดต่างๆ ใช้ให้หลบซุ่ม ปะทะกับศัตรูอย่างสนุกสนาน แต่ในภาคนี้ความมันส์และความอิสระจะเพิ่มขึ้นมากมายด้วยแผนที่แบบ Open-World อ้างอิงว่าเป็นประเทศอัฟกานิสถาน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายและภูเขาหิน แลดูสวยงามมากขึ้น องค์ประกอบในแผนที่มีรายละเอียดที่สมจริง แต่มีขนาดกว้างใหญ่กว่าใน Ground Zero หลายเท่าตัว ไม่ได้เป็นเพียงแคมป์แห่งเดียวแบบนั้น แผนที่จะแบ่งออกเป็นส่วนๆ มีภารกิจให้เลือกทำมากมาย ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกทำได้ตามใจชอบ เมื่อรับทำภารกิจแล้วแผนที่จะถูกจำกัดลง หากผู้เล่นออกนอกบริเวณภารกิจก็ล้มเหลว
ภารกิจลอบเร้นระดับเทพที่พัฒนาขึ้นจากภาคก่อน
ผู้เล่นสามารถเลือกแนวทางการบู๊ลุยแหลกได้อย่างไม่มีข้อห้าม ด้วยอาวุธที่มีอยู่ที่ตัว Big Boss หรือตามฉากอย่าง การเก็บจากศัตรู ป้อมปืนกล หรือรถถัง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบการเล่นของเกม Metal Gear Solid ภาคต่างๆ ที่สร้างความประทับใจให้แฟนๆ มาตลอด ก็คือการลอบเร้นที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นท้าทาย ได้อรรถรสเฉพาะตัวแตกต่างไปจากเกมอื่นๆ ในแนวเดียวกัน ถ้าคุณชอบ Ground Zero ก็จะไม่ผิดหวังกับภาคนี้อย่างแน่นอน พื้นฐานการเล่นรวมๆ ออกจะคล้ายกัน แต่มีการปรับปรุงในหลายๆ ส่วนให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มเติมรายละเอียดให้เกมสมบูรณ์แบบ และยกระดับขึ้นจาก Ground Zero ไปอีกขั้นหนึ่ง
สารพัดของเล่นใหม่
มีการเพิ่มเติมเครื่องไม้เครื่องมือเล็กๆ น้อยๆ เข้ามาในภาคนี้ ซึ่งแต่ละอย่างนั้นก็มีความน่าสนใจ และมีส่วนสำคัญในการเล่นด้วย เริ่มต้นจาก Phantom Cigar สิ่งเสพติดเป็นของไม่ดีและควรหลีกเลี่ยง แต่สำหรับเกมนี้มันเป็นสิ่งที่น่าใช้งานครับ เพราะมันจะช่วยในเรื่องของการฟื้นตัว และเพิ่มความเร็วให้กับ Big Boss ในช่วงเวลาหนึ่ง อีกความน่าสนใจและเป็นฟีเจอร์ใหม่ของเกมภาคนี้ก็คือ ตัวเกมมีระบบกลางวัน กลางคืนที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไป ซึ่งช่วงเวลานี้จะมีผลต่อพฤติกรรม รวมไปถึงตำแหน่งที่อยู่ของศัตรู คล้ายกับในชีวิตจริง ไม่มีใครยืนอยู่เดิมตลอดทั้งวันทั้งคืน ดังนั้นช่วงเวลาที่แตกต่างอาจสร้างโอกาสได้มากกว่า เวลากลางคืน ความมืดย่อมเป็นตัวช่วยที่ดี ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลารอเวลาให้หมุนผ่านมาเองก็หยิบ Phantom Cigar ออกมาสูบซะ แค่นี้เวลาก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว พร้อมที่จะให้คุณได้พบประสบการณ์ที่แตกต่างทันที มันเป็นไอเดียที่น่าสนุก และคุณจะต้องได้ใช้งานมันบ่อยๆ แน่นอน
ด้วยชื่อเสียงของซีรีส์ Metal Gear ที่เป็นจุดขายมาตลอดหลายๆ ปี และส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็ไม่ผิดหวังอยู่แล้ว บางคนกล่าวว่าภาค Ground Zero เป็นเหมือนเดโมของ The Phantom Pain ก็ดูจะไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงไปนัก หลายๆ ส่วนได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาจาก Ground Zero ซึ่งสนุกอยู่แล้ว และมันจะยิ่งยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกขั้น เกมเพลย์จะยาวกว่านั้นมาก มันเต็มไปด้วยภารกิจมากมาย ฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีกเพียบและดูน่าสนุกทั้งนั้น แถมด้วยโหมดออนไลน์ที่ดูท้าทายมากๆ สำหรับแฟนๆ MGS และคนที่ชอบเกมแนวลอบเร้นเตรียมหยอดกระปุกรอได้เลยครับ
ติดตามบทความฉบับเต็มได้ใน Future Gamer ฉบับที่ 226 ครับ