Tree of Savior พฤกษาแห่งผู้กอบกู้ การต่อสู้ของเหล่าเทวดาและซาตาน

แชร์เรื่องนี้:
Tree of Savior พฤกษาแห่งผู้กอบกู้ การต่อสู้ของเหล่าเทวดาและซาตาน

    ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ สำหรับ mmorpg ที่มาแรงแซงทุกโค้งในขณะนี้สำหรับ Tree of Savior ด้วยทั้งกระแสที่ถูกปูมานานอย่างผู้สร้างคือบิดาผู้ให้กำเนิด Ragnarok หรือกระแสล่าสุดอย่าง CBT 3 ของเซิร์ฟเกาหลี และ CBT ครั้งแรกสำหรับชาว Steam ทั่วโลก ณ ตอนนี้ และก็คงมีเพื่อนๆ หลายคนที่ได้ Beta Key เข้าร่วมทดสอบกันด้วย ก็ขอแสดงความดีใจด้วยครับ ส่วนคนที่ไม่ได้ก็อย่าพึ่งเสียใจไป เพราะวันนี้ผมจะพาไปรู้จักเบื้องต้นของเจ้าเกม Tree of Savior กันก่อนว่ามันสมกับราคาและความ Hype ที่กันหรือไม่ และจะได้เตรียมตัวกันถูกครับผม

    อย่างแรกก็คงต้องพูดถึงเรื่องการสร้างตัวและสายอาชีพก่อน เพื่อนๆ ดีใจเปราะแรกกันได้เลย อย่างน้อย Tree of Savior ก็ไม่ได้มีการล็อคเพศตามสายอาชีพเหมือนเกมเกาหลีหลายๆ เกมที่เป็น ณ ปัจจุบัน ความหลากหลายในการสร้างตอนช่วง CBT นี้จะยังมีไม่มากเท่าไหร่ แต่มองดีๆ จะมีความคล้ายคลึงกับ RO ที่ถูกยืดไซส์ตัวละครให้สูงขึ้นอีกหน่อยด้วย

    ในด้านของอาชีพหรือคลาสถ้าจะให้พูดถึงกันคงไม่หมดแน่ๆ เพราะมันมีตั้ง 40++ คลาสในช่วง CBT นี้ แต่พื้นฐานทุกคนจะสามารถเลือกได้แค่ 4 อาชีพ ได้แก่ Swordman , Archer , Wizard , Cleric หลังจากนั้นทุกๆ Job lv ถึง 15 เมื่อไหร่ก็สามารถเปลี่ยนอาชีพขึ้นสูงได้ ซึ่งจะใช้เรียกขั้นอาชีพว่า Rank นั่นเองครับ (ปัจจุบันน่าจะถึง Rank 6-7) ถ้าไม่เปลี่ยนอาชีพใหม่ก็สามารถเลื่อนขั้นอาชีพเดิมได้ เพื่อที่จะเพิ่มเลเวลสกิลเดิมและรับสกิลใหม่ของอาชีพนั้นๆ ได้ แต่จะเลื่อนได้แค่ 3 รอบเท่านั้นต่อ 1 อาชีพ เท่ากับว่าจะมีความหลากหลายในการเปลี่ยนอาชีพและการสร้างสรรค์สกิลของตัวละครได้มากขึ้น

    ระบบการต่อสู้ของตัวเกมอาจจะไม่ได้ถูกใจคนที่ชื่นชอบการต่อสู้แบบรวดเร็วๆ หรือ WASD + ใส่คำสั่งรัวๆ แบบเกมยุคนี้ซักเท่าไหร่ ด้วยการโจมตีที่ดูออกจะเชื่องช้า (จริงๆ มันก็ไม่ช้ามากนะ แต่เทียบกับหลายเกมก็จะดูช้ากว่า) แต่ถ้าใครคิดถึงสมัยที่เล่น Ragnarok ที่ค่อยๆ ตี ค่อยๆ ใส่สกิล (ในช่วงแรก) ก็น่าจะถูกใจมาก แถมยังมีการรอบรับการควบคุม 3 แบบด้วยกันก็คือ การใช้จอยที่หน้าตา UI จะเปลี่ยนแปลงมาเป็นปุ่มบนจอยให้เซทกันง่ายๆ , ใช้คีย์บอร์ดเป็นหลักที่จะควบคุมตัวละครทั้งหมดด้วยคีย์บอร์ดล้วนๆ และการใช้เม้าส์ที่สามารถคลิ๊กเดินได้ คลิ๊กโจมตี+เล็งเป้า และใช้ WASD เดินก็ได้ ใครถนัดแบบไหนก็สามารถปรับกันได้เลย (แต่ตอนนี้ยังปรับ shortcut ไม่ได้อ่ะ เสียใจ)

    มาดูกันที่เรื่องของสกิลบ้าง เริ่มต้นที่สกิลจะตัน Rank แรกของอาชีพที่เลเวล 5 ถ้าปลดอาชีพเดิมเป็น Rank 2 ก็จะเพิ่มอีก 5 แต่ว่า Rank นึงนั้นเราจะได้แต้มมาอัพสกิลแค่ 15 แต้ม ไม่สามารถอัพเต็มได้ทุกสกิลแน่นอน อ้อ การใช้สกิลบางสกิลจะสามารถใช้ต่อเนื่องกันได้ 2-3 รอบ สามารถสังเกตุได้จากจุดกลมๆ บนสกิลเวลาใส่หน้าต่างช็อทคัทครับ หลังจากใช้ครบรอบถึงจะเริ่มคูลดาวน์สกิลนะ นอกจากสกิลที่มีให้อัพแล้ว ก็ยังมีสกิลที่เป็น Passive ติดตัว ซึ่งในเกมนี้จะถูกเรียกว่า Attributes โดยเราจะสามารถไปเรียนกับ Master ของสายอาชีพที่เราไปทำการเปลี่ยนอาชีพนั้นๆ ได้โดยใช้เงินในเกมในการอัพเกรด บางสกิลจะมีเวลาในการเรียน บางสกิลจะกดปุ๊บเรียนรู้ปั๊บ และยังสามารถปิด/เปิด Attributes ได้ด้วย

    เรื่องการเดินเควสต์นั้น ไม่น่าจะหลงกันเท่าไหร่ เพราะตัวเกมจะมีระบบชี้จุดทำเควสต์ให้ ตัวเกมมีทั้งเควสต์หลัก เควสต์รอง แต่ว่าหลายๆ เควสต์ที่จะถูกตัดเข้าคัทอินสู้กับบอส เจอบ่อยมาก เรียกว่ารัวๆ เลยดีกว่า ซึ่งบอสเควสต์พวกนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะกระจอกซะด้วย หลายตัวนี่อาจจะต้องใช้ฝีมือหรือใช้ปาร์ตี้กันซักนิด แต่บอกก่อนว่าพวก NPC เควสต์รองนั้นจะไม่โชว์บนแผนที่นะ ต้องเดินไปเจอแล้วคุยเองถึงจะรู้ว่ามี ส่วนใครที่ไม่อยากทำเควสต์เท่าไหร่ เบื่อแล้วว่างั้น ก็สามารถไปหาจุดที่มอนสเตอร์เกิดเยอะๆ แล้วจับตี้นั่งฟาร์มอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน เลเวลก็ขึ้นไวไม่น้อยหน้าครับผม (แต่แนะนำว่าช่วงแรกควรไล่เควสต์ไปซักระยะก่อนนะ ค่อยไปฟาร์มทีหลังจะดีกว่า)

    ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่าแล้วพวกแผนที่กับดันเจี้ยนจะเป็นยังไง คำตอบก็คือแผนที่จะแบ่งง่ายๆ เป็น 3 แบบก็คือ เมือง แผนที่ปกติ และดันเจี้ยน เมืองก็มี NPC เยอะแยะ ไว้ซื้อขาย รับเควสต์ บลาๆๆ เหมือนเกมทั่วไป แผนที่ปกติก็เป็น open world เจอคนอื่น มอนสเตอร์เยอะๆ มี npc คุย มีเควสต์ แต่ที่ผมชอบที่สุดคงเป็นดันเจี้ยนครับ เพราะดันเจี้ยนเกมนี้ก็เป็น open world เช่นกัน ก็คือพอลงดันเจี้ยนไปแล้วเนี่ยะ เราจะเจอทุกคนที่ลงดันเจี้ยนนั้นๆ ไล่หวดมอนสเตอร์อยู่ ไม่มีดันเจี้ยนส่วนตัว ลงเหงาๆ แค่ปาร์ตี้เรา ดังนั้นสีสันเก่าๆ ที่เราคิดถึงมันจะกลับมาอย่างเช่น การแจม การเดินเจอกันโดยบังเอิญแล้วชวนปาร์ตี้ เป็นต้น อ้อ การปาร์ตี้เราสามารถเซทค่าต่างๆ ได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมตั้งชื่อปาร์ตี้ให้โผล่ที่ใต้ตัวละครได้ด้วยนะเอ้อ !

    ที่ขาดไม่ได้เลยที่จะพูดถึงก็คือ BGM หรือเพลงประกอบฉากของเกมครับ ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้ดีมาก น่าจะถูกใจหลายๆ คนที่ชอบเพลงแนวบรรเลงที่ดูอลังๆ แถมยังมีหลายช่วงที่มีแนวตื๊ดๆ โผล่มาด้วย แน่นอนว่า 1 ในทีมงานที่สร้างสรรค์ BGM เกมนี้ก็คือ soundTeMP ที่ทำเพลงประกอบเกมอย่าง Ragnarok และเกมอื่นๆ อีกหลายเกมด้วย (มีทีมอื่นด้วยนะ แต่ไม่รู้จักเท่าทีมนี้ ฮ่าๆ)

    ส่วนระบบอื่นๆ ยิบย่อยก็จัดว่าตัวเกมทำออกมาให้เข้าใจง่าย ทั้งเรื่องระบบการคราฟท์ไอเทมที่มีแค่ใบแล้วก็ไปหาชิ้นส่วนมาคราฟท์ได้เลย ไม่ต้องใช้เลเวล ระบบ Adventure History ที่เป็นทั้ง achievements ส่วนตัวและเตือนความจำเกี่ยวกับการผจญภัยต่างๆ ของเรา ระบบ status ที่ชี้หรือกดอัพลองดูแล้วก็รู้ว่าเพิ่มค่าอะไรบ้าง ระบบการตีบวก ระบบการฝังเพชรออพชั่นที่ใช้ง่าย และล่าสุดก็พึ่งจะมีระบบ PvP แบ่งฝั่งละ 5-5 เข้ามาให้ทดสอบกัน เรียกว่าสนุกพอใช้ได้เลยทีเดียว

    นี่ก็คือสิ่งที่น่าสนใจคร่าวๆ ของ Tree of Savior นะครับ ส่วนถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัว ต้องบอกว่าสำหรับผมเองแล้วตัวเกมถือว่าได้คะแนนจากผมไปเยอะอยู่ ด้วยตัวเกมที่มีความคลาสสิคหลายๆ อย่างที่มาจากอดีตเกมที่เคยบุกเบิกอย่าง Ragnarok โดยเฉพาะเรื่องดันเจี้ยนที่ชอบมาก เพลงประกอบก็ดี เกมเข้าใจไม่ยาก แต่ทว่าทุกอย่างนี้อาจจะไม่ถูกใจและไม่โดนผู้เล่นใหม่ๆ ซักเท่าไหร่ ดังนั้นผู้เล่นบางคนที่คาดหวังไว้สูงมากอาจจะผิดหวังไม่มากก็น้อย แต่สำหรับผมแล้ว 8.5/10 เลยจ้า (หักลบค่าบั๊กเยอะในช่วง Beta ไปก่อน กับสกิลของสายซัพที่ฮีลลงพื้นต้องให้เพื่อนมาเหยียบ 555)

 

แชร์เรื่องนี้: