อัพเดตให้ได้ลองเล่นกันไปแล้วนะครับกับ Leoric ราชาโครงกระดูกสุดหล่อ หลายๆ คนที่ได้ลองเล่นก็คงจะรู้สึกชอบหลายๆ คนที่ได้เจอหน้าเมื่ออยู่อีกทีมก็คงจะรู้สึกเกียจขี้หน้า แต่แน่นอนว่ายังมีหลายๆ คนที่ซื้อมาแล้วหรือรอซื้อตอนลดราคา กำลังคิดอยุ่ว่าจะเล่นพี่โครงกระดูกตัวนี้ยังไงให้เทพ หรือยังไม่รู้แนวทางการอัพTalent ต่างๆ เอาเป็นว่าเรามาดูข้อมูลต่างๆกันเลย
Leoric ,The Skelton king
Leoric จัดเป็นฮีโร่ประเภท Melee Warrior โดยเป็นฮีโร่ที่มาจากซีรีย์ Diablo ซึ่งหลายๆคนก็น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นแค่บอสระดับล่างประจำ Act 1 แต่ก็ถือเป็นที่รู้จักกันมากเพราะทุกคนจะต้องเจอกับพี่แกเป็นตัวแรกและคนที่ทดลองเล่นฟรีก็จะต้องวนเวียนอยู่กับพ่อราชาโครงกระดูกตัวนี้เป็นตัวแรกและตัวเดียว
Leoric นั่นจัดได้ว่าเป็นฮีโร่ที่มีการเคลื่อนที่ช้าพอสมควรโดยจะเน้นการยื่นอยู่ในแนวหน้าเพื่อเป็นโล่คอยป้องกันศัตรูตัว Leoric จะไม่มีวันตายอย่างแท้จริงเพราะเมื่อ Leoric ล้มลงก็จะกลายร่างเป็นวิญญาณคอยหลอกหลอนศัตรูในสนามรบและเมื่อถึงเวลาก็จะฟื้นคืนชีพกลับมาไล่ฆ่าศัตรูของเขาต่อ ฟังดูแล้วดูน่าสนใจแล้วละสิ เรามาดูสกิลและแนวทางการอัพ Talent กันเลยดีกว่า
Leoric Skill&Talent
Skill
Undying: เมื่อ Leoric ตาย Leoric จะกลายร่างเป็นวิญญาณและสามารถเดินเคลื่อนที่ไปมาได้ในแผนที่พร้อมกับสามารถใช้สกิลในร่างวิญญาณได้ โดยเมื่อถึงเวลาเกิดใหม่ก็จะเกิดตรงที่ๆร่างวิญญาณอยู่และยิ่งมีอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตมากเท่าไหร่ จะยิ่งลดระยะเวลาการเกิดใหม่ให้
Skeletal Swing: Leoric จะฟาดอาวุธไปข้างหน้าสร้างความเสียหายจำนวนมากพร้อมกับทำให้ศัตรูที่ลดติดสโลว 40%
Ghastly Swing(ร่างวิญญาณ): สกิลนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในร่างวิญญาณ โดยจะทำงานเหมือน Skeletal Swing แต่จะไม่สร้างความเสียหาย
Drain Hope: ปล่อยมือวิญญาณออกไปข้างหน้าเมื่อเชื่อมโดนศัตรูจะทำการค่อยๆ ดูดพลังชีวิต 25%ของศัตรูมาเป็น 25%พลังชีวิตของLeroric
Drain Essence(ร่างวิญญาณ): สกิลนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในร่างวิญญาณ โดยสกิลนี้ จะทำงานเหมือนกับ Drain Hope แต่จะไม่สร้างความเสียหาย
Wraith Walk: สกิลนี้จะทำให้ Leoric สามารถกลายร่างเป็นวิญญานโดยทิ้งตัวเองไว้ที่เดิมแล้วเคลื่อนที่ไปไปในทิศทางที่ต้องการได้ เมื่อกดใช้สกิลอีกครั้งตัว Leoric จะสลับตัวกับร่างวิณญาน
Heroic Skill
Entomb: เมื่อกดใช้จะเป็นการเรียกกำแพงรูปตัว U ขึ้นมาล้อมรอบศัตรูหรือพื้นที่เป้าหมาย
March of the Black King: เมื่อกดใช้สกิลนี้จะเป็นLeoric ได้รับสถานะ Unstoppable พร้อมกับฟาดอาวุธไปข้างหน้าเรื่อยๆสร้างความเสียหายใส่ศัตรูที่โดนแต่เมื่อใช้ไปแล้วสกิลจะไม่สามารถยกเลิกได้
Talent
Lv 1 Reanimation: Talent นี้จะทำให้เมื่อกลายเป็นวิญญาณก็ยังสามารที่จะเก็บ Regeneration Globe ได้ซึ่งเหมาะมากที่จะใช้ในการเพิ่มอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตซึ่งนั่นหมายความว่าจะทำให้เราเกิดไวยิ่งขึ้นเมื่อตายนั่นเอง
Lv 4 Fealty Unto Death: Talent นี้จะทำให้ได้รับการฟื้นฟูพลังชีวิต 1% ของ Maxp และ 5 mana ซึ่งรวมถึงวิญญานด้วยโดย Talent นี้จะทำให้ตัว Leoric มีความสามารถในการยื่นในเลนที่นานขึ้น รวมถึงเร่งการเกิดเมื่อเป็นวิญญานอีกด้วย
Lv 7 Ossein Renewal: Talent นี้เมื่อกดใช้จะฟื้นฟู 20% ของmax hp และยังสามารถใช้ในตอนที่เป็นร่างวิญญานได้อีกด้วย ถือว่าเป็นTalent ที่ดีเลยทีเดียวเพราะเราสามารถที่จะใช้เร่งการเกิดของเราได้ทำให้เราสามารถกลับมาช่วยทีมได้ในหลายๆจังหวะ
Lv 10 March of the Black King: ที่เลือกสกิลนี้แทนที่จะ Entomb ก็เพราะว่า Entomb ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้และถ้าใช้พลาดอาจจะทำให้ทีมเสียจังหวะได้และยิ่งเมื่อใช้กับศัตรูที่มีสกิลในการหลบหนีก็จะทำให้สกิลหมดประโยชน์ไปทันทีแต่ตัว March of the Black King สามารถที่จะใช้เป็นสกิลเปิดในจังหวะทีมไฟท์ได้ทีกว่าพร้อมกับยังสร้างความเสียหายได้อย่างมากและศัตรูยังไม่สามารถที่จะหยุดการใช้สกิลของเราได้อีกตะหาก
Lv 13 Spell Shield: ทาเล้นนี้จะทำ Leoric มีความทนทานต่อสกิลต่างๆของศัตรูได้ถึง50% ซึ่งถือว่าดีเลยทีเดียวเมื่อต้องเจอกับฮีโร่ที่เน้นการใช้สกิลแรงๆ
Lv 16 Consume Vitality: ทาเล้นนี้จะทำให้สกิล Skeletal Swing และ Ghastly Swing ฟื้นฟูพลังชีวิต 2% ต่อศัตรูที่โดน 1ตัว โดยสามารถเพิ่มได้สูงสุดที่ 10% ซึ่งทาเล้นนี้ถือว่าจำเป็นมากเลยทีเดียวที่จะช่วยให้ตัว Leoric นั่นสามารถยื่นอยู่ในไฟท์ได้นานขึ้นหรือฟื้นฟูพลังชิวตไวขึ้นเมื่อเป็นร่างวิญญาณ
Lv 20 Hardened Shield: ทาเล้นนี้จะทำให้เมื่อกดใช้จะได้รับการป้องความเสียหายทุกอย่าง 75% เป็นระยะเวลา 4 วินาทีซึ่งจำเป็นอย่างมากในช่วงเลเวลเท่านีเพราะจะมีระยะเวลาการเกิดที่นานฉะนั้นควรเลี่ยงการตายให้มากที่สุดนั่นเอง
สำหรับ build นี้จะเน้นไปที่การทำให้ตัว Leoric นั่นเอาชีวิตรอดให้ได้นานและเร่งเวลาเมื่อตายให้กลับเข้าสู่เกมให้ไวที่สุดแต่ถึงอย่างนั่นตัว Leoric ก็ยังสามารถที่จะสร้างความเสียหายได้มาก ด้วยสกิลที่แรงอยู่แล้วโดยในช่วงต้นเกมการตายของ Leoric ไม่ใช่เรื่องที่แย่มากเพราะสามารเกิดได้ที่เดิมทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินกลับมาเข้าเลนหรือทีมไฟท์แต่ก็ไม่ควรที่จะตายอย่างสูญเปล่า
ส่วนช่วงกลางเกมตัว Leoric จะมีความสามารถในการฟื้นฟูพลังชีวิตที่มากขึ้นและจะกลายเป็น Tank ที่ดีเลยทีเดียว การเล่นพยามอยู่กับทีมไว้และช่วยเหลือในทีมไฟท์ให้ได้มากที่สุด การแยกไปเอา Merc คนเดียวไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีของ Leoric และในท้ายเกม Leoric จะมาพร้อมกับพลังชีวิตและความสามารถในการฟื้นฟูที่มหาศาลแต่ก็ไม่ได้เป็นอมตะซะทีเดียวแต่ถึงอย่างงั้นช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ Leoric สามารถทำความเสียหายได้มากดังนั้นควรที่จะพยามสร้างความเสียหายให้กับตัวที่มี ความสามารถการเคลื่อนที่น้อยหรือเบาบางอย่าง Keal’thas หรือ Jaina ก่อนเป็นอันดับแรก
นักเขียน : Leblac