บทความจาก Online Station Magazine
สวัสดีชาว Online Station ทุกคนครับ กลับมาพบกับผมนาย Chamokung อีกเช่นเคยกับสารพันเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ Caster รวมไปถึง YouTuber ทั้งทางตรงและทางอ้อมครับ สำหรับเรื่องราวที่ผมจะขอพูดถึงในวันนี้ต้องขอบอกตรงๆ เลยครับว่า น่าจะเป็นสิ่งหลายคนอยากรู้มากที่สุดเมื่อเริ่มต้นทำช่องของตัวเองบน YouTube เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะมาพูดถึงวิธีการคร่าวๆ ในการสมัครเป็น Partner เพื่อให้ได้เงินจากเว็บไซต์ VDO ยอดฮิตนี้กันครับ
YouTube Thailand กับการสร้างเงินที่ง่ายขึ้น
อย่างที่เราทราบกันดี (หรือหลายคนยังไม่รู้) ว่าตอนนี้ YouTube ของประเทศไทยนั้นก็ได้ทำการเปิดตัวขึ้นมาอย่างเป็นทางการจนเป็นเวลาเกิน 1 ขวบแล้วเรียบร้อย ซึ่งหลายคนก็อาจจะไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นหรือดีใจเท่าไหร่กับการมาถึงของ YouTube Thailand ครับ เพราะอาจจะไม่รู้ว่ มี YouTube ประเทศไทยแล้วดีอย่างไร คนไทยได้ประโยชน์อะไรบ้าง ผมขอพูดง่ายๆ เลยครับ อย่างแรกเลยคือคุณสามารถติดต่อ ประสานงาน หรือสอบถามข้อข้องใจต่างๆ กับทีมงานได้ง่ายขึ้นเพราะมีคนไทยด้วยกันคอยตอบ และอย่างที่สองซึ่งสำคัญมากๆ และหลายคนคงชอบ ก็คือ คุณสามารถมีรายได้จากผลงานของคุณได้นั่นเอง
เมื่อก่อนนั้น ประเทศไทยยังไม่มี YouTube Thailand เป็นตัวเป็นตน การที่จะได้รับรายได้นั้นจำเป็นที่จะต้องผ่าน "คนกลาง" เสียก่อน ซึ่งแน่นอนครับว่าการหักหัวคิวนั้นเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งในประเทศไทยก็อาจจะมีอยู่ไม่กี่เจ้า ซึ่งผู้ที่คอยทำหน้าที่เป็นคนกลางนี้ที่ดังๆ และส่วนใหญ่รู้จักกันก็คือ Machinima, TGN หรือ Maker Studios ที่ Pewdiepie, Tobuscus และ Timothy DelaGhetto นั้นสังกัดอยู่ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการหักค่านายหน้า แต่ทว่า การที่ผ่าน Partner เหล่านี้ ก็จะได้รับประโยชน์ส่วนอื่นทดแทน เช่น อุปกรณ์การถ่ายทำต่างๆ หรือ Software ถูกลิขสิทธิ์ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อเอง ตลอดจนการเข้าถึงงาน Event และสินค้าสำหรับจำหน่ายหรือ Merchandise เป็นต้น
Pewdiepie ภายใต้สังกัด Maker Studios
ทีนี้ก็มาสู่จุดที่หลายคนสงสัยครับ ว่า เงินที่ทาง YouTube จะจ่ายให้เราผู้ซึ่งเป็นคนทำผลงานหรือ Creator นั้น มาได้อย่างไร คำตอบง่ายๆ ครับ ซึ่งก็คือโฆษณานั่นเอง ทุกครั้งที่มีคนดูผลงานของเราผ่าน YouTube แล้วได้พบเห็นโฆษณาโผล่มาในผลงานของเรา ก็เท่ากับว่าเราได้ค่าตอบแทน จำง่ายๆ 3 ขั้นตอน คือ 1. Upload ผลงาน 2. มีคนมาดูและเห็นโฆษณา 3. รับเงินค่าตอบแทน
ขั้นตอนการเป็น Partner กับ YouTube
สำหรับขั้นตอนต่อไปนี้จะเป็นการสมัครเป็น Partner กับทาง YouTube โดยตรงครับ ซึ่งประโยชน์ก็คือสามารถรับรายได้จาก YouTube ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านใคร ซึ่งอัตราส่วนซึ่งเป็นข้อกำหนดนั้นอยู่ที่ 45/55 ซึ่งส่วนแบ่งที่ Creator จะได้ก็คือ 55% หรือส่วนที่มากกว่านั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตระหนักไว้ก่อนว่า รายได้ของ YouTube ในบ้านเรา ไม่สามารถนำไปเทียบกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาที่หลายคนอาจจะพอทราบข้อมูลเรื่องตัวเลขมาบ้างว่ามากโข เพราะว่าผู้สนับสนุนที่ซื้อโฆษณากับ YouTube ยังไม่มีมากพอเหมือนประเทศเขา นั่นทำให้ต่อให้เรามียอดคนดูมากเท่า Pewdiepie เราก็จะไม่สามารถได้รับรายได้เท่ากับเจ้าตัวนั่นเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้พูดกันตรงๆ มันต้องใช้เวลาครับ(อดทนรอกันต่อไป)
อยากเป็น Partner? ทุกอย่างเริ่มต้นที่หน้านี้
สิ่งที่เราต้องมีในการสมัครเป็น Partner กับ YouTube นั้นก็คือ Email ซึ่งขอแนะนำให้เป็น Gmail จะดำเนินการง่ายกว่าเพราะเป็นเครือเดียวกัน (Google คือเจ้าของ YouTube) แล้วก็ช่อง YouTube แค่นั้นเอง
1. ขั้นตอนแรกอย่างน้อยๆ ให้เรามีผลงานลงอยู่ในช่องบ้าง อย่างน้อยก็ 1 คลิปครับ และที่สำคัญ ผลงานของเรานั้นจะต้องไม่ติดลิขสิทธิ์ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพ เสียง หรืออะไรก็ตามแต่ เพราะถ้ามันติดลิขสิทธิ์ขึ้นมา มีโอกาสที่เราจะไม่ได้เงินจากคลิปนั้นเลยแม้แต่บาทเดียว ต่อให้ยอดคนดูเยอะกว่า Pewdiepie ก็ตาม
2. ให้เราเข้าไปที่ช่องของเรา มองหาคำว่า "สตูดิโอผู้สร้าง" ซึ่งข้างๆ จะมีสัญลักษณ์รูปเฟืองอยู่ ให้กดเข้าไปครับ เมื่อเข้ามาแล้วก็จะเห็นข้อมูลในช่องของเรา ด้านล่างจะมีคำว่า "ดูคุณลักษณะเพิ่มเติม" กดเข้าไปเลยครับ
3. ซึ่งเมื่อเข้ามาอยู่หน้านี้ ก็จะมีสถานะของช่องเราบอกอยู่ รวมไปถึงเรื่องลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งถ้าหากใครมีสถานะที่ดี(เป็นสีเขียว) ก็ไม่ต้องกังวลอะไร ให้กดปุ่ม "ยืนยัน" ในหัวข้อสถานะบัญชีได้เลย
4. หลังจากนั้นก็จะมีให้เลือกระหว่างการยืนยันผ่านโทรศัพท์ ขอแนะนำให้เลือกส่งข้อความผ่านระบบ SMS ครับ จะง่ายกว่า รอจนทาง YouTube ส่งข้อความยืนยันกลับมา เราก็ถือว่าเป็น Partner กับทาง YouTube แล้ว
5. สำหรับข้อนี้คือเปิดการใช้งานการสร้างรายได้จากผลงาน กลับมาที่หน้าสถานะบัญชีในข้อ 3 ซึ่งจะมีปุ่ม "เปิดการใช้งาน" ในหัวข้อการสร้างรายได้อยู่ กดเข้าไป ก็จะมีปุ่มสีน้ำเงินให้เรากด ซึ่งก็คือ "เปิดใช้งานบัญชีของฉัน" กดเข้าไปจะมีข้อตกลงกับทาง YouTube ให้ยอมรับ ซึ่งถ้าไม่ยอมรับทุกข้อ เราก็จะไม่สามารถรับเงินได้ จากนั้นก็จะมีให้เรากดยืนยันอีกสองสามขั้นตอน ให้กด Accept ให้หมด เป็นอันจบ
ถ้าอยากได้เงิน สถานะช่องควรเขียวขจีแบบนี้นะครับ
สำหรับขั้นตอนที่ผมแนะนำนี้ การจ่ายเงินจะเป็นการจ่ายผ่าน Google AdSense ซึ่งในข้อ 5 จะได้กดยืนยัน Gmail ของเราอีกที ซึ่งในส่วนนี้ เราสามารถตั้งค่ารวมไปถึงสถานะต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกคลิปที่จะให้มีโฆษณาโผล่ รายได้รวมทั้งหมด ส่วนเงินนั้นโดยปกติแล้วจะถูกส่งมาเป็นเช็ค ซึ่งจะรับเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าใครร้อนเงินก็ส่งมาได้เลย แต่ถ้าอยากง่ายกว่านั้นก็สามารถนำบัญชี Electronic ไปผูกไว้ได้ อย่างเช่น Paypal เป็นต้น
ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่คิดจะเริ่มทำช่องบน YouTube รวมไปถึงคนที่ทำอยู่แล้วแต่ไม่ได้รับรายได้หรือไม่รู้วิธีไม่มากก็น้อยนะครับ สู้ต่อไป แคสเตอร์ชาวไทย