ในขณะที่ กระทู้บ่นว่า "ทำยังไงดี แฟนติดเกมจนไม่สนใจเรา" ดูจะเป็นกระทู้ยอดฮิต จนเกมดูเป็นสิ่งผิด แต่ในมุมกลับกัน "การไปดูหนัง" ถือเป็นกิจกรรมที่คนคิดดีว่าดีสำหรับชีวิตคู่ โอ้ย มาทบทวนกันใหม่เหอะค่ะ ลองนึกดูหน่อยนะ ว่าครั้งล่าสุดที่ไปดูหนังกับแฟน ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง เราคุยกันกี่คำ นอกจากแย่งป็อปคอร์นกันในความมืดอ่ะ
เอาล่ะ แล้วลองมานึกถึงตอนเถียงกับแฟนไม่กี่นาทีดูบ้างนะคะ ลองนึกดูว่ามันทำให้คุณจำอะไรได้มากขึ้นกว่าเดิมตั้งเท่าไหร่ เค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อะไรทำให้เค้าและคุณโมโห ?
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ค้นพบว่า 76% ของคู่รักที่เล่นเกมด้วยกัน กลับทำให้ชีวิตคู่ดีขึ้น! (http://news.byu.edu/archive12-feb-mmorpgs.aspx) ทีนี้เรามาลองทบทวนกันอีกครั้งว่าจริงๆ แล้ว คู่รักที่บ่นว่าแฟนติดเกม เราบริหารเวลากันดีแค่ไหน เราใส่ใจกันมากเท่าไหร่ ทำไมสุดท้ายแล้วเกมดันเป็นแพะรับบาป แทนหนังห่วยๆ ที่ดันรุทังไปดูเรื่องล่าสุด
เราลองปรับสิ่งที่ชอบให้เข้ากับชีวิตคู่ของเราดีกว่าไหม ลองชวนแฟนมาเล่นเกมด้วยกัน แล้วถ้าแฟนถามหาเหตุผล เรามาเสนอเหตุผลดีๆ ให้แฟนเราฟังกันดีกว่าค่ะ
1. ประหยัดกว่าอีกหลายกิจกรรม
ถือว่าเป็นการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ และไม่ต้องเสียเงินออกไปดูหนัง หรือดินเนอร์หรูๆ ที่แทบจะไม่ได้คุยอะไรกันด้วยซ้ำ ไปดูหนังก็นั่งเงียบๆ ดูหนังกัน 2 ชั่วโมง ส่วนดินเนอร์หรูๆ ก็ไปนั่งกินข้าว จ้องตากันซักพักแล้วก็กลับ ในขณะที่นั่งเล่นเกมกันสองคน เราต้องมีความร่วมมือกันเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน ไม่ใช่เล่นแบบตัวใครตัวมัน คล้ายกับการใช้ชีวิตคู่ในชีวิตจริง ที่ต้องสื่อสารกัน ช่วยเหลือกันเวลาอีกฝ่ายมีปัญหาเพื่อไปถึงจุดหมายพร้อมๆ กัน
2. ทดสอบว่าเราเข้ากันได้ดีแค่ไหน (ในความเป็นทีม)
จะทำอย่างไรให้แฟนเชื่อในการตัดสินใจเรา? ใครจะเป็นคนตัดสินใจ? ใครจะเป็นคนสั่ง? แฟนจะมีไอเดียที่ดีกว่านี้ไหม? ในกรณีที่เราต้องเล่นเกมร่วมมือกันไปกับแฟน การต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเกิดขึ้น เหมือนกับในชีวิตจริงที่เราทั้งคู่มีความฝันร่วมกัน ที่จะสร้างบ้าน สร้างครอบครัว ต้องหาเงิน และแบ่งเวลาให้กับชีวิตคู่ จะทำอย่างไรเมื่อทรัพยากรที่มีจำกัดนำคู่รักของเราไปสู่ฝั่งฝัน
3. ทดสอบว่าเราใจเย็นและใจกว้างแค่ไหน
ปัญหาหนึ่งของการทำงานเป็นทีมคือ คนเรามักจะมีความใจร้อน และเริ่มมองคนอื่นเป็นตัวถ่วง ทั้งๆ ที่เค้าอาจจะมีประโยชน์มากในบทบาท หรือสถานการณ์อื่น เมื่อพูดถึงเกมที่หากคู่หูเราตายจะ Gameover ทันทีแล้ว ยิ่งเครียดหนัก และสุดท้ายหากแฟนเราเอาจริงเอาจังกับเกมมากเกินไป อาจจะเกิดการทะเลาะกันขึ้นมาได้ เพราะงั้นอีกฝ่ายหนึ่งควรจะใจเย็นและมองปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นหนทางที่จะทำให้ชีวิตคู่ดีขึ้นด้วยการชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของแฟนตนตรงนี้ นั่นก็นับว่าเป็นการหาทางออกที่เยี่ยม และมีประโยชน์มากทีเดียวค่ะ
4. ทดสอบไหวพริบของแฟนไปในตัว
ไม่แปลกที่เรามักจะอยากได้คู่หูในทีมที่มีไหวพริบดีพอที่จะตอบรับกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ทันท่วงที ไม่ต้องฉลาดล้ำเลิศขนาดนั้นหรอกค่ะ ก็แค่หัวไวเรียนรู้เร็ว นั่นทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาตนเองไปพร้อมกับเค้าอีกด้วย เหมือนคำพูดที่ว่า "คนเราจะค่อยๆ เปลี่ยนไปคล้ายกับคนที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด" คล้ายประกันชีวิตที่เรามองว่าเค้าจะเป็นที่พึ่งพาให้เราในยามยากได้แค่ไหน
แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนเราเล่นเกมนี้ไม่เก่งเค้าจะไม่มีไหวพริบนะคะ บางคนอาจจะมีการฝึกฝนมานานหรือรู้เทคนิคของเกมมากกว่า คนเราสามารถฝึกฝนกันได้ค่ะ และการใช้เวลาเล่นเกมหลายๆ แบบไปด้วยกันจะค่อยๆ รู้จักกันมากขึ้นเอง
5. ไม่ต้องทนฟังแฟนบ่น
ฟังจากคลิปด้านบนดูค่ะ ดูจบคงจะไม่ต้องอธิบายอะไรมาก..
ลองให้เธอเล่นดูก่อนค่ะ สาวๆ หลายคนมีมุมมองว่าเกมคืองานอดิเรกของผู้ชาย ในขณะที่งานวิจัยหลายๆ ชิ้นพิสูจน์แล้วว่าหากตั้งใจและมีเวลาฝึกพอๆ กัน ผู้หญิงจะเป็นเพศที่เล่นเกมเก่งกว่าผู้ชายเสียด้วยซ้ำ ถ้าเกิดแฟนคุณติดเกมขึ้นมาเมื่อไหร่ ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะหนุ่มๆ!
Credit : Settakid