ช่วงนี้หลายๆ คนอาจจะคลุกคลีกับพวกอุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนกันมากพอสมควร และในหนึ่งวันเฉลี่ยแล้ว เพื่อนๆ อาจใช้เวลากับสิ่งเหล่านี้มากกว่า 2 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าการใช้อุปกรณ์เหล่านี้มากเกินไปก็ทำให้มีผลเสียด้วยเช่นกัน ซึ่งโรคที่ผมจะมาแนะนำให้รู้จักในวันนี้ก็คือ CVS (Computer Vision Syndrome) หรือ โรคทางสายตาที่เกิดขึ้นจากการใช้คอมพิวเตอร์นั่นเองครับ
CVS นั้นสามารถเป็นได้ทุกเพศ ทุกวัย และส่วนใหญ่แล้วมักจะพบกับในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป แต่จริงๆ แล้วนั้นผู้ป่วยโรคนี้กลับเป็นเด็กซะมากกว่า และเป็นเด็กที่ชื่นชอบการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตเสียด้วย ปัจจุบันพบว่า 70-80% ของผู้ป่วยที่เป็นโรค CVS นี้ล้วนมาจากการเล่นคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น
จุดเริ่มของอาการโรค CVS นั้นเกิดจากการที่สายตาของผู้ใช้มีการจับจ้องอยู่กับจอภาพของอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์มากเกินไป ทำให้อัตราการกระพริบของตานั้นลดลงกว่า 60% ซึ่งโดยปกติแล้วคนเรานั้นจะกระพริบตาประมาณ 15 ครั้ง/นาที เพื่อไม่ให้ผิวตานั้นแห้งเกินไป ซึ่งเมื่อเรากระพริบตาน้อยลงก็จะทำให้ผิวตานั้นแห้งง่ายขึ้น มีอาการแสบตา เคืองตา คันตา ปวดเมื่อยตา หรือกระบอกตา ตามัวมีอาการสู้แสงไม่ได้ และบางรายที่มีอาการหนักก็จะเป็นภาพเป็นภาพซ้อน หรือเห็นสีผิดเพี้ยนไปจากปกติก็มี ดังนั้นเราจึงควรแก้ไขหรือป้องกันเพื่อไม่ให้อาการของ CVS ไม่แย่กว่าเดิม
1. อาการปวดตาหรือเมื่อยตา เคืองตา แสบตา ตาแห้ง
เป็นอาการของผู้ที่ใช้สายตาเพ่งเป็นเวลาติดต่อกันนานๆ ทำให้มีตาอาการเมื่อยล้า ซึ่งเกิดในผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เวลานานๆ อย่างผู้ที่เล่นเกมเป็นระยาเวลานานๆ หรือแม้แต่การพิมพ์รายงานเป็นระยะเวลานานๆ ด้วยเช่นกัน
- ควรกระพริบตาประมาณ 10-15 ครั้งต่อนาที หรือเมื่อมีอาการรู้สึกเคืองหรือแสบตา ให้หลับตาพักประมาณ 3-5 วินาที เพื่อให้น้ำตา เคลือบผิวตาได้มากขึ้น แต่ถ้าหากเป็นหนักมาก อาจจะต้องใช้น้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการ
2. อาการตามัว
เป็นอาการของผู้ที่ใช้สายตาเพ่งมากเกินไป มีอาการปวดเมื่อยตาร่วมด้วย ทำให้เกิดอาการเพ่งค้างคล้ายๆ ภาวะสายตาสั้น คือมองเห็นภาพในระยะไกลไม่ชัด ซึ่งอาการนั้นมักจะเป็นเพียงชั่วคราว
- ควรพักสายตาเป็นระยะๆ ด้วยการมองไปที่ไกลๆ นาน 1-2 นาที ทุกๆ ครึ่งหรือ 1 ชม. หรือหลับตาเพื่อพักสายตาประมาณ 5-15 นาที แต่ถ้ามีอาการแสบตาร่วมด้วยควรใช้น้ำตาเทียมบรรเทาอาการ
3. อาการมองเห็นภาพซ้อน
เป็นอาการที่ใช้การเพ่งสายตามากจนกล้ามเนื้อตาอ่อนล้าทั้ง 2 ข้างส่งผลให้การรวมภาพจากตาทั้ง 2 ข้างผิดปกติไปทำให้เกิดภาวะภาพซ้อน เป็นอาการที่เกิดจากการเพ่งจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันทั้งวันโดยไม่หยุดพัก
- พักผ่อนสายตาเป็นระยะเวลา 30-60 นาที และไม่ควรใช้สายตาเพ่งคอมพิวเตอร์อีกสักพักใหญ่ๆ และถ้ามีอาการแสบตาร่วมด้วยควรใช้น้ำตาเทียมบรรเทาอาการ
นอกจากอาการข้างต้นแล้วผู้ที่เป็นโรค CVS ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต้อหิน (Glaucoma) ซึ่งเกิดจากอาการที่ความดันในส่วนของลูกตาเพิ่มมากกว่าปกติ ทำให้ปริมาณเลือดที่เข้ามาเลี้ยงในลูกตาไม่สมดุล และมีเลือดมาหล่อเลี้ยงไม่พอ ทำให้ลูกตาค่อยๆ เสื่อมลง และทำให้มองเห็นเป็นจุดแสงขาวดำ และเห็นเป็นแสงระยิบระยับเมื่อมองไปกลางแดด ถ้าหากเป็นมากขึ้นอาจทำให้ตาบอดได้ ดังนั้นเพื่อนๆ ควรจะใช้สายตาให้เหมาะสมเพื่อเป็นการถนอมสายตา และควรบริโภคอาหารที่ให้วิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตาให้มากขึ้นเช่น ผักบุ้ง, แครอท, ตำลึง, คะน้า และฟักทอง เป็นต้น