การเตัดสินใจฉีกแนวทางเดิมๆ ของตัวเองเพื่อเบิกทางสู่ความเป็นแฟนตาซีใน Total War: Warhammer ของทีมพัฒนา Creative Assembly นั้น ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในหมู่แฟนๆ Total War ขึ้นมาในชั่วข้ามคืน นับเป็นปรากฏการครั้งแรกที่พวกเขาแบ่งพวกเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน ทั้งคนที่เห็นด้วยกับการลองแนวทางใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความจำเจ และกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่รู้สึกว่าตนถูกทรยศ และมองว่ายังไงซีรีส์ Total War ก็ควรจะเป็นเกมอิงประวัติศาสตร์เท่านั้น
ทั้ง 2 ฝ่ายต่างเปิดฉากสงครามนํ้าลายผ่านคีย์บอร์ดเข้าฉะกันอย่างเผ็ดร้อนทั้งบนเพจ Facebook และเว็บไซต์หลักของ Total War รวมถึงคอมเม้นต์ใต้วิดีโอเปิดตัวบน Youtube ด้วย และถึงแม้ในปัจจุบันทาง CA จะออกมายืนยันว่าพวกเขายังไม่ได้ทิ้งเกมอิงประวัติศาสตร์ไปไหนทั้งยังมีการพัฒนาควบคู่กันไป แต่อย่างไรเสียประเด็นวิพากษ์การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็ค่อนข้างน่าสนใจ ทางเราจึงได้ลองถามความเห็นนักเขียนจากนิตยสาร Future Gamer 5 ท่านว่ามีความคิดเห็นกับ Total War: Warhammer อย่างไรบ้าง
“ส่วนตัวยอมรับว่าห่างหายจากซีรีส์นี้ไปนานนับตั้งแต่ Shogun ภาคแรก แต่การที่ตัวเกมเปลี่ยนจากการเป็นเกมอิงประวัติศาสตร์กระโดดเข้าสู่ซีรีส์ยอดฮิตระดับโลกอย่าง Warhammer ก็ทำให้นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมสนใจ Total War ขึ้นมาและคิดจะหวนกลับสู่เกมตระกูลนี้อีกครั้ง
แฟนๆ บางส่วนอาจจะไม่พอใจที่เห็นเกมรักของตน "เปลี่ยนแนว" ครั้งใหญ่แต่ก็อยากจะให้มองว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่ชื่อ Total War จะได้ขยายออกสู่แฟนกลุ่มใหม่ครับ” - ณัฐวุฒิ อภิวัฒน์วรากุล (นักเขียน FG, ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ Gaming Dose)
“หลายคนอาจจะมองว่า Total War: Warhammer นั้นเป็นการฉีกขนบธรรมเนียมจากการใช้ประวัติศาสตร์จริงเป็น Setting มากเกินไปจนเป็นการทรยศต่อมรดกของซีรีย์ Total War แต่ผมคิดว่านี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีในการให้ซีรีย์นี้ต่อยอดสิ่งใหม่ๆ ในอนาคต ผมคิดว่าความเป็นแฟนตาซีของแฟรนไชส์ Warhammer จะสร้างมิติใหม่ๆ ให้กับเกมเพลย์โดยรวม คล้ายกับ Third Age: Total War อันเป็น Mod ที่สร้างสรรจักรวาลของ Lord of the Rings มาแล้ว” - Shirosaki (นักเขียน FG)
“ส่วนตัวผมไม่มีปัญหากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มองว่าดีด้วยซ้ำที่ซีรีส์ Total War สามารถต่อยอดไปสู่พื้นที่ที่หลากหลายออกไป
แต่ถ้าจะมีอะไรที่น่าแอบเป็นห่วงเป็นใยบ้าง ก็คงจะอยู่ที่การเลือกซีรีส์ Warhammer Fantasy มาเป็นพื้นหลัง เพราะถ้ามองในรอบระยะเวลาที่ผ่านมา จะพบว่า ในขณะที่ซีรีส์ Warhammer 40K นั้นสร้างที่ทางของตัวเองได้เป็นอย่างโดดเด่นเฉียบขาด แต่กับฟาก Fantasy นั้น กลับดูนิ่งเงียบเรียบเฉยมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วง Dark Omen ในปี 1998 เรื่อยมาจนถึง Mark of Chaos ในปี 2006 (ไม่นับรวม Warhammer Online ที่แม้จะมีนวัตกรรมที่เข้าท่า แต่ก็ไปไม่รอดในแง่ธุรกิจ ปิดตัวไปเรียบร้อย กลายเป็นหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ไป...)
ซึ่งนั่นก็ชวนให้อดลุ้นไปด้วยไม่ได้ ว่าการตัดสินใจของ Creative Assembly ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ เช่นเดียวกับที่ Relic Entertainment ได้เคยทำไว้กับ Warhammer 40K : Dawn of War หรือไม่น่ะครับ
ปล.ในใจยังแอบลุ้นใน Creative Assembly มาจับพื้นหลังสงครามสามก๊กบ้าง มันคงจะเป็นวาระและโอกาสที่ฟินไม่น้อยเลยทีเดียว” - สุกฤษฎิ์ บูรณสรรค์ (นักเขียน FG, B1 Magazine)
“ไม่รู้สั้นไปมั๊ย แต่ขอบอกสั้นๆ ว่า แจ่มมม” - โจรปล้นใจ (นักเขียน FG, ไฟติ้งเกมเมอร์ชื่อดัง)
“การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Total War: Warhammer ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเกินกว่าจะอธิบายจริง ๆ โดยครั้งสุดท้ายที่ผมรู้สึกอยู่ไม่เป็นสุขแบบนี้ก็ต้องย้อนกลับไปนับตั้งแต่ตอนที่ได้ยินสุนทรพจน์ของวินสตัล เชอร์ชิล จาก Announcement ของ Hearts of Iron 4 นู่นเลย
ในฐานะที่เป็นผู้ติดตาม Total Wars Series มาโดยตลอด ต้องบอกว่าส่วนตัวไม่แน่ใจว่าเกมจะออกมาดีเหมือนเช่นที่ทุกคนตั้งหวังหรือไม่ เพราะเป็นที่รู้จักกันว่า "สงครามครั้งใหม่มักจะมาพร้อมกับบัคอันใหญ่ยิ่ง" กระนั้นต้องกล่าวว่ามันเป็นอีกหนึ่งเกมที่ผมหวังไว้สูงจริง ๆ และหวังว่าทีมพัฒนาจะคิดให้ถ้วนถี่ก่อนที่จะปล่อยเกมนี้ออกสู่ท้องตลาดเหมือนอย่างตอนที่เคยได้ทำกับ Rome II นะ” - ณัฐพงษ์ วิรุฬหกุล (นักเขียน FG, คอเกมวางแผนตัวยง)