ชะนี She Said ปลดล็อก Achievement!! สกิลการเป็น DJ ของจับจาง

แชร์เรื่องนี้:
ชะนี She Said ปลดล็อก Achievement!! สกิลการเป็น DJ ของจับจาง

บทความจาก Online Station Magazine

    สวัสดีค่าเพื่อนๆ พี่น้องชาว Online Station ทุกคน กลับมาพบกันกับ “จุ๊บแจง” เป็นประจำทุกสัปดาห์นะคะ ในคอลัมน์สุดแซบสมชื่อ “ชะนี She Said” ซึ่งที่ผ่านมาไม่นานนี้จุ๊บแจงก็ได้ทำการปลดล็อกอีกหนึ่ง Achievement เป็นความสามารถของตัวเองอีกด้านแล้ว นั่นก็คือการได้ลองเป็น DJ นั่นเองค่ะ ขอบอกว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเป็นยังไงก็ลองไปดูกันเลยดีกว่า

    DJ ที่ว่ามานี้ไม่ใช่ดีเจคลื่นวิทยุนะคะ เพราะที่ฝึกมาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาคือ ดีเจคลับ แรกเริ่มเดิมทีเนี่ยตอนนั้นเห็นประกาศทางเฟซบุ๊กของทาง SAE ว่าจะมีการรับสมัครสาวๆ ที่อยากลองเป็นดีเจมาเรียนรู้สกิลด้านนี้ดู โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้มาก่อนเลย ไอเราก็คิดนะ... ว่าส่วนตัวก็เป็นคนที่ชอบฟังเพลงอยู่แล้วเลยลองตัดสินใจไปลองสมัครดู เผื่อจะมีสกิลเอามาใช้ในงานที่ทำอยู่ได้บ้าง แถมน่าสนุกดีด้วยที่ได้ลองเรียนรู้อะไรใหม่ๆ

    พอตัดสินใจได้เสร็จปุ๊บก็ส่งใบสมัครไปพร้อมกับรูปทันที ผ่านไปสักพักนึง ไม่กี่วันก็มีชายหนุ่ม(เหรอออออออออ) ชื่อ “พี่เอก” ทักมาในไลน์ว่าได้ผ่านเข้ารอบ ให้เตรียมตัวมาสัมภาษณ์ต่อด้วย ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นดีนะ แบบ เห้ยยย ฮัลโหลววว... แจงผ่านเข้ารอบอ่ะ แต่เดี๋ยวนะ... ชื่อคนที่ผ่านเข้ารอบบางคนทำไมมีเครื่องหมายดอกจันต่อท้ายด้วย (ตอนนั้นนี่นึกไปแล้วว่าเขาต้องมีการล็อกตัวไว้แน่ๆ) ขี้เกียจเดามากมายเลยถามพี่เอกไปเลยตรงๆ ว่าดอกจันนี่มีไว้ทำไม สรุปเขาบอกว่าทำเครื่องหมายไว้สำหรับคนที่ติดต่อไม่ได้จ้ะ แจงนี่หน้าแหกเลย หน้านี่ไหม้ไปแถบนึงละ และเพราะแบบนี้แหละถึงรู้สึกอายจนเกือบจะไม่ได้ไปสัมภาษณ์ โชคดีที่หนังหน้าค่อนข้างหนา

    วันสัมภาษณ์มาถึงก็แต่งตัวตั้งแต่ไก่โห่ ไปรถติดเป็นชั่วโมงบนถนนแทน พอไปถึงนี่ถึงกับมีอึ้ง เพราะคนที่เข้ามาสัมภาษณ์แต่ละคนหน้าตาดีๆ ทั้งนั้นเลย ระหว่างที่กระวนกระวายอยู่นั้นก็หันไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งไม่ไกลจากห้องเท่าไหร่ ดูท่าทางแล้วคงรอสัมภาษณ์เหมือนกัน นางนั่งเชิดมากกก คอนี่เอียงทำมุมกับฉากพอดีเป๊ะๆ แจงนี่นึกว่าหุ่น (ตอนหลังมารู้ว่านางชื่อ “หยก” แล้วก็เป็นเพื่อนที่สนิทมากกกในปัจจุบัน) พอเวลาผ่านไปสักพักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งสวยมากกก เข้ามาทักอย่างเป็นกันเอง เธอชื่อ “มิร่า” แนะนำตัวอย่างดี นั่นจึงเป็นจุดเริ่มแรกที่ทำให้รู้จักเพื่อน แค่วันแรกก็เม้าท์กันจนน้ำลายแตกฟองไปแล้วล่ะค่ะ

    การสัมภาษณ์ในวันนั้นเป็นไปได้ด้วยดี โชคดีตรงที่ว่าเราเองก็มีสกิลการพูดอยู่พอสมควร เลยไม่ค่อยตื่นเท่าไหร่นัก สรุปว่าเป็นไปตามคาด เราก็ได้ผ่านเข้ารอบต่อไป เย้!! ทีนี้แหละการเรียนของจริงก็จะมาถึงแล้ววว

    ไม่นานนักการเริ่มคลาสเรียนดีเจครั้งแรกก็มาถึง มีเพื่อนร่วมชั้นประมาณ 30 คนเห็นจะได้ เราได้รู้จักครู 2 คนที่จะมาสอนคือ “พี่เอก” และ “พี่ไลท์” คนที่มาเรียนแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่คนแรกที่เห็นแล้วสะดุดตาที่สุดคือ “มิ้ว” เพราะนางหัวแดงโดดเด่นมาแต่ไกล ความหมวยทำให้ตานางดูจิก ยังแอบเคยคิดเลยว่า เห้ย...ไม่ชอบอะไรเราหรือเปล่า แต่พอรู้จักดีๆ แล้วไม่ใช่เลย แถมยังใจดีแบ่งเพลงให้เพื่อนๆ แทบจะทุกคนอีกต่างหาก

    นอกจากนี้ยังมี “หนิง” สายย่อ ที่เต้นเก่งสุดในคลาสก็ว่าได้ “แพรว” ที่มากับสไตล์ติสๆ ของตัวเอง “ลูกปลา” ที่ร้องเพลงเก่งสุดๆ “พี่เปิ้ล” ที่หุ่นดีมากกก และ “เจ๊ฝ้าย” ที่สร้างวีรกรรมให้พวกเราไว้มากมาย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเวลาที่ผ่านไปเพียงแค่ 3 เดือนจึงทำให้เราคบกันได้แบบสนิทใจจนแทบจะซึมซับกันได้ขนาดนี้ พวกเราคุยกันได้แทบจะทุกเรื่องตั้งแต่อดีตยังอนาคต

    พอได้มารู้จักกับเพื่อนๆ และครูทั้ง 2 ท่าน มันรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปไวมากนะ แต่อย่างว่าแหละค่ะ งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา เพราะการเรียนนี้ต้องมีการคัดคนเข้าไปยังรอบต่อไป จาก 30 คนก็เหลือ 15 คน และรอบสุดท้ายคือ 8 คน ยิ่งคนน้อยมันยิ่งทำให้เราสนิทกันมากขึ้น ไม่เว้นแม่แต่ตัวของครูผู้สอนเอง โชคดีที่ความตั้งใจทำให้เราได้มาถึงจุดนี้

     รอบสุดท้ายจะมีการแข่งขันเพื่อนหาผู้ชนะอันดับ 1, 2 และ 3 ยิ่งทำให้พวกเราต้องเร่งซ้อมและรู้สึกกดดันกันพอสมควร ช่วงนี้ทำให้เราได้เห็นความพยายามและความใส่ใจกับครูทั้ง 2 ท่าน เพราะแค่เวลาว่างก็แทบจะไม่มีแล้ว ยังต้องเข้ามาสอนพวกเราอีก ทำอะไรกันไม่ได้ก็ร้องหาพี่เอก & พี่ไลท์อย่างเดียว บางทีพี่เอกไม่มีเวลามาสอนก็แห่กันไปหาที่บ้านเพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ นานา ยังดีที่พี่เอกเปิดโรงเรียนสอนดีเจชื่อ One Stop Dj ที่ปั้นให้คนก้าวเข้าสู่วงการมามากมายแล้ว เราเลยมีอีกหนึ่งที่ซ้อมไปด้วยในตัว แถมอุปกรณ์ต่างๆ ก็ครบมือ บวกกับคุณครูที่เป็นดีเจชั้นนำระดับคุณภาพ บอกเลยว่า สบ๊ายยย ฮ่าๆๆ (ขอขนมค่าโปรโมทด้วย)

    เพราะตรงนี้แหละมันเลยทำให้เรารู้สึกดี ที่เวลาเดือดร้อนเหมือนยืนอยู่กลางแดดฝน แหงนหน้ามองขึ้นไปยังคงเห็นต้นไม้ใหญ่จากพี่เอกพี่ไลท์คอยให้ร่มเงาปกป้องเราอยู่ตลอด ความช่วยเหลือเหล่านี้มันทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ จนมองพวกเขาทั้ง 2 คนเป็นเหมือนพี่ชายอีกคนเลยทีเดียว

    เมื่อวันแข่งขันมาถึง ทุกคนก็ต่างตั้งใจกันเต็มที่ วันนั้นได้รับเกียรติจากกรรมการทั้ง 5 ท่านมาตัดสินการแข่งขัน จุ๊บแจงเองอยู่คนที่ 5 จากทั้งหมด 8 คน จะบอกว่าตื่นเต้นมว๊ากกก อยากจะออกไปแข่งให้จบเร็วๆ แต่น่าแปลกนะคะ ที่พอถึงตาตัวเองแล้วต้องขึ้นไปยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟและตาคนไม่น้อยที่จับจ้องมองมาที่เรา ความตื่นเต้นมันแทบจะไม่มีเลย แต่แรงฮึดเข้ามาแทนแบบเต็มเปี่ยม และเราก็คิดเสมอว่าที่ทำไปวันนั้นเราพยายามแล้ว ผลจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ถือซะว่าได้สกิลใหม่ๆ ได้เพื่อน และอีกหนึ่งสังคมครอบครัวกลับมา เท่านี้ก็คุ้มค่าแล้ว
    
    และในที่สุด... ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง การประกาศรางวัล มิสไทยแลนด์ด์ด์... ถุย!!! ไม่ใช่ ประกาศรางวัลที่มาแข่งดีเจต่างหากกกก เออดี เล่นเองชงเอง เบรกเอง -_- สาวๆ ทั้ง 8 คนเดินออกมาหน้าเวที ใจลุ้นระทึก พิธีกรคนสวยก็เริ่มประกาศรางวัลไล่มาเรื่อยๆ จนถึงรางวัลที่ 1

“ผู้ชนะรางวัลที่ 1 ได้แก่ แทน แทน แทน แถ่น แถ่น แทน แทน แท๊นนนน ... Deck Diva หมายเลข 5 น้องจุ๊บแจงค่า”
O_o

    ตอนนั้นมีหลายความรู้สึกนะ ทั้งงง ตื่นเต้น สับสน หมายเลข 5 คือใคร จุ๊บแจงชื่อใคร เห้ยยย หนูเองนี่หว่า อ่าวได้รางวัลเหรอ ยังไง ขอบอกว่าดีใจมากกับรางวัลนี้  แม้ว่าจะเป็นการจบการเรียนแล้ว แต่สำหรับตัวจุ๊บแจงเองคิดว่ามันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่านั้น อนาคตจะพัฒนาตัวเอง แล้วมันจะต้องดีกว่านี้แน่นอน

    แล้วเพื่อนๆ ละคะ เคยมีความฝันหรือความสนใจด้านไหนบ้างหรือเปล่า เคยลองถามตัวเองมั้ยว่า “จะเริ่ม” มันเมื่อไหร่ จุ๊บแจงเชื่อว่า จุดเริ่มต้นของแต่ละคนไม่เคยเท่ากัน แต่ทุกอย่างก็ต้องใช้ความพยายาม ถ้าไม่เปิดหา เราก็ไม่มีทางเจอ โอกาสไม่ได้มีมาให้เราได้จับต้องได้บ่อยๆ แต่ถ้าเจอเมื่อไหร่ก็อย่าให้หลุดมือนะคะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ค่ะ รักนะ จุ๊บบบ <3

พี่เอก SSD

พี่ไลท์ Loyalty

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ