บทความจาก Online Station Magazine
ความรักก็เช่นกัน…..
โอเคครับ ขอจบคอลัมน์แต่เพียงเท่านี้ ฉบับหน้าเจอกันใหม่!!
เดี๋ยว อะไรนะ มักง่าย!! โห่ นายไม่เข้าใจเราอ่ะ คำคมไง เค้าพิมพ์กันเกลื่อน ยุคนี้มันยุคทองแห่งคำคมแล้ว นายไปหลงป่าหลงเขาที่ไหนมา อะไรนะ ยังอีก โอเคๆ เข้าใจละ ก่อนจะโดนยุบคอลัมน์ จะเข้าเรื่องเดี๋ยวนี้แหละ ไม่เข้าใจฮิปเลย ขออินเทรนด์หน่อยก็ไม่ได้ ฮิปสเตอร์เหรอ….. เปล่า ฮิปโปเตมัส!!!!
ก่อนจะเข้าเรื่องก็ขอซะหน่อยละกัน สุดยอดวลีท้ายประโยคช่วงนี้ “ความรักก็เช่นกัน” มีใครบอกมั้ยว่ามันดูโคตรเสร่อสัด แล้วปีนี้มันอะไร ยุคแห่งคำคมเหรอ ไอ้ที่แชร์ๆ กันเนี่ยมันคมตรงไหนวะ คำคมมันมาจากคำว่าคมคิด คือเป็นคำหรือรูปประโยคที่ทำให้เกิดการคิด แล้วไอ้ที่เกลื่อนเฟซกูนี่มันซากเอื้องอะไร คมคายตรงไหน ออกไปทางคมควายมากกว่า
คุยกันมาตั้งนาน สุดท้ายไม่คิดอะไร โคตรเจ็บ!!!
ของเล่นเหรอ ความรู้สึกกูเนี่ย??
ขอโทษนะ ที่ทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากรักเธอ!!
เคยมั้ย รู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากทำอะไร อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาเอง,,,,,,,
สก๊อยแถวบ้านกูก็บ่นได้!! อ่านไปก็แบบ อืม หมกมุ่นกับความรักจังเลยเนอะ เอาเวลาไปตีฮอน หรือวิ่งคุกกี้รันบ้างก็ได้นะ
กระแสคำคมแล้วอะไรอีก….. ฮิปสเตอร์ เห็นโพสต์แต่ละที พี่จะเอาแฮชแทคไปถมหลุมขยะหลังบ้านเหรอ แล้วถ่ายรูปทำไมต้องสรรหามุมขนาดนั้น ใครก็ได้ช่วยมัดรวมเอาไปถ่วงน้ำที ทั้งคำคมทั้งไอ้ฮิปนี่แหละ แม่งจะอ้วก
เดือนนี้เดือนแห่งความรักนะครับ แต่เอาจริงแทนที่เราจะได้อิ่มเอมอุ่นไอรัก ที่ไหนได้ เสือกเป็นเดือนที่คนโสดสะดีดสะดิ้งที่สุดในรอบปี ดีดดิ้นจะเป็นจะตายตั้งแต่มกราคม ทำเหมือนกับ 14 กุมภา เป็นวันโลกาวินาศ
ผมบอกเลยนะ คนโสดไม่ต้องกลัว ที่กลัวมันต้องเป็นคนที่มีคู่แล้วโน่น ประเทศเราคนโสดเยอะกว่าครับ และคนที่มีแฟนแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะแสดงออกทางโซเชียลเน็ตเวิร์กทุกคู่ บางคู่ก็เงียบๆ เรียบร้อย บางคู่ก็เขินจะป่าวประกาศ พวกที่กล้าแสดงออกจนหวานเว่อร์ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้น่าอิจฉาแต่อย่างใด
นับกันจริงๆ ปริมาณของคนมีคู่ที่จะแสดงออกให้เราอิจฉา มีน้อยมากครับ มีแค่คู่ของคน 2 ประเภทเท่านั้นที่จะทำให้เราเจ็บปวด คนที่เราจีบแล้วแห้วแดก กับแฟนเก่า แนะนำให้บล็อกไปเดือนนึง เท่านี้ชีวิตคนโสดก็ปลอดภัย ออกแขวะ แซะพวกมีแฟนแล้วได้อย่างสบายใจ
พูดถึงสเต็ปความรักเดี๋ยวนี้ เน้นไปที่ของใกล้ตัว โซเชียลเน็ตเวิร์ก
แต่เอาจริงๆ ยุคนี้หรือยุคนั้นสเต็ปก็ไม่ต่างกัน เป็นสเต็ปคลาสสิค 3 ขั้นตอน พูดไปเหมือนง่าย
แอบชอบ…… ลองจีบ…… ถ้าไม่แห้วก็ได้เป็นแฟน
มีแค่นี้เองครับ อยู่ที่ว่าใครจะข้ามสเต็ปเร็วแค่ไหน
เริ่มจากแอบชอบ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ใครก็การันตีแล้วว่าสวยงาม งุงิน่ารัก บางคนชอบฟีลนี้มาก ผ่านไปสิบปี ลูก 2 ไปแล้วก็ยังแอบอยู่ ก็ทำไมอ่ะ มีความสุขไง เมื่อก่อนคนแอบชอบต้องเก็บความรู้สึกนะ แต่เดี๋ยวนี้พูดเลย
เราเข้าสู่ยุคทองของคนแอบชอบแล้ว เพราะเราจะเข้าไปส่อง!!! เซฟรูป!!! อย่า อย่าบอกนะว่าพวกคุณไม่เคยทำ มันจะเป็นคนดีเกินไปแล้ว แต่มันต้องลุ้นครับ บางคนเข้าไปนี่ มีแต่รูปประจำตัวให้ดู 2 รูป ถึงกับเซ็งเป็ด แต่ถ้าคนไหนสาธารณะทุกสิ่งอย่าง บอกเลยดูกันถึงฟิน อิ่มเลยทีเดียว ไม่ต้องเข้าไปจีบแล้วล่ะ งานมโนจัดเต็ม งานดีงานละเอียด เสร็จแล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปส่องคนอื่นต่อ
แต่ถ้าใครไม่พอใจแค่ส่อง ต้องการดำเนินสเต็ปต่อไป มันก็ต้องลองจีบดูครับ
สมัยนี้หมดยุคไปแล้วกับการเดินไปขอเบอร์ มันต้องขอไลน์!!! แล้วค่อยไปขอเบอร์ในไลน์อีกที บางคนได้เบอร์ไปก็เท่านั้น ชีวิตติดแชทเยอะกว่า พอได้คุยไปกันไม่เป็นเลย ไม่มีสติ๊กเกอร์ช่วย สุดท้ายก็กลับมาพึ่งพาบราวน์กับโคนี่เหมือนเดิม
แต่ถ้าคุยผ่านฉลุยไปถึงขั้นนัดเจอ อันนี้บอกเลยครับ โอกาสได้เป็นแฟนกันมีมากกว่า 80%
พอได้เป็นแฟนกันแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคน 2 คนล่ะฮะ ว่าจะประคองกันได้ตลอดรอดฝั่งแค่ไหน
เดี๋ยวนี้นิยามความรักไปไกลแล้วครับ มีเป็นร้อยเป็นพันนิยาม คือการดูแล คือการอยู่ด้วยกัน คือการแคร์กันตลอดเว คือความอดทน คือการรับข้อดีข้อเสีย คือการเด้งเด้าเขย่าโลก คือความอิอิ ครุคริ จูบุ จูบุ…
อันนี้พวกมีความรักเค้านิยามนะครับ คนมีความสุข นิยามอะไรก็ถูกไปหมดแหละ ลองอกหักโดนทิ้งมาสิ มันจะนิยามไปอีกแบบนึงเลย รักคือการทำร้าย คือการหลอกลวง คือการทอดทิ้ง คือการเปรียบเทียบ คือการทำให้มีน้ำตาแล้วจากไป… ฮือออ ทิ้งไม่ว่า แต่ถ้าจะบอกว่าดีเกินไป ตดใส่หน้าเลยเถอะ
รักมันคือความเชื่ออย่างนึงครับ อยู่ที่ใครจะเชื่อแบบไหน บางคนก็บอกความรักมีอยู่จริง บางคนก็บอกไม่มีหรอก มีแต่คนเห็นแก่ตัว มันอยู่ที่ว่าเราจะเข้มแข็งกับความเชื่อมากแค่ไหน ตอนรักเชื่อแบบนึง ตอนเลิกเชื่ออีกแบบ พอกลับมารักอีก เอ้า กลับมาเชื่อเหมือนเดิมละ
แต่หลายคนก็เชื่อว่า การมีความรักจะทำให้มีความสุข ก็จริงครับ แต่หลายคนทำผิดตรงที่ เราดันเอาความรักไปฝากไว้กับคนอื่นซะเยอะ ไม่ได้เริ่มจากรักตัวเองก่อน ผมนี่ก็ไม่รอดครับ เป็นเหมือนกัน ทำทุกอย่างเพื่อให้คนมารัก เพราะคิดว่ามันจะมีความสุข
แต่พอโดนทิ้งกลับมาโสด เหมือนโลกเหวี่ยงเลย ถ้าหาแฟนอีก เราจะมีความสุขจริงเหรอ
แล้วทำไมตอนเด็กเราถึงมีความสุขได้วะ ทั้งที่ก็ไม่ได้คิดเรื่องมีแฟน ชีวิตตื่นมาไปเรียน เล่นเกม เล่นกับเพื่อน หาของอร่อยกิน ชีวิตโคตรมีความสุขเลย แต่พอโตขึ้นมา พอเราคิดว่าเราต้องมีแฟนละ ชีวิตเป็นอีกแบบนึงเลย
ทำไมเราโคตรเหงาเลยวะ แล้วพอมีแล้วเค้าจากไป ทำไมเจ็บจนจะตาย ผมเก็ตเลย เพราะเรารักแต่คนอื่นแล้ว เราไม่ได้รักตัวเองเหมือนเมื่อก่อน เอาจริงความรักมันเป็นฟีลความรู้สึกนะ ไม่ใช่แฟน ถ้าเดือนนี้ใครยังไม่มี แนะนำว่าอย่าไปคิดว่าจะต้องมีครับ ลองสะกดจิตตัวเองให้ใช้ชีวิตฟีลเด็กๆ อย่างที่ผมบอกดู อย่าไปคิดว่าการมีแฟนคือการมีความสุข ถ้าไม่มีเราหาจากที่ตัวเราได้ ไม่เดือดร้อน
แต่ถ้าใครมีแฟนแล้ว ผมไม่แนะนำอะไรละกัน มันจะเป็นคนแนะนำจากคนที่โดนทิ้งมา ก็ไม่รู้จะฟังไปทำซากเอื้องอะไร เอาเป็นว่าให้เป็นเรื่องของคน 2 คนละกัน
สุดท้ายนี้ขอให้มีความสุขในเดือนแห่งความรักนะครับ ไม่ว่าจะโสดหรือมีแฟนแล้วก็ตาม
#ความรักก็เช่นกัน