บทความจาก Online Station Magazine
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่น้องชาวเกมเมอร์และแฟนๆ Online Station ทุกคน ก็มาพบกันกับจุ๊บแจงอีกเช่นเคย ในคอลัมน์สุดแซบ “ชะนี She Said” ที่จะมานำเสนอเรื่องราวต่างๆ ผ่านมุมมองของผู้หญิงที่อยู่ในโลกออนไลน์ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ลองพิจารณาและเห็นอีกมุมหนึ่ง ที่อาจจะแตกต่างออกไปบ้าง ครั้งนี้ก็อยากจะหยิบยกเอาเรื่องราวดราม่าต่างๆ มาพูดถึงกัน เพราะช่วงนี้รู้สึกว่าจะมีเรื่องดราม่าอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียวค่ะ ลองไปดูกันเลยดีกว่า
ก็ต้องยอมรับนะคะว่าเรื่องดราม่าทั้งหลายเนี่ย ยิ่งมีกลิ่นอายของความเป็นดราม่าครบถ้วนสมบูรณ์แบบทุกองค์ประกอบยิ่งทำให้คนติดตามกันมาก แล้วยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบุคคลมีชื่อเสียง ดารา นักร้อง ไอดอล และอื่นๆ ก็ยิ่งมีคนเกาะติดตามกระแสมากขึ้น ถามว่าดีมั้ยเหรอ... ส่วนตัวแล้วคิดว่าอ่านๆ ไปก็สนุกดีนะ ได้รู้ว่าไอที่ดราม่ากันเนี่ยมันมีที่มาที่ไปเป็นอะไร สมเหตุสมผลไหม มีนักวิเคราะห์จำเป็นออกมามากมาย ต่างคนก็ต่างแสดงความคิดเห็นกันอย่างเมามันส์ บางคนก็อารมณ์ล้วนๆ
แล้วคนเราเนี่ยมันก็ชอบรื้อฟื้นเรื่องราวต่างๆ ในอดีต ทั้งขุด ทั้งคุ้ยออกมาพูดหมด บางทีมีเรื่องดราม่าของคนนี้ สักพักมีประวัติออกมาอีกละ เตรียมตัวแฉกันอย่างเต็มที่ แบบมีช่องว่างเมื่อไหร่พี่เอาเมื่อนั้น อดีตเธอคนนี้เคยแย่มาก่อน สมัยก่อนเขาคนนั้นเคยไม่ดีมาก่อน ขอบอกว่าอย่าได้พลาดเลยเชียว เพราะแค่เขากดเอ็นเทอร์จึ้กเดียว เราก็เสียหายได้แล้วล่ะค่ะ
แล้วก็อย่างที่เรารู้ๆ กันแหละนะว่าโลกออนไลน์เนี่ยพวกข้อมูลข่าวสารต่างๆ มันถูกเผยแพร่ กระจายออกไปยังคนอื่นๆ ได้เร็วมาก เพราะกลุ่มประชากรที่ใช้อินเตอร์เน็ตยิ่งมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ทำให้เราได้เห็นปัญหากันบ่อยๆ ว่าข่าวสารที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้นเป็นข้อมูลที่ผิด บางข่าวยังไม่ได้กรองด้วยซ้ำ แล้วทำไงอ่ะ... แชร์ไปแล้ว... คนอื่นเห็นแล้ว... เขาแชร์กันต่อแล้วด้วยยย... อ่าวปล่อยปายยย ยาวเลยงี้ ยาวๆ เลยยย
สังคมโซเชียลมีเดียมีหลากหลายช่องทาง มีผู้ใช้หลากกลุ่ม หลายคน การควบคุมนี่ก็แทบจะใช้ไม่ได้ผล ยิ่งมีความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารมากเท่าไหร่ คนเรานี่ก็จะพิจารณากลั่นกรองสารหรือข้อความต่างๆ น้อยลงไปทุกวัน ลองมามองกลับกันถึงผู้เสียหายบ้าง... บางทีรู้ทั้งรู้ว่าข้อมูลผิด ก็ปล่อย ไม่มีการแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น คนเสียหายก็ตกเป็นจำเลยของสังคมต่อไป น่าเศร้าใจชะมัด คนรู้แล้วก็ทำแค่เงียบ คนยังไม่รู้ก็แชร์กันเมามันส์ ดราม่ากันต่อไป
บางครั้งเราก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องที่ส่งต่อกันมานั้นมันจะถูกหรือผิด แต่สิ่งที่ดีที่สุดที่คนในโลกออนไลน์จะทำให้แก่กันได้ก็คือต้องพยายามใจเย็นและอย่าให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล คนบางคนที่โดนกระแสเหล่านี้โจมตีมันก็มีความรุนแรง บางครั้งเขาผิดก็ดราม่ากันแค่พอประมาณก็พอค่ะ อย่าให้ถึงกับทำให้เขาไม่มีที่ยืนในสังคมเลยเนอะ
แม้ว่าข่าวออนไลน์ต่างๆ นั้นจะได้อิสระในการนำเสนอข้อมูล การแสดงความคิดเห็นแบบไม่ปิดกั้นก็จริง แต่มันก็เหมือนดาบสองคมแหละค่ะ เพราะอีกด้านหนึ่งมันก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้มาก ทั้งเนื้อหาการนำเสนอ และกลุ่มของผู้เสพสื่อที่จำกัดช่วงอายุได้ยาก มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีคนได้รับผลกระทบด้านลบเป็นจำนวนไม่น้อยเลย
ส่วนเรื่องการขุดคุ้ยในประเด็นอื่นๆ ที่ไม่ใช่ดราม่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับใครก็อยากให้เพลาๆ ลงบ้าง อย่างว่าแหละค่ะคนเราไม่เคยมีใครผิดพลาดมาก่อน พอรู้ว่าผิดเราก็แก้ไข และก็ไม่ได้อยากให้มีใครขุดเรื่องแย่ๆ มาซ้ำเติมหรอกนะคะ จริงมั้ย? ลองมองกลับกันว่า หากกระแสเหล่านั้นสะท้อนกลับมาหาตัวเรา เราจะทำยังไง ทนได้มั้ย นั่นแหละ... สิ่งที่คนกำลังอยู่ใจกลางความดราม่านั้นต้องเผชิญอยู่
“โลกออนไลน์ไม่ใช่ไม่มีข้อดีนะคะ มันมีข้อดีอยู่เยอะทีเดียว แต่เราก็ต้องรู้จักใช้มันให้เป็นประโยชน์ ใช้โดยรู้เท่าทันมัน เพื่อไม่ให้เกิดผลร้ายๆ กับใครอีก”
โดยเฉพาะข่าวของผู้หญิงที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ขุดอดีตแย่ๆ ภาพหลุด จนไปถึงข่าวลือที่จริงบ้าง ไม่จริงบ้างมาแฉกันต่างๆ นานา จุ๊บแจงเคยมองกลับมาที่ตัวเองนะว่าหากเราเจอเรื่องแบบนี้จะเป็นยังไง... มันแย่เลยนะ การที่โดนคนอื่นมารุมประณามหยามเหยียด ทั้งเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ตาม เห็นคนอื่นด่า ว่ากันอย่างสนุกสนาน ซึ่งความทุกข์มันอยู่ที่คนโดนไง มันเป็นฟีลที่แบบ... รู้สึกตกต่ำมาก
แม้ว่ากระแสที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลา เพียงแค่อยู่เงียบๆ เดี๋ยวเรื่องก็ผ่านไป แต่แผลที่ทุกคนเข้ามาเหยียบย่ำมันเหวอะหวะ จนบางทีเจ้าตัวที่โดนไปนั้นอาจจะรักษาไม่หาย เพียงแค่ความคึกคะนองของผู้ที่ผ่านมา เพียงแค่ผลกระทบของคนที่ปล่อยให้อารมณ์เข้ามาแทนเหตุผล... เท่านั้นเอง
..ได้โปรดอย่าใช้โลกออนไลน์เป็นเครื่องมือทำร้ายใครเลยค่ะ..