ถึงจะเป็นบริษัทใหญ่และมีเงินถุงเงินถัง แต่ EA Games ก็ยังมีวันที่ต้องทุบหม้อข้าวตัวเองเช่นกัน (แถมยังบ่อยซะด้วย) โดยเมื่อเช้าก็เพิ่งมีข่าวช็อคโลกกับสตูดิโอดังอย่าง Maxis สาขาแม่ที่ร่วมงานกับ EA มาเกือบ 20 ปี แต่จนแล้วจนรอดก็ต้องถูกสั่งปิดในที่สุด
แม้หากมองว่าเป็นความโหดร้ายในโลกธุรกิจซึ่งแทบจะไร้ความเห็นใจในความสัมพันธ์ ทว่าความผิดส่วนหนึ่งนั้น ปฎิเสธไม่ได้ว่า EA ก็มีส่วนเช่นกันที่ไม่อาจประคับประคองพวกเขาไปตลอดรอดฝั่งได้ และด้านล่างต่อไปนี้ ก็คือรายชื่อของสตูดิโอที่ถูกทาง EA ใช้เงินซื้อเข้ามาหมายปั้นให้เป็นดาราทว่ากลับต้องลาลับกลับสู่ผืนดินเพราะคำสั่งปิดจากผู้ซื้อเองในภายหลัง
และเราจะเรียงลำดับจาก อยู่โยงที่สุด ไป เร็วที่สุด ครับ
อันดับ 11
Maxis (SimCity) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 1997 ถูกสั่งปิดในปี 2015 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 18 ปี
อันดับ 10
DreamWorks Interactive/Danger Close/EA Los Angeles (Medal of Honor) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 2000 ถูกสั่งปิดในปี 2013 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 13 ปี
อันดับ 9
Origin (Ultima, Wing Commander) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 1992 ถูกสั่งปิดในปี 2004 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 12 ปี
อันดับ 8
Black Box Games (Need for Speed, Skate) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 2002 ถูกสั่งปิดในปี 2013 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 11 ปี
อันดับ 7
Mythic (Dark Age of Camelot) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 2006 ถูกสั่งปิดในปี 2014 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 8 ปี
อันดับ 6
Phenomic (SpellForce, BattleForge) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 2006 ถูกสั่งปิดในปี 2013 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 7 ปี
อันดับ 5
Bullfrog (Syndicate, Dungeon Keeper) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 1995 ถูกสั่งปิดในปี 2001 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 6 ปี
อันดับ 4
Westwood (Command & Conquer) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 1998 ถูกสั่งปิดในปี 2003 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 5 ปี
อันดับ 3
PlayFish (The Sims Social) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 2009 ถูกสั่งปิดในปี 2013 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 4 ปี
อันดับ 2
NuFX (NBA Street) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 2004 ถูกสั่งปิดในปี 2007 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 3 ปี
อันดับ 1
Pandemic (The Saboteur) - ถูกซื้อโดย EA ในปี 2008 ถูกสั่งปิดในปี 2009 รวมระยะเวลาใต้ชายคา EA 1 ปี!!!
Credit: Kotaku