Faceless Void จาก DOTA 2 และ Chronos จาก HoN ฮีโร่ทั้งสองตัวนี้ เรียกว่าเป็น Hard Carry ที่ขึ้นชื่อว่าโหดสุดๆ โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม หาคู่ต่อกรยากมาก ยิ่งถ้าบวก 1 ต่อ 1 ตอนของมาเต็มสูบนี่ไม่ต้องพูดถึง โหดสุดติ่งกระดิ่งแมวมาก ซึ่งเมื่อมองเผินๆ ความสามารถโดยรวมของฮีโร่ทั้ง 2 ตัวอาจจะดูมีความคล้ายคลึงกัน แต่เอาจริงๆ มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะถ้าใครที่ลองเล่นทั้ง 2 เกมนี้แล้ว จะรู้ว่าฮีโร่ทั้งสองตัวนี้มีความแตกต่างที่ค่อนข้างชัดเจนอยู่ แต่และที่สำคัญยังมีคำถามที่คาใจหลายๆ คนว่า ฮีโร่ทั้ง 2 ตัวนี้ ใครมันจะเจ๋งกว่ากัน??
Faceless Void จาก DOTA 2
สำหรับ DOTA 2 อันนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะเค้าสืบทอดทายาทอสูรมาจาก DotA กันตรงๆ ดังนั้น ในเรื่องของความสามารถจะตรงกันเป๊ะๆ ดังนั้น Faceless Void ก็จะคงความสามารถดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน
Chronos จาก HoN
แต่ฮีโร่บางส่วนในเกม HoN เรียกว่าได้รับแรงบัลดาลใจมาจาก DotA ที่ถือเป็นต้นกำเนิดเกมแนว MOBA ทำให้เริ่มแรกสกิลที่ติดตัวมาจะเรียกว่า ฝาแฝดเลยก็ได้ แต่หลังจากที่วันเวลาผ่านไป ทางทีมผู้พัฒนาก็มีการปรับความสามารถ ทำให้ Chronos ความแตกต่างจาก DotA ที่เป็นต้นฉบับ และ DOTA2 พอควรทีเดียว
ค่าสเตตัสพื้นฐาน
ค่าสเตตัสพื้นฐาน จะขอเทียบเอาตอนเลเวล 1 และ เลเวล 25 โดยจะไม่มีการใส่ไอเทมเข้ามาเพิ่มแม้แต่ชิ้นเดียว เพื่อที่จะได้เทียบกันได้ชัดเจนที่สุดครับ จะเห็นว่าค่าสเตตัสของทาง Faceless Void จะมากกว่า Chronos อยู่นิดหน่อย
สกิล 1
Time Leap (Chronos) – กระโดดพุ่งเข้าแบบยังพื้นที่เป้าหมาย พร้อมสร้างความเสียหายเป็นเวทย์ 50/90/130/170 หน่วย และทำให้ยูนิตศัตรูที่อยู่ในระยะเคลื่อนที่ช้าลง 22/28/34/40% เป็นเวลา 3 วินาที
Time Walk (Faceless Void) – กระโดดพุ่งเข้าแบบยังพื้นที่เป้าหมาย ทำให้ยูนิตศัตรูที่อยู่ในระยะเคลื่อนที่ และโจมตีได้ช้าลง 20/30/40/50% เป็นเวลา 3 วินาที
ดูแค่สกิลแรกก็เริ่มเห็นความแตกต่างกันแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าของทางฝั่ง Chronos เวลากระโดดเข้าไปจะสร้างความเสียหาย พร้อมๆ กับทำให้ศัตรูวิ่งได้ช้าลง แต่ Faceless Void จะไม่มีความเสียหายเพิ่มเข้ามาในจังหวะที่โดดเข้าไป แต่ก็ยังมีข้อดีคือ นอกจากจะลดความเร็วในการวิ่งของเป้าหมายลง ยังลดความเร็วในการโจมตีไปพร้อมๆ กัน แถมยังลดความเร็วลงได้มากกว่าด้วย (ตั้งแต่เลเวล 2 ขึ้นไป)
สกิล 2
Rewind (Chronos) – สกิลติดตัว เมื่อโดนความเสียหาย จะมีโอกาส 10/15/20/25% ที่จะฟื้นฟู HP ตัวเอง กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว
Backtrack (Faceless Void) – สกิลติดตัว มีโอกาส 10/15/20/25% หลบความเสียหายทุกชนิด
ขั้นติดตัวขั้นเทพ ที่ทำเอาอีกฝ่ายต้องปวดหัว ซึ่งหากมองเผินๆ เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะมองว่า ก็คล้ายๆ กัน แต่เอาเข้าจริงๆ มันมีความแตกต่างกันพอสมควร เริ่มจาก Chronos ที่เมื่อผลสกิลติดขึ้นมา HP จะลดลงไปก่อนแล้วจะฟื้นฟูขึ้นมาเท่ากับก่อนที่โดนโจมตีอย่างรวดเร็ว ส่วน Faceless Void นั้น หากผลสกิลติด จะเป็นเท่ากับการโจมตีนั้นเท่ากับ 0 เลยก็ไม่ผิด ซึ่งผมได้ลองทดสอบทางฝั่ง Faceless Void ในกรณีที่มี HP เหลือแบบร่อแร่ แล้วให้แขกรับเชิญของเรา Flint Beastwood ทำการใช้สกิลอัลติเมท ยิงเข้ากลางกระหม่อม Chronos ผลที่ได้คือ แม้ผลของสกิล Rewind แต่เมื่อ HP ลดไปจนเหลือ 0 แล้ว จะไม่ฟื้นฟู HP กลับคืนมาให้ สรุปคือ บินกลับบ่อ ณ บัดนั้นครับ
สกิล 3
Curse of Ages (Chronos) – สกิลติดตัว เมื่อโจมตีครบทุกๆ 8/7/6/5 ครั้ง จะสร้างโบนัสความเสียหายเป็นเวทย์ 40/50/60/70 หน่วย และติด สตั้น 1 วินาที
Time Lock (Faceless Void) – สกิลติดตัว ทุกการโจมตีปกติ มีโอกาส 10/15/20/25% ทำให้เป้าหมายติดสตั้น 1 วินาที
ต่อกันที่สกิลสุดแสบ ที่ทำให้ 2 หน่อนี้กลายเป็นนักฆ่าสุดโหด จนแทบจะไร้ผู้ต่อกร โดยความแตกต่างในสกิลนี้ ของฮีโร่ทั้ง 2 ตัวนี้อยู่ที่ Chronos จะล็อคการโจมตีที่จะตีแล้วติดสตั้นไว้เอยู่แล้ว ส่วน Faceless Void ว่ากันตรงๆ เลย ดวงล้วนๆ ครับ
สกิล 4
Chronofield (Chronos) – สร้างพื้นสนามพลังขึ้นมา ทำให้เห็นยูนิตที่หายตัวด้านในสนามพลัง และทุกยูนิตที่อยู่ในพื้นที่ ไม่สามารถขยับ หรือโจมตีได้เป็นเวลา 3/4/5 วินาที และลดความเสียหายที่โจมตีเข้ามาจากจากศัตรูที่อยู่นอกพื้นที่สกิลลง 25%
**
Staff of the Master (คทาฟ้า) : เพิ่มผลของพื้นที่ให้อยู่นาน 4/5/6 วินาที พร้อมทั้งทำให้ ยูนิตฝ่ายเดียวกับเรา สามารถเคลื่อนที่ (แต่ช้า), โจมตี หรือใช้สกิลได้ และคูลดาวน์สกิลเหลือ 75 วินาทีทุกเลเวล
Chronosphere (Faceless Void) – สร้างพื้นสนามพลังขึ้นมา ทำให้เห็นยูนิตที่หายตัวด้านในสนามพลัง และทุกยูนิต ที่อยู่ในพื้นที่ไม่สามารถขยับ หรือโจมตีได้ ยกเว้นตัว Faceless Void เป็นเวลา 4/4.5/5 วินาที และในพื้นที่สนามพลังตัว Faceless Void จะมีความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้นเมื่ออยู่ในสนามพลังนี้
**
Aghanim’s Scepter (คทาฟ้า) : เพิ่มผลของพื้นที่ให้อยู่นาน 4/5/6 วินาที และคูลดาวน์สกิลเหลือ 60 วินาทีทุกเลเวล
สกิลอัลติเมทของทั้ง 2 ตัว จะทำงานคล้ายๆ กัน แต่ก็ยังมีบางจุดที่แตกต่างอยู่บ้างนั่นคือ สนามพลังของ Chronos หากไม่มีคทาฟ้า พื้นที่ในการสร้างสนามพลังจะอยู่ได้น้อยกว่าของ Faceless Void นิดหน่อย ตอนช่วงเลเวล 6 และ 11 แต่ก็ได้ความสามารถในการลดความเสียหายจากศัตรูที่อยู่โจมตีมาจากด้านนอกสนามพลังเข้ามาทดแทน ซึ่งตรง Faceless Void จะไม่มี นอกจากนี้หากทั้ง 2 ออก คทาฟ้า ทางฝ่าย Chronos นั้น นอกจากจะเพิ่มระยะเวลาของสนามพลังได้นานขึ้น เพื่อนร่วมทีมยังสามารถเข้ามาช่วยโจมตี หรือยัดสกิลได้อย่างอิสระ แม้อยู่ในพื้นที่สนามพลัง รวมไปถึงลดคูลดาวน์สกิลลงเหลือ 75 วินาที ส่วน Faceless Void จะเพิ่มแค่ระยะเวลาคงอยู่ของสนามพลัง และลดคูลดาวน์ลงเป็น 60 วินาที
หากมองดูข้อมูลที่นำเสนอมาข้างต้น เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเริ่มเห็น ความแตกต่างของฮีโร่ทั้ง 2 ตัวนี้กันบ้างแล้วใช่ไหมล่ะครับ ซึ่งจุดเด่น Chronos โดยรวมแล้วจะมีความสามารถสร้างความได้เปรียบในจังหวะทีมไฟท์ได้ค่อนข้างดี แต่หาก HP เหลือน้อย จะแพ้ทางพวก Nuker หรือฮีโร่ที่มีสกิลแรงๆ ดอกเดียวดับ ส่วน Faceless Void จะเป็นฮีโร่ที่มีความสามารถในการสร้างความได้เปรียบให้แก่ตัวเอง และเอาตัวรอดได้ดี แต่ก็จะเน้นการใช้ดวงมากกว่า Chronos ซึ่งถ้าเอามาอัดกัน ตัวต่อตัว บอกได้เลยว่า วัดผลแพ้ชนะได้ค่อนข้างยากพอสมควร นั้นเพราะส่วนหนึ่งก็ต้องมาจากเสต็ปการเล่นของผู้เล่นแต่ละคน จะสามารถดึงศักยภาพของฮีโร่ออกมาได้มากน้อยแค่ไหนด้วย แล้วเพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับฮีโร่แฝด คนละฝาจาก DOTA 2 และ HoN นี้กันบ้าง ไงก็มาแชร์ความคิดเห็นกันได้นะครับ..
