เปิดประเด็นรอบเย็นสำหรับวันนี้ด้วยเทศกาลทำบุญของชาวแผ่นดินใหญ่ที่เรียกว่า "เทศกาลกินเจ" กันหน่อยดีกว่าครับ เทศกาลกินเจนี้เป็นเทศกาลที่ให้คนถือศีลกินผักเป็นประเพณีแบบลัทธิเต๋าซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 9 วัน โดยนับตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำถึงวันขึ้น 9 ค่ำตามปฏิทินจีนซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาเลยทีเดียว ในปัจจุบันการกินเจถือเทศกาลที่นิยมมากในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และไทย ซึ่งกลุ่มที่กินเจนั้นมีมากไม่ว่าจะเป็นเซเลปชื่อดังหรือแม้แต่ไฮโซตลอดจวบจนคนธรรมดา แต่กินเจปัจจุบันนี้กินเพื่อเอาบุญ หรือ เอาหน้า?
ฝ่ายแดง
คนที่กินเพื่อเอาบุญ
เป็นผู้ที่กินเจด้วยจิตเมตตา ไม่กินอาหารที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์ ด้วยความคิดว่าสัตว์เหล่านั้นมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา อีกทั้งยังเป็นการกินเพื่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ อีกทั้งตระหนักว่าการกินเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม การรับประทานอาหารเจ ซึ่งทำให้ร่างกายอิ่มได้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยช่วงเวลาสั้นๆ นับเป็นเพียงแค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่นเหล่าอากง อาม่า อาแปะ อาโกว ของคนเขียนที่ยังกินอยู่ในปัจจุบัน
ฝ่ายน้ำเงิน
คนที่กินเพื่อเอาหน้า
เป็นผู้ที่กินด้วยจุดประสงค์ต่างจากด้านบน เป็นการกินเพื่อตามเทรนด์เป็นแฟชั่น เอาอย่างคนรู้จักหรือคนมีชื่อเสียง อีกทั้งยังกินเพื่อสร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนดีถือศีล แต่จริงเลือกกินอาหารเจแค่บางชนิดเท่านั้น ซึ่งคนเหล่านี้มักจะกินด้วยความกล้ำกลืนฝืนทนในแบบที่ตนเองไม่เคยกิน เลยพยายามสรรหาวิธีการกินเจแบบดันทุรังอย่างโน้นไม่เอา อย่างนี้ไม่เอา ทำให้ก่อเกิดสิ่งที่เรียกว่าโปรตีนเกษตร และทำให้มีอาหารจำพวก หมูหันเจ, เป็ดย่างเจ, และสารพัดอาหารเจในรูปแบบอาหารเนื้อสัตว์ ตกลงความเข้าใจในการกินเจกลายพันธุ์ไปจากเดิมเสียแล้ว ตกลงการกินอาหารผักในรูปแบบของเนื้อสัตว์ก็ยังถือว่าเป็นการกินเจ ไม่ผิดแต่ประการใด
แล้วคุณล่ะเอยากป็นพวกินเจแบบไหน?
เอาบุญ หรือว่า เอาหน้า