วันนี้ทาง 2K and Firaxis Games ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะวางจำหน่ายเกม Sid Meier's Civilization: Beyond Earth ในวันที่ 24 ตุลาคมปีนี้ และสำหรับใครที่สั่งซื้อล่วงหน้า รับไปเลย Map Pack ซึ่งประกอบไปด้วย 6 map ให้ได้เลือกเล่น ส่วนใครที่ยังไม่รู้จักเกมนี้ลองมาทำความรู้จักกับเกมนี้กันค่ะ
Civilization: Beyond Earth
ซีรีส์ Civilization นั้นนับเป็นสุดยอดเกม 4X Simulation Strategy ที่อยู่คู่วงการเกมมาช้านาน และสำหรับแฟนๆ รุ่นเก๋าที่เคยเล่น Civilization มาตั้งแต่ภาคแรกๆ น่าจะเคยได้สัมผัสผลงานชิ้นโบแดงอีกชิ้นหนึ่งของ Sid Meier นั่นก็คือ Sid Meier's Alpha Centauri เกมแนว Civilization ในรูปแบบไซไฟ ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในผลงานสุดคลาสสิกตลอดกาลของ Sid Meier ซึ่งยังไม่มีใครมาเทียบเคียงได้ และเหล่าแฟนๆ ก็ตั้งตารอภาคต่อของ Alpha Centauri มาโดยตลอด ซึ่งในที่สุด Sid Meier ก็หันกลับมาพัฒนาเกมวางแผนแนวไซไฟอย่างที่แฟนๆ ต้องการซะที ชื่อของมันคือ Civilization: Beyond Earth ภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์ Civilization ซึ่งจะบอกว่าเป็น Alpha Centauri 2 ก็ย่อมได้
The Great Mistake
Beyond Earth เป็นเรื่องราวในอีกร้อยปีข้างหน้า แม้วิทยาการของมนุษย์จะก้าวล้ำถึงขีดสุด แต่มนุษย์ก็ได้กระทำสิ่งที่ผิดพลาดไว้หลายอย่าง ทั้งโดยเทคโนโลยีและวิถีชีวิต ส่งผลให้โลกกลายเป็นดาวที่ค่อยๆ ตายลงและกำลังจะไม่ใช่ที่ๆมนุษย์อาศัยอยู่ได้อีกต่อไป ซึ่งกว่าจะรู้สึกตัวถึงเรื่องนี้มันก็เลยจุดที่จะแก้ไขอะไรได้อีกต่อไปแล้ว เหล่าผู้คนแห่งยุคเรียกความผิดพลาดในอดีตนั้นว่า The Great Mistake ความผิดพลาดของมนุษย์ชาติซึ่งทำให้โลกต้องพบกับหายนะ ทางออกเดียวของพวกเขาคือแสวงหาดาวเคราะห์ซึ่งมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการอยู่อาศัยเพื่อใช้เป็นบ้านหลังใหม่ของมนุษย์ชาติ นั่นคือช่วงเวลาที่เหล่าผู้คนทุกเชื้อชาติทุกอารยะธรรมได้แหนหน้ามองขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยเจตนาและเป้าหมายเดียวกัน คือค้นหาที่ๆจะเป็นบ้านหลังใหม่ของพวกเขา
จากความคุ้นเคยสู่ความแตกต่าง
โครงสร้างของเกมโดยพื้นฐานแล้วจะใกล้เคียงกับรูปแบบดั้งเดิมของ Civilization ทำให้ผู้เล่นที่เคยมีประสบการณ์กับซีรีส์มาก่อนสามารถปรับตัวและเข้าถึงการเล่นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่รายละเอียดในส่วนอื่นๆ เกือบทุกส่วนของเกมจะเปลี่ยนแปลงไปในระดับที่เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของซีรีส์เลยก็ว่าได้ โดยในเกมนี้คุณจะเป็นกลุ่มนักบุกเบิกรุ่นแรกสุดซึ่งเดินทางด้วยกระสวยอวกาศไปยังดาวอันไกลโพ้นเพื่อทำการตั้งรกรากและสร้างอารยะธรรมขึ้นมาใหม่ แน่นอนว่าคุณไม่ใช่คณะเดินทางเพียงคณะเดียวจากโลก เพราะประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างก็ออกทุนสนับสนุนนักบุกเบิกของตนเพื่อส่งมาจับจองและสานต่ออารยะธรรมของตนบนบ้านใหม่นี้เช่นกัน ผู้เล่นแต่ละคน (รวมถึง AI) จึงจะมีประเทศต้นสังกัดของตนเองให้เลือกในตอนเริ่มเกม ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมี Trait ที่ให้โบนัสในการเล่นแตกต่างกันไปเช่นเดียวกับใน Civ ภาคก่อนๆ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือผู้เล่นจะสามารถเลือกประเภทของสมาชิกทีมบุกเบิกที่จะพาไปด้วยได้ โดยสมาชิกแต่ละสาขาอาชีพก็จะให้โบนัสช่วยการเล่นในช่วงต้นเกมที่แตกต่างกันออกไป เช่นกองทหาร ซึ่งจะทำให้การรับมือกับเหล่าเอเลี่ยนบนดาวทำได้ง่ายขึ้น หรือนักวิทยาศาสตร์ซึ่งจะให้โบนัสการวิจัยเพื่อปลดล็อคเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น รูปแบบนี้ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกโบนัสที่เข้ากับไสตล์การเล่นของตนเองมากที่สุด
ทางเลือกของเหล่าผู้มาเยือน
ต่างกับ Civilization ภาคก่อนๆ ซึ่งเป็นเกมที่มีพื้นหลังเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ Beyond Earth ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับอนาคตนั้นเป็นเกมที่เต็มไปด้วยอิสระเพราะไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบใดๆ นั่นหมายถึงผู้เล่นจะเป็นเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมาอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ดัดแปลงแก้ไขประวัติศาสตร์เช่นภาคก่อนๆ ระบบการวิจัยพัฒนาของ Beyond Earth จึงเปลี่ยนจาก Tech Tree แบบเดิมๆ แม้จะมีทางเลือกแตกแขนงมากมายหลายสายแต่ปลายทางของการวิจัยก็จะไปในทิศเดียวกับ มาเป็น Tech Web ซึ่งเราจะเริ่มค้นคว้าวิจัยจากจุดศูนย์กลางและเลือกค้นคว้าเทคโนโลยีอันหลากหลายไปในทิศทางใดก็ได้ที่ต้องการ ซึ่งในเส้นทางอันหลากหลายนี้จะแบ่งสายการพัฒนาหลักๆ ออกได้เป็นสามแนวทางด้วยกัน คือ Purity, Supremacy, และ Harmony
Purity คือสายการพัฒนาที่พยายามคงรากฐานของมนุษย์เอาไว้ เทคโนโลยีสายนี้จะพยายามปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของดาวให้ใกล้เคียงกับโลกมากขึ้น หรือทำให้กลายเป็นโลกแห่งที่สองนั่นเอง ส่วนสาย Supremacy นั้นจะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีด้านจักรกลชีวภาพ การวิจัยสายนี้จะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนดัดแปลงมนุษย์ให้เป็นเครื่องจักรเพื่อให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมของดาวได้ ส่วนสุดท้ายคือ Harmony สายการพัฒนาที่จะช่วยให้มนุษย์สามารถปรับตัวเข้ากับธรรมชาติของดาวและอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ แม้นั่นจะหมายถึงการทำให้มนุษย์วิวัฒนาการสู่สายพันธุ์ใหม่ก็ตาม เทคโนโลยีทั้งสามสายจะมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันออกไป และมีรูปลักษณ์รวมถึงอารยะธรรมเฉพาะตัว ทำให้เหล่าพี่น้องผู้เคยเหยียบย่างลงบนดาวพร้อมกันในตอนเริ่มเกมอาจกลายเป็นคนแปลกหน้าภายในเวลาไม่กี่ร้อยปี เพราะเลือกแนวทางการพัฒนาที่ต่างกันนั่นเอง
Also Beyond Alpha Centauri
แม้แฟนๆจะมองว่า Beyond Earth คือภาคต่อของ Alpha Centauri ที่พวกเขารอคอย แต่ทีมพัฒนากล่าวว่าจริงๆ แล้วทั้งในแง่ของรายละเอียดและฟีเจอร์ของเกมนั้นมีความแตกต่างกันมาก และพวกเขาตั้งใจจะสร้างผลงานที่เหนือล้ำกว่า Alpha Centauri ในทุกๆ ด้าน ไม่ใช่แค่สานต่อจิตวิญญาณของมันอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรนี่ก็จัดเป็นเกมที่น่าสนใจที่สุดอีกเกมหนึ่งของปีนี้เลยทีเดียว ซึ่งมันจะเป็นเกมสุดเทพสมการรอคอยอันยาวนานของเหล่าแฟนๆหรือไม่ ต้องรอดูกันตุลานี้
เราไปชมคลิปเกมเพลย์กันเลยดีกว่า