"เกมพีซีกำลังจะตาย" เป็นประโยคที่ได้ยินมาหลายปีดีดัก โดยกูรูผู้สันทัดกรณีหลายๆ ท่านที่มาบัดนี้คงไม่อยากจะออกนามในที่สาธารณะชนเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่พวกเขากล่าวอ้างและทำนายไว้อย่างมั่นใจนั้นไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกแห่งความเป็นจริง และไม่แม้แต่จะใกล้เคียงเสียด้วยซํ้า...
สิ่งที่ตอกยํ้าเรื่องดังกล่าวคราวล่าสุดก็มาจากนาย David Cole ผู้ซึ่งคอยรายงานข่าวคราวในแวดวงอุตสาหกรรมเกมได้บอกผ่านเว็บไซต์ PCR ว่าผลประกอบการของเกมพีซีนั้นได้พุ่งสูงขึ้นและแซงหน้าเครื่องคอนโซลไปเรียบร้อย โดย 2 หัวหอกหลักที่ช่วยกันแผ่ขยายอำนาจให้พีซีครองโลกได้ก็หนีไม่พ้น 2 เกม MOBA มหาอำนาจแห่งยุคอย่าง League of Legends และ Dota 2 นั่นเอง
"มีเหล่าเกมเมอร์คอนโซลจำนวนมากเสียยิ่งกว่ามากที่เล่นเกมพีซีอยู่ด้วย" Cole กล่าว "ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือแม้ในปัจจุบันเครื่องเกมคอนโซลก็ยังจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ในขณะที่เครื่องพีซีได้กลายสภาพสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าสามัญประจำบ้านไปเรียบร้อย มันใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นกับกระบวนการเปลี่ยนผ่านและกลับตาลปัตรนี้ นั่นยังหมายความอีกว่าพีซีมีกลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขวางกว่ามาก"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกม MOBA และเหล่า Free-to-play ทั้งหลายทั้งแหล่ช่วยขยายขนาดตลาดของเกมพีซีในทั่วโลก ทั้งยังมีการคาดหมายกันว่ามูลค่าของตลาดเกมพีซีในปีนี้จะแตะที่ระดับ 25 พันล้านดอลล่าสหรัฐ หรือประมาณ 800,000 ล้านบาทไทยเลยทีเดียว
"ต้องยอมรับว่าเกมแนว MOBA มีผู้เล่นที่มากมายกว่าเกมแนวอื่นๆ แต่ต้นปี 2014 นี้เราได้เห็นสัญญาณบางอย่างที่แตกต่างเช่นกัน มีการเปิดตัวเกมไตเติ้ลใหม่ๆ น่าสนใจมากมายที่อาจทำให้เกมเมอร์หันไปเล่นอย่างอื่นบ้างนอกจาก MOBA มากขึ้น กระนั้นเจ้าตลาดก็ยังจะเป็น MOBA เสริมด้วยเกมแนว MMO, Strategy และ FPS"
ตัวเลขจาก Steam ระบุว่า Dota 2 มีผู้เล่น 27 ล้านคนต่อวัน ส่วน LoL อาจลดหลั่นลงมาเล็กน้อย ซึ่งนั่นช่วยยืนยันสิ่งที่ Cole รายงานออกมาเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม Cole ยังพูดถึงตลาดคอนโซลเล็กน้อยว่า เครื่องคอนโซลเจเนอเรชั่นใหม่อย่าง PS4 และ XBOX One จะช่วนให้ตลาดและผลประกอบการโดยรวมของเกมคอนโซลเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน