Kingdom Under Fire 2 : เผยรายละเอียดเมืองหลัก

แชร์เรื่องนี้:
Kingdom Under Fire 2 : เผยรายละเอียดเมืองหลัก

  

ครั้งก่อนผมได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ต่างๆ ในเกมนี้ไปแล้ว ซึ่งก็ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ต่างๆ ที่คนเล่นจะได้เจอกันในเกม Kingdom Under Fire 2 แต่ยังไม่ได้บอกละเอียดนัก ในครั้งนี้เราจะมาเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับเมืองต่างๆ ในเกมกันก่อนที่เราจะได้เข้าไปลองเล่นกันจริงๆ กันนะครับ

นครหลักของเกม "Accolade"

 หลังจากที่คนเล่นมีเลเวลถึง 8-10 แล้ว คนเล่นจะสามารถเดินทางไปยังเมือง "Accolade" ซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลักของเกมเลยก็ว่าได้ และในเมืองแห่งนี้เองก็เป็นฐานกำลังหลักของกองกำลังมนุษย์ที่มารวมตัวกันเพื่อต้านภัยอำนาจมืดในเกมอีกด้วย นั่นเพราะนครแห่งนี้เป็นเมืองหลวงของชนชาติมนุษย์ Ecclesia นั่นเอง 

เมือง Ecclesia

 Ecclesia คือ เชื้อชาติหนึ่งของมนุษย์ ถือได้ว่าเป็นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1,500 ปี ในอดีต พวกเขาต่างคิดว่าตนเองสำคัญที่สุด และเพื่อเป็นการรักษาความบริสุทธิ์ของชนเผ่าตนเอง จึงมีคำสั่งห้ามติดต่อกับชนเผ่าอื่นๆ นอกจากเผ่ามนุษย์ด้วยกัน จึงทำให้เผ่ามนุษย์ล้าหลังเรื่องของพลังเวทมนตร์และทรัพยากรในการพัฒนาเมือง

อาณาจักร Hironeiden

ก่อนสงครามจะเกิดขึ้น พวกเขาพยายามปรับทัศนคติและแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดขึ้นมา แต่สุดท้าย เมืองแห่งนี้ก็ถูกผนวกรวมกับอาณาจักร Hironeiden ซึ่งถือว่าเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดของชนเผ่ามนุษย์ ซึ่งทุกวันนี้พวกเขาพยายามยึดดินแดนทางตอนเหนือกลับคืนมา และกำจัดสิ่งชั่วร้ายในทวีปของ Bersia 

ทีนี้ กลับมาสู่เนื้อหาเกมปัจจุบัน ในเมืองแห่งนี้นอกจากจะเป็นพื้นที่เปิดให้ทุกชนเผ่า (หรือคนเล่นทุกคน) มาเจอกันได้แล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่คนเล่นสามารถอัพเกรดความสามารถของกองกำลังตนเอง รวมไปถึงการซื้อของต่างๆ ในเมืองนี้ได้อีกด้วย นับได้ว่าเป็นพื้นที่ในเมืองที่ปลอดภัยที่สุดเลยก็ว่าได้

เมือง Sunstruk

เมืองแห่งนี้ถูกขนานนามว่า "ความสูญเปล่า" ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของทวีป Bersia และถูกครอบครองโดยเหล่าออร์ค พื้นที่โดยรอบเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้ง และที่สามารถพบได้บ่อยมากที่สุดก็คือปีศาจต่างๆ และพวกออร์ค ซึ่งพวกนี้อยู่อาศัยในดินแดนแถบนี้เป็นเวลายาวนาน และถูกสั่งสอนให้ใช้วัฒนธรรมและเทคโนโลยีต่างๆ โดยพวกดาร์คเอลฟ์

เป้าหมายของทุกชนเผ่าที่ต้องการมาเมืองนี้ก็คือ วารุณ (นํ้าทิพย์) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานจำนวนมาก และนั่นทำให้เกิดการปะทะต่อสู้กับพวกออร์คและภูตผีกันหลายครั้งเพื่อครอบครองสิ่งนี้ บางครั้งพวกเขาก็ยอมรับการแลกเปลี่ยนของบุคคลภายนอก (ก็คือพวกเรา) ด้วย แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีความวุ่นวายจนยากที่จะเรียกหาสันติภาพในเมืองแห่งนี้ได้

คนเล่นที่จะเดินทางไปเมืองนี้ทุกคนจะต้องฝ่าฝูงมอนสเตอร์ไปให้ได้ก่อนถึงจะสามารถไปถึงเมืองนี้ได้ และเมืองแห่งนี้จะมีช่างตีเหล็กมาบริการตีเหล็กให้อีกด้วย รวมไปถึงระบบร้านค้าประมูลที่จะมีให้ในเมืองนี้ด้วย

 แน่นอนว่าในเมืองนี้จะมี โคลอสเชี่ยม ซึ่งคนเล่นจะสามารถท้าทายตนเองโดยการปะทะกับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ของพวกออร์ค ซึ่งให้อารมณ์คล้ายๆ กับเกมล่าแย้เลยละครับ และนอกจากนี้นอกเมืองเองก็ยังมีสัตว์ประหลาดหน้าตาแปลกๆ รวมไปถึงบอสตัวบักเอ้กอย่างที่เห็นในรูปนี้อีกด้วยละครับ

ข้อมูลเรื่องของพื้นที่ Field

ครั้งก่อน ได้เคยบอกไปใช่ไหมครับว่าในพื้นที่ Field นี้คนเล่นจะได้รับเควสต์ต่างๆ ทั้งในส่วนของการเก็บของต่างๆ รวมไปถึงการล่าสัตว์ต่างๆ เพื่อใช้ในการทำเควสต์ด้วย แต่พื้นที่ Field ในเกมนี้มันทำได้มากกว่านั้นครับ นั่นก็คือ การล่าหาวัตถุดิบต่างๆ ทั้งจากการไปกระทืบสัตว์หรือมอนสเตอร์ต่างๆ หรือการเก็บเกี่ยวเพื่อเอาไปผลิตเป็นไอเทมต่างๆ นั่นเอง

นอกจากพื้นที่ภารกิจต่างๆ ที่ได้เคยอธิบายไปแล้วนั้น ในพื้นที่ Field นั้นคนเล่นจะสามารถ PvP กับคนเล่นคนอื่นๆ ได้ด้วย และในการ PvP นี้สามารถทำได้เป็นสิบๆ คนเลยทีเดียว! คนไหนที่ชื่นชอบการ PvP กับคนอื่นๆ คิดว่าน่าจะรู้แล้วนะครับว่าจะต้องไปตบกันที่ไหนนะ หึๆ

การปรับแต่งตัวละครในเกม

แม้ว่าในเกมนี้จะมีให้เล่นแค่ 3 เผ่า ล็อกเพศ ซึ่งในช่วงทดสอบที่ผ่านมา คนเล่นคงจะปรับแต่งตัวละครได้ในระดับหนึ่ง ทำให้มองผ่านๆ ดูแล้วหน้าตาก็จะยังดูคล้ายๆ กัน แต่ข้อมูลล่าสุดที่ได้มาจากทีมผู้พัฒนาเลยก็คือ คนเล่นจะสามารถปรับแต่งตัวละครได้มากขึ้น

คนเล่นจะสามารถปรับแต่งตัวละครได้ละเอียดมาก ตั้งแต่ใบหน้า, ทรงผม, สีผิว, รอยสัก, รอยแผลเป็น และอื่นๆ ได้อย่างพิถีพิถัน เพื่อให้การแสดงสีหน้าทางอารมณ์ของตัวละครให้ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุดอีกด้วย โดยทางผู้พัฒนายังได้กล่าวอีกว่า พวกเขายังเตรียมที่จะเพิ่มเสื้อผ้า, รูปร่างของอาวุธใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในเกมเพื่อให้ตัวเกมมีความหลากหลายให้มากขึ้นเมื่อตัวเกมเปิดให้บริการไปแล้วอีกด้วยครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับข้อมูลที่ทางเรานำเสนอในครั้งนี้ ซึ่งน่าจะทำให้เพื่อนๆ รู้จักกับโลกของเกม Kingdom Under Fire 2 กันมากขึ้นนะครับ และคิดว่าหลายคนคงจะเริ่มอยากสัมผัสเกมนี้กันจริงๆ จังๆ แล้ว ขอให้อดใจรอไว้ก่อนครับ

จากนิตยสาร Weekly Online ฉบับที่ 558 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ