หลังจากที่มีข่าวคราวกันไปแล้วเกี่ยวกับ Battle X หรือที่ชื่อเดิมว่า Legend of Fighters ซึ่งเป็นเกมแนว action mmorpg ส่งตรงมาจากแดนกิมจิ สู่ประเทศไทยบ้านเราโดยค่าย Valofe เตรียมตัวเปิดเซิร์ฟไทยให้แฟนๆ ได้สัมผัสกันเร็วๆ นี้แล้ว ตอนนี้ผมก็มีโอกาสได้เข้าไปเทสต์ตัวเกม Battle X กันมาบ้าง ก็เลยจะถือโอกาสมาแนะนำ Battle X ในเบื้องต้นให้ได้รู้จักกันซักนิดก่อนเล่นจริงเร็วๆ นี้ครับ
ก่อนอื่นก็ขอเกริ่นเกี่ยวกับ Battle X กันซักนิดนะครับ สำหรับ Battle X ก็จะเป็นเกมแนว action mmorpg สไตล์อาเขตอันคุ้นเคย ด้วยรูปแบบการเล่นแบบ side scrolling ผสมผสานกับ action ที่เน้นการโจมตีแบบต่อเนื่องหรือ combo นั่นเองครับ
อาชีพทั้ง 4
ใน Battle X ก็จะมีอาชีพให้เลือกเล่นด้วยกันทั้งหมด 4 อาชีพ ได้แก่
- Aura Knight อัศวินในชุดเกราะอันสง่างาม มีอาวุธคู่ใจเป็นดาบขนาดใหญ่ที่สามารถโจมตีศัตรูได้อย่างกว้างขวาง โดดเด่นในเรื่องของความอึด ถึก ทุยเป็นที่ 1 มีความสามารถในการใช้โล่ห์เพื่อป้องกันการโจมตีจากด้านหน้า
- Master Templer นักสู้ผู้ผดุงความยุติธรรม มีอาวุธคู่ใจเป็นสนับมืออันแข็งแกร่ง มีความโดดเด่นในเรื่องของการโจมตีที่ต่อเนื่องและรุนแรงเอามากๆ แถมยังมีความสามารถในการโจมตีกลางอากาศอีกด้วย
- Fuuma Kunoichi นินจาหญิงสาว นักลอบสังหารในความเงียบที่มีอาวุธคู่ใจเป็นมีดเล็ก มีความโดดเด่นในเรื่องของความรวดเร็วทั้งในการเคลื่อนที่และโจมตี ทำให้เธอมีช่องว่างน้อยมากในการโดนโจมตีกลับ
- Land Trooper นักรบรับจ้างสุดแกร่ง ที่มีอาวุธคู่ใจเป็นปืน แต่ปืนที่ว่านี่พิเศษตรงที่มันติดมากับถุงมือของเขา ทำให้เขามีความยืดหยุ่นในการโจมตีทั้งระยะใกล้และไกล ถ้าเทียบว่า Templer เป็นมวยจีน Trooper ก็เป็นมวยสากลหล่ะนะ
Skill แบบใส่ Command และปรับแต่ง Skill ได้ด้วยตนเอง
ในแต่ละอาชีพก็จะมีสกิลที่แตกต่างกันไป ขอพูดในเรื่องของการอัพสกิลเลเวลก่อนละกันครับ สำหรับ skill point ที่ได้มานั้น เราจะไม่ได้เพียงแค่กดแล้วอัพความสามารถของสกิลเพียงอย่างเดียว เพราะตัวสกิลเองจะเปิดให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งสกิลได้บ้างนิดหน่อย โดยในหน้าต่างอัพสกิลจะมีให้อัพออพชั่นเสริมอย่างเช่น เพิ่มอัตราการเจาะเกราะ เพิ่มการ cancle เป็นต้น ทำให้สกิลของแต่ละคนจะมีความสามารถไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้จุดเด่นในเรื่องของสกิลก็คงจะไม่พ้นระบบ command skill ที่สกิลกดใช้ทุกสกิล สามารถใส่คำสั่งเพื่อให้ออกท่านั้นๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องกด shortcut เลย ทำให้การวางนิ้วและการใช้ shortcut ต่างๆ ทำได้สะดวกขึ้น และก็ยังมีระบบ cancle skill ในรูปแบบต่างๆ ที่จะทำให้ตัวละครสามารถใช้สกิลกันได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
Dungeon สุดโหด
การต่อสู้ใน Battle X หลักๆ ก็จะเป็นการลงดันเจี้ยนต่างๆ เพื่อต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์สุดโหด ซึ่งดันเจี้ยนของ Battle X ก็จะมีระดับความยากหลักๆ ด้วยกันอยู่ 3 ระดับ ก็คือ Normal , Hard , Hell โดยในแต่ละระดับก็จะมีระดับเลเวลขั้นต่ำและเลเวลแนะนำให้กับผู้เล่น และ ณ ตอนนี้ในแต่ละระดับของดันเจี้ยนเดียวกันก็ใช้ค่าลงดันเจี้ยน (ที่เรียกว่า VP) เท่ากันทั้งหมดอีกด้วย แต่นอกจากความยากใน 3 ระดับนี้แล้ว บางดันเจี้ยนก็จะมีความยากระดับ Insane ที่เรียกว่าโหดของแท้ ต่อให้เป็นดันเจี้ยนเดิม แต่ความยากก็ขึ้นมาราวๆ 10 เลเวลกันเลยทีเดียว การจะเข้าดันเจี้ยนระดับ Insane ได้ ก็ต้องมีตั๋วซะก่อนถึงจะลงได้นะครับ
ระบบอื่นๆ
สำหรับระบบอื่นๆ ของตัวเกมก็จะเป็นระบบที่เราสามารถพบได้ในเกมทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบ Guild , ระบบ Achievement สะสม , ระบบ Arena ต่อสู้ , ระบบ Auction House , ระบบการตีบวกไอเทม เป็นต้น โดยรวมแล้วก็มีระบบต่างๆ อยู่มากมายเลยทีเดียวครับ
สรุปโดยรวมเกม Battle X นั้น ก็ถือว่าเป็น action mmorpg ที่สนุกไม่น้อยเลยนะครับ ด้วยระบบการใช้สกิลที่สามารถใช้สกิลได้อย่างต่อเนื่อง จุใจ ผสมกับภาพกราฟิกและเอฟเฟคต์สวยๆ ภายในเกม ดันเจี้ยนสุดโหดที่ท้าทายเหล่าผู้เล่นในความยากขั้นเทพ งานนี้คอเกมแอคชั่นอาเขตไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สามารถติดตามข่าวสารเกมที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/BattleXOnline กันได้เลยจ้า