สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: 5 ตอนที่ 2 Uroboros

แชร์เรื่องนี้:
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: 5 ตอนที่ 2 Uroboros

ห่างหายไปสักพักนึง เพราะติดโปรเจ็กต์ใหญ่ทำให้ไม่ค่อยว่างมาเขียนนะครับ (ทั้งที่ตั้งใจจะทำให้จบในสิ้นเดือนที่แล้วแท้ๆ (เศร้า) สำหรับแฟนๆ RE ทั้งหลาย วันนี้คงเป็นวันดีที่เพื่อนๆ ได้โหลด Demo ของภาค Revelation มาลองเล่นกันนะครับ เล่นแล้วหากยังสงสัยก็มาลองอ่านเนื้อเรื่องย้อนหลังกันได้นะเออ >w<

เพื่อนๆ สามารถดูเนื้อเรื่องย้อนหลังได้ที่

      

Resident Evil 5
ตอนที่ 2 "Uroboros"

13 กุมภาพันธ์ ปี 2009 

เป็นเวลาผ่านไปเกือบ 3 ปี หลังจากการเสียชีวิตของ จิล วาเรนไทน์ คริสต์และหน่วย BSAA ของเขาได้รับแจ้งจาก เรย์นาร์ด ฟิชเชอร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองหน่วย BSAA สาขาแอฟริกาตะวันตก ถึงเรื่องราวจากบล็อคของชายคนหนึ่งที่มีนามว่า อดัม

อดัมเป็นชายวัยกลางคนที่มีอาชีพเป็นคนงานเหมืองและถูกส่งตัวไปเป็นคนงานเหมืองที่เขต คิจูจู ที่แอฟริกาตะวันตก เขาชอบเล่นอินเตอร์เนตและชอบเขียนบันทึกประจำวันของเขาลงในบล็อค ซึ่งในบล็อคมีเนื้อหาในทำนองว่า เขาได้รับมอบหมายให้มาเป็นคนงานเหมืองที่เขตคิจูจูแห่งนี้ จนวันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ที่น่าสงสัย เมื่อชาวเมืองเริ่มต่อต้านการมาของชาวต่างชาติอย่างพวกเขา

เหตุการณ์เริ่มเลวร้ายยิ่งขึ้น เมื่ออดัมไปกินเหล้าที่บาร์เมื่อวันที่ 15 มกราคม และพบชาวพื้นเมืองที่ใส่แว่นกันแดดสีดำ ออกมาพูดปลุกระดมให้ชาวพื้นเมืองต่อต้านชาวต่างชาติ จนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นในบาร์แห่งนั้น อดัมหนีออกมาได้โดยจูงมือหญิงสาวที่ชื่อ เอลิสัน ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ไปเที่ยวกับแฟนในบาร์ตอนนั้นพอดี ออกมาด้วย ทั้งสองหนีมาหลบซ่อนอยู่ในบ้านพักของอดัม ระหว่างที่ความวุ่นวายเริ่มกลายเป็นจลาจลขึ้น อดัมได้เห็นชาวพื้นเมืองรุมทำร้ายร่างกายชายคนหนึ่งและใช้ก้อนอะไรบางอย่างยัดใส่เข้าไปในปากของชายคนนั้น มันน่ากลัวมาก ทั้งหมดที่อดัมทำได้คือการขังตัวเองอยู่ในนั้น และโพสขอความช่วยเหลือผ่านบล็อคของตน

ด้วยเหตุการณ์นี้เอง เรย์นาร์ด จึงได้แจ้งไปยังศูนย์บัญชาการใหญ่ของ BSAA เพราะต้องสงสัยว่าการจลาจลนี้อาจจะมาจากการกลุ่มอาชญากรชีวภาพก็เป็นได้

 

20 กุมภาพันธ์ 2009

หน่วย BSAA สาขาแอฟริกาตะวันตกรุดหน้าเข้ามาสำรวจในคิจูจูก่อนจนแน่ใจแล้วว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้มีอาชญากรชีวภาพอยู่เบื้องหลังแน่นอน จึงทำการสร้างกำแพงเฉพาะกิจล้อมรอบเขต คิจูจูเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดออกไปยังเขตใกล้เีคียง และคอยตรึงกำลังเฝ้าจับตาตลอดเวลา และมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งสามารถเก็บภาพชายต่างชาติต้องสงสัย รูปร่างผอมเพรียว ปะปนอยู่ในกลุ่มของผู้ติดเชื้อ ชายคนนี้เ็ป็นคนปกติไม่มีอาการของการติดเชื้อแต่อย่างใด แถมสามารถปะปนอยู่ในกลุ่มชาวพื้นเมืองได้ โดยที่ไม่ถูกทำร้ายด้วย

 

4 มีนาคม ปี 2009

จากเหตุการณ์จลาจลเริ่มต้นเป็นเวลาผ่านไปเกือบเดือน ในระหว่างนี้เอลิสันได้พยายามออกตามหาแฟนหนุ่มของตน แต่ก็หาไม่พบ และในวันนี้เอง ความอดทนของเอลิสันก็หมดลง เธอได้แอบออกจากบ้านของอดัมไปในตอนกลางดึก เพราะเห็นว่าอดัมเอาแต่ขังตัวเองรอการช่วยเหลือที่มาไม่ถึงสักที เธอไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้ไปตลอดชีวิต

 

5 มีนาคม ปี 2009

และแล้วความช่วยเหลือของ BSAA ก็มาถึงคิจูจู โดย คริสต์ เรดฟิลด์ และมี เชว่า อโลม่่า เจ้าหน้าที่ BSAA ประจำศูนย์แอฟริกาตะวันตก รับหน้าที่เป็นบัดดี้ของคริสต์เพราะเป็นชาวพื้นเมืองและมีความรู้เรื่องสภาพภูมิประเทศในเขตนี้เป็นอย่างดี ซึ่งคนจากศูนย์บัญชาการใหญ่ มี คริสต์ เรดฟิลด์ เดินทางนำมาคนเดียวก่อน และ BSAA หน่วยเดลต้า จะตามมาทีหลัง

เชว่านำทางคริสต์ผ่านประตูกำแพงที่ถูกปิดเอาไว้เข้าไปด้านใน ซึ่งเมื่ือเข้ามาแล้ว ก็พบกับชาวคิจูจูที่มีท่าทางแปลกๆ และมองคริสต์ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ แต่หลังจากที่เดินผ่านชาวบ้านกลุ่มนี้ไปสักพัก เมื่อหันกลับมา ผู้คนในหมู่บ้านก็หายไปหมดเหลือเพียงความว่างเปล่าดั่งเมืองร้าง

คริสต์กับเชว่า เดินทางไปจนถึงร้านขายเนื้อ ซึ่งเป็นจุดนัดพบระหว่างทั้งสองคน กับ เรย์นาร์ด เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองที่แจ้งเหตุไปยังศูนย์บัญชาการใหญ่ เรย์นาร์ดรายงานความคืบหน้าว่า BSAA ศูนย์แอฟริกาตะวันตกได้ส่งทีมอัลฟ่าเข้ามาในพื้นที่นี้ก่อนแล้ว เพื่อไล่ตามหาชายปริศนาที่คาดว่าเป็นผู้ต้องสงสัย ทราบภายหลังว่าชายคนนั้นชื่อว่า ริคาโด้ เออร์วิง และพูดคุยเกี่ยวกับ "อุโรโบรอส" และ "วันโลกาวินาศ" คร่าวๆ

เมื่อผ่านมาจนถึงบ้านหลังหนึ่ง คริสต์และเชว่าก็ได้ยินเสียงร้องจึงพังประตูเข้าไป ก็พบว่า มีชาวบ้าน 2 คนกำลังรุมอัดชาวบ้านอีกคนอยู่ แถมถูกจับยัดก้อนประหลาดเข้าไปในปาก ทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่งและเข้าโจมตีใส่คริสต์กับเชว่า ทั้งสองคนจึงจำใจต้องวิสามัญอย่างช่วยไม่ได้ และเสียงปืนที่ดังขึ้นนี้เอง เป็นเหตุให้ชาวบ้านที่แแอบซุ่มอยู่ตามจุดต่างๆ ยกโขยงถืออาวุธครบมือออกมาไล่ล่าคริสต์กับเชว่า จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน

ทั้งสองคนเข้ามาหลบในบ้านหลังหนึ่ง ในบ้านหลังนี้ สามารถมองออกไปเห็นลานกลางหมู่บ้าน ซึ่งที่ลานนั้นกำลังมีการปราศัยบางอย่างอยู่ โดยชายสวมแว่นดำถือโทรโข่ง และมีชาวบ้านกำลังโห่ร้องกันอย่างสะใจ

เชว่าสังเกตุเห็นบนเวทีนั้น พบว่า เรย์นาร์ด ถูกชาวบ้านจับได้ และถูกประหารชีวิต โดย The Executioner และในขณะที่คริสต์และเชว่ากำลังตกใจกับสิ่งที่เห็น ทั้ง 2 คนก็ถูกพบตัวและโดนชาวบ้านรุมไล่ล่าอีกจนได้ แต่ทั้งสองคนไม่สามารถหนีออกไปได้ เพราะประตูทางออกถูกปิดเอาไว้แล้ว จึงทำได้แค่ป้องกันตัว คริสต์จึงติดต่อไปยังเคิร์กพลขับเฮลิคอปเตอร์ ที่แสตนบายอยู่ให้มาช่วยเหลือ เขาจึงขับเฮลิคอปเตอร์มายิงประตูเปิดทางให้

คริสต์และเชว่าหนีออกมาจากลานนั้นได้ ก็พบกับหญิงสาวชุดสีดำ วิ่งมาเกาะขอบระเบียงชั้นที่ 2 ของบ้านหลังหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือจากคริสต์และเชว่า ทั้งสองคนจึงขึ้นไปช่วย เธอคือ เอลิสัน ที่หายสาบสูญไปในคืนวันที่ 4 มีนาคมนั่นเอง แแต่อาการเธอตอนนี้ดูแปลกๆ คริสต์จึงรีบไปพยุงไว้

แต่กลายเป็นว่า เอลิสันฉีกปากออกมาพยายามจะกลืนกินคริสต์ เชว่าจึงรีบยิงช่วยเหลือทันที บัดนี้สาวสวย เอลิสััน ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เธอกลายเป็นเพียงแค่ "ต้นร่าง" ของปรสิตที่เคยอาละวาดแพร่เชื้อในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ประเทศสเปนมาก่อนเมื่อปี 2004 ใช่แล้ว... มันคือปรสิต "พลาก้า" ตามที่คริสต์เคยได้รับแจ้งข้อมูลมาจากชายที่ชื่อว่าลีออน สก๊อต เคเนดี้ คริสต์และเชว่าจึงต้องจำใจฆ่าเอลิสันทิ้งไปอีกคน

หลังจากนั้น แดน ดีชัันท์ หัวหน้าทีมอัลฟ่า หน่วย BSAA ศูนย์แอฟริกาตะวันตก ก็ติดต่อมา แจ้งว่าพบตัวเออร์วิงแล้ว แต่พวกเขากำลังถูก B.O.W.s. ที่เออร์วิงปล่อยออกมาเล่นงาน แล้วสัญญาณก็ขาดหายไป คริสต์และจิลจึงรีบมุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุในทันที แต่พอมาถึงแล้ว ก็พบว่าหน่วยอัลฟ้าถูก B.O.W.s. ปริศนา ฆ่าตายจนเกลี้ยง เลือดนอง สภาพดูไม่ได้กันสักคน มีเพียงดีชันท์หัวหน้าทีมอัลฟ้าที่สภาพร่อแร่เต็มที เขาเตือนทั้งสองคนเรื่องของเออร์วิง และมอบฮาร์ดดิสก์ที่เขาดาวน์โหลดข้อมูลการค้าอาวุธของเออร์วิงให้กับคริสต์ก่อนที่จะสิ้นใจตาย

หลังจากจัดการมันได้ คริสต์และเชว่าก็รีบตามเออร์วิงมายังโกดังที่ถูกใช้เป็นแคมป์ของทาง BSAA แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะเออร์วิงขับรถหนีออกไป พร้อมกับบุคคลลึกลับใส่หน้ากากคนหนึ่ง คริสต์นำข้อมูลที่ได้จากดีชันท์ ส่งไปยังศูนย์บัญชาการสาขาแอฟริกาตะวันตกเพื่อตรวจสอบข้อมูล ซึ่งทางศูนย์บัญชา่การฯ ได้สั่งให้คริสต์และเชว่าติดตามเออร์วิงต่อไป ซึ่งตอนนี้ทราบมาว่าเออร์วิงกำลังเดินทางไปยังเขตเหมือง

คริสต์โวยวายกลับไปว่าตอนนี้อัลฟ้าทีมตายหมดแล้ว และเหลือเพียงแค่เขาสองคนเท่านั้น ภารกิจนี้มันอันตรายเกินไป แต่ทางศูนย์บัญชาการก็ตอบกลับมาว่า พวกเขาไม่มีทางเลือก เป้าหมายในครั้งนี้ต้องตามจับเออร์วิงให้ได้จึงต้องไม่ควรให้คลาดกัันไปมากกว่านี้ แล้วเขาจะส่งทีมเดลต้าตามมาอีกที

คริสต์และเชว่าพูดอะไรไม่ได้ เพราะสิ่งที่ศูนย์บัญชาการพูดมามันก็มีเหตุผล พวกเขาไม่มีเเวลาเอื่อยเฉื่อยอยู่แบบนี้อีกแล้ว เพราะต้องตามล่าเออร์วิงต่อไปให้ถึงที่สุด

เพื่อนๆ สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Resident Evil / Biohazard ได้ที่แฟนเพจ
http://www.facebook.com/ThBiohazard

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ