เอาล่ะครับ มาเข้าสู่เนื้อเรื่องของภาคที่ 5 กันต่อเลยโดยตอนนี้ผมนำเนื้อหาจาก DLC เนื้อเรื่องตอน Lost in Nightmare มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันต่อนะครับ แอบใบ้ให้ว่าภายในมีเนื้อหาพิเศษเกี่ยวกับเวสเกอร์ด้วยล่ะครับ ^^
เพื่อนๆ สามารถดูเนื้อเรื่องย้อนหลังได้ที่
ตอนที่ 1 หลงทางในฝันร้าย
เดือนกันยายนปี 2006 ไม่ระบุวันที่
เป็นเวลาผ่านไป 8 ปี หลังจากเหตุการณ์สยองขวัญสั่นประสาท ที่เกิดขึ้นในเมืองแรคคูนเมื่อปี 1996 บริษัท Umbrella ล่มสลายหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Umbrella อย่าง ออสเวล อี สเปนเซอร์ หลังจากทราบข่าวว่าทางรัฐบาลสั่งยิงนิวเคลียร์ถล่มเมืองแรคคูนจนทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง ก็มอบหมายตำแหน่งผู้บริหารให้แก่ เซอร์กี วลาดิเมียร์ เจ้าหน้าที่คนสนิท แล้วตัวเองก็ออกเดินทางไปหลบซ่อนยังที่ต่างๆ จนสุดท้ายก็มากบดานอยู่ในคฤหาสน์ลึกลับหลังหนึ่ง ในทวีปยุโรป
คริสต์ และ จิล หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจที่เรือ Queen Zenobia และได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการของหน่วย BSAA เต็มตัว ก็ได้รับข้อมูลแจ้งเข้ามาว่า ค้นพบสถานที่กบดานของสเปนเซอร์แล้ว ทั้งสองคนจึงรีบรุดเดินทางไปยังตำแหน่งที่แจ้งมาทันที เพื่อทำการจับกุมตัวและสืบสาวข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงข้อมูลของเวสเกอร์ด้วย
เมื่อมาถึงคฤหาสน์ จิลก็ใช้กุญแจผีไขล็อคที่ประตูใหญ่เข้าไป พร้อมกับคริสต์ ซึ่งเมื่อเข้ามาข้างในแล้วก็พบว่า บอดี้การ์ดของสเปนเซอร์ในคฤหาสน์นี้ตายเรียบทุกคนโดยฝีมือของใครสักคนหนึ่ง ที่นี่ืทำให้คริสต์และจิลนึกถึงเหตุการณ์ในคฤหาสน์ลึกลับบนเทือกเขาอาร์คเลย์ขึ้นมา เพราะรูปแบบการสร้างคฤหาสน์หลังนี้ ไม่ต่างจากที่นั่นมากเท่าไรนัก
ในขณะเดียวกัน ณ.ออฟฟิศของสเปนเซอร์ เขากำลังพูดคุยอยู่กับ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ซึ่งทางเวสเกอร์เองก็เพิ่งตามหาสเปนเซอร์เจอเช่นกัน แต่ทั้งหมดนั้นเป็นแผนการของสเปนเซอร์อยู่ก่อนแล้ว ที่ปล่อยให้แหล่งกบดานของตนรั่วไหลเพราะเตรียมใจเอาไว้แล้ว ทำให้การมาของเวสเกอร์ไม่ทำให้สเปนเซอร์แปลกใจเท่าไรนัก
ในการพูดคุยกันครั้งนี้ สเปนเซอร์เปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังของแผนการที่เขาสร้างมาทั้งหมด ว่าการผลิต B.O.W.s. เพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพนั้นเป็นเพียงแค่แผนการตื้นๆ เท่านั้น เพราะเขายังมีแผนการใหญ่ที่แม้แต่มาร์คัส และเอ็ดเวิร์ด ที่ร่วมก่อตั้ง Umbrella ขึ้นมาไม่เคยรู้เลยอยู่ด้วย
แผนการนั้นคือการทำให้ตนเองเป็นเทพเจ้าโดยการพัฒนาสายพันธุ์ของมนุษยชาติด้วยไวรัส ซึ่งเขาต้องการ 3 สิ่งในการทำให้แผนการนี้สำเร็จด้วยดีคือ
- ไวรัสโปรเจนิสเตอร์ ที่เป็นไวรัสพื้นฐาน
- บริษัท Umbrella สำหรับเงินทุน
- และบุคคลที่จะร่วมอุดมการณ์นี้เมื่อการพัฒนาสายพันธุ์มนุษยชาติสำเร็จ ซึ่งคนนั้นก็คือ อัลเบิร์ต เวสเกอร์
สเปนเซอร์ เปิดเผยความลับเกี่ยวกับเวสเกอร์ว่า ที่จริงแล้ว "เวสเกอร์" คือโปรเจ็กต์ลับในการพัฒนาสายพันธุ์มนุษยชาติของเขา เกิดจาการนำตัวเด็กที่มีเชื้อสายที่ดีจากทั่วโลกนับร้อยคน โดยเด็กทุกคนจะถูกตั้งนามสกุลใหม่ว่า "เวสเกอร์" เด็กทั้งหมดจะถูกส่งไปยังสถานฝึกฝนที่ทาง Umbrella จัดไว้ให้จนเข้าสู่ช่วงต้นของวัยรุ่น เด็กทุกคนจะได้รับไวรัสตัวต้นแบบจากสเปนเซอร์ ซึ่งเวสเกอร์เองก็ได้รับจาก ด.ร.วิลเลียม มาเช่นกัน แต่ทว่าเด็กเหล่านั้นถูกไวรัสเล่นงานล้มตายไปจนหมด เหลือเพียงแค่ "อัลเบิร์ต" เท่านั้นที่ยังคงมีชีวิตอยู่ใน"ตอนนี้" และสเปนเซอร์ต้องการให้เวสเกอร์เข้าร่วมอุดมการณ์ในการทำให้ตนก้าวขึ้นเป็นพระเจ้าของมวลมนุษยชาติ
เมื่อเวสเกอร์ได้ยินดังนั้น เขาจึงเดินไปที่สเปนเซอร์ และใช้พลังเหนือมนุษย์ของเขา ในการเสียบมือเปล่าๆ ทะลุร่างของสเปนเซอร์ พร้อมกระซิบข้างๆ หูว่า "สิทธิ์ในการเป็นพระเจ้านั้นน่ะ ตอนนี้มันเป็นของฉันแล้ว"
ทางด้านคริสต์และจิลหลังจากที่แก้ปริศนาต่างๆ นานา ในคฤหาสน์ ทั้งคู่ก็เดินทางเ้ข้ามาถึงในออฟฟิศของสเปนเซอร์จนได้ ซึ่งเมื่อทั้งคู่เข้ามาแล้ว ก็พบกับร่างไร้วิญญาณของสเปนเซอร์ และ เวสเกอร์ ที่ตัวเปรอะเลือดเต็มไปหมด
บรรยากาศอึมครึมเกิดขึ้นระหว่างทั้ง 3 คน แต่แล้วก็เป็นคริสต์ฺและจิลที่เปิดฉากยิงใส่เวสเกอร์ก่อน เวสเกอร์ที่ตั้งท่ีารอไว้อยู่แล้ว ก็พลิกตัวหลบกระสุนที่ยิงเข้าใส่ (จนผมเซฟ Screenshot ภาพแทบไม่ทัน) แล้วพุ่งเข้าหาคริสต์ จับบิดแขนจนปืนหลุดจากมือ แล้วต่อยเสยปลายคางจนคริสต์กระเด็นออกไป
จิลพยายามยิงช่วยเหลือ แต่ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ทำให้ยิงยังไงก็ไม่โดน แถมจิลยังถูกเวสเกอร์จับบีบคอฟาดกับผนังจนหายใจไม่ออก คริสต์ที่ลุกขึ้นมาได้ก็ไม่รอช้า วิ่งเข้าไปพยายามต่อยใส่เวสเกอร์ แต่ก็โดนบล็อคไว้ได้หมด
จิลที่หลุดจากการจับบีบคอของเวสเกอร์ได้ ก็คว้าปืนขึ้นมายิงใส่เวสเกอร์อีกครั้ง แต่เวสเกอร์ไหวตัวทัน ใช้ความเร็วหลบ พร้อมกระแทกคริสต์กระเด็นออกไป จิลยิงจนกระสุนหมด ก็รีบควักมีดหวังจะแทงใส่เวสเกอร์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แถมโดนเวสเกอร์ใช้ฝ่ามืดอัดกระแทก จนกระเด็นไปกระแทกชั้นหนังสือสุดขอบห้อง
คริสลุกขึ้นมาโจมตีเวสเกอร์อีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล แถมสู้แรงไม่ได้ จนโดนเวสเกอร์จับบีบคอตัวลอย กระแทกกับโต๊ะเต็มแรง พร้อมลากเหวี่ยงกระเด็นไปถึงบริเวณระเบียงหน้าต่างของห้อง
คริสต์หมดแรงทรุดลงกับพื้น และพยายามลุกขึ้นแต่ก็ไม่ไหว เวสเกอร์ได้โอกาสจึงเดินมาใช้มือขวาบีบคอคริสต์จนตัวลอย
และในขณะที่เวสเกอร์กำลังเตรียมใช้มือซ้ายเสียบทะลุร่างคริสต์เหมือนที่ทำกับสเปนเซอร์ จิลก็พุ่งมารวบเอวของเวสเกอร์ไว้ทะลุออกนอกหน้าต่างคฤหาสต์ตกเหวลงไปในทะเล คริสต์ได้แต่มองจิลและเวสเกอร์ตกลงไปโดยที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรจิลได้เลย
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ คริสต์ทุ่มกำลังเต็มที่ ให้หน่วย BSAA ออกตามหาร่างของจิลตั้งแต่จุดเกิดเหตุ และบริเวณโดยรอบ ซึ่งใช้เวลาไปถึง 3 เดือน แต่ก็ไม่ค้นพบร่องรอยใดๆ จึงทำการสรุปว่า จิล วาเรนไทน์ เสียชีวิตในวันที่ 23 พฤศจิกายน ปี 2006
นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา คริสต์ก็เฝ้าแต่โทษตัวเอง พร้อมเปลี่ยนนิสัยจนกลายเป็นคนเย็นชา แต่เขาก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าจิลยังไม่ตาย และเฝ้ารอวันที่จะได้พบกับจิล... อีกครั้ง...
ช่วงพิเศษ "เวสเกอร์อีกคนหนึ่ง"
ในบรรดาเด็กทั้งหมดที่ถูกสเปนเซอร์คัดเลือกมา นอกจาก "อัลเบิร์ต" แล้ว ยังมีเวสเกอร์อีกคนหนึ่งที่ชื่อวา่ "อเล็กซ์" ที่ไม่เสียชีวิตด้วยไวรัส และในขณะที่ "อัลเบิร์ต" ทำงานให้กับ Umbrella ในฉากหน้า แต่ "อเล็กซ์" ทำงานให้กับสเปนเซอร์อย่างลับๆ ในฐานะนักวิจัยคนสนิทของสเปนเซอร์ โดยหน้าที่ของเขาคือวิจัยไวรัสเพื่อทำให้สเปนเซอร์เป็นอมตะและเป็นพระเจ้าโดยสมบูรณ์ แต่เมื่ออเล็กซ์ทำการวิจัยเสร็จสิ้นแล้ว เขากลับหักหลังสเปนเซอร์โดยการนำผลการทดลองทั้งหมดหลบหนีหายไป
ในปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ว่าอเล็กซ์อยู่ที่ไหน มีสถานะเป็นอย่างไร ทำให่สเปนเซอร์บอกว่ามีเพียงอัลเบิร์ตคนเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ "ในตอนนี้"...
เพื่อนๆ สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Resident Evil / Biohazard ได้ที่แฟนเพจ http://www.facebook.com/ThBiohazard