สำหรับบทสรุปนี้เป็นส่วนที่ 2 ของเกม DMC Devil May Cry ผู้เล่นสามารถอ่านข้อมูลส่วนแรกที่ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ครับ
Walkthrough Part II - www.online-station.net/news/walkthrough/32
Mission 9 - Devil Inside
ฟีนีสใช้ตาจักรกลของเขาจัดวางพื้นที่ในมิติ Limbo ให้ใหม่จนเป็นเส้นทางที่ทำให้ดันเต้เข้าไปด้านในต่อได้ กระโดดโหนไปตามทางเรื่อยๆ มาจนถึงซากรูปปั้นที่ลอยอยู่ ฟีนีสบอกว่านั่นคือ Assiel ซึ่งเป็น Nephilim เหมือนดันเต้ สาเหตุที่ Nephilim ถูกไล่ล่าสังหารนั้นเพราะเป็นเผ่าพันธุ์ที่สามอันเกิดจากเทพและปีศาจ ทำให้มีพลังทั้ง 2 ขั้วอยู่ในตัว สามารถข้ามมิติได้อย่างอิสระ นั่นจึงเป็นพลังที่น่าหวาดกลัว Assiel เองก็ถูกจองจำไว้ที่นี่เช่นกัน และเธอก็ถือกุญแจที่จะปลดปล่อยพลังปีศาจในตัวดันเต้ สิ่งที่ดันเต้ต้องไปเอาคือกุญแจของ Assiel ที่ด้านบน กระโดดไปตามทางเรื่อยๆ จะพบปีศาจตัวใหม่ Witch
Witch แม่มดจอมซัพพอร์ต มันสามารถสร้างบาเรียให้กับตนเองและศัตรูตัวอื่นๆ ได้ โดยการทําลายบาเรียของมันให้แตกนั้นต้องใช้อาวุธโหมด Angel เท่านั้น เมื่อทําลายได้แล้วจึงจะสามารถโจมตีร่างของมันได้
หลังจากกําจัดแล้วก็กระโดดโหนตามทางไปเรื่อยๆ จนถึงด้านบนสุดก็จะได้กุญแจของ Assiel และเมื่อดันเต้สัมผัสกับมันจิตของดันเต้ก็ได้หลุดไปใน Dream World โลกแห่งความฝันอีกครั้ง
เมื่อมาถึงให้ไปตรงกลางทําลายหินที่ตรึงโซ่ไว้ด้วยขวาน Arbiter เมื่อโซ่ถูกตัดออกแล้วรูปปั้นก็เป็นอิสระ และมันจะเปล่งพลังออกมาทันที พลังที่ดันเต้ได้มาคือ Devil Trigger
Devil Trigger คือการแปลงร่างปีศาจ โดยเมื่อใช้แล้วศัตรูในฉากทั้งหมดจะลอยขึ้นกลางอากาศ แล้วเราสามารถเข้าโจมตีมันได้ฟรีๆ จนกว่าหลอดพลังจะหมด โดยการใช้พลัง Devil Trigger พลังโจมตีเราจะสูงขึ้นอย่างมาก คะแนนที่ได้ก็จะเพิ่มมากขึ้น และยังสามารถโจมตีศัตรูประเภทแพ้ทาง สีแดง สีฟ้า ได้โดยไม่ต้องใช้อาวุธแบบเดียวกันอีกด้วย ไม่มีข้อแม้ และถ้าเลือดเราลดจะสามารถพื้นฟูเลือดขึ้นให้เรื่อยๆ อีกด้วย
หลังจากได้พลัง Devil Trigger มาแล้ว เมื่อกลับมาหาฟีนีส เขาจะเตือนดันเต้ถึงเรื่องการใช้พลังปีศาจที่หลับใหลอยู่ในตัว ซึ่งดันเต้ไม่สนใจและบอกว่าเขาต้องการเพียงกำจัดมันดัสให้ได้เท่านั้น ฟีนีสจึงตั้งคำถามให้ดันเต้ขบคิดว่า "ถ้ามันดัสถูกกำจัด ใครเล่าจะมาแทนที่เขา"
------------------------------------
Mission 10 - Bad News
เมื่อฟีนีสรู้ว่าดันเต้ต้องการกำจัดมันดัส ซึ่งเขาเองก็ต้องการเช่นนั้น จึงบอกจุดอ่อนของมันดัสให้กับดันเต้ ซึ่งก็คือลูกในครรภ์ของลิลิธ ภรรยาของมันดัส การกำจัดทายาทจะทำให้มันดัสเจ็บแค้นมากที่สุด พร้อมกับเตือนดันเต้ถึงพลังร้ายกาจอันไร้ขีดกำจัดของมันดัสไว้ด้วย ฟีนีสช่วยเปิดทางให้ดันเต้เดินทางต่อไปสู่หอคอยเพื่อกำจัด Bob Barbas
ระหว่างทางต้องคอยหลบแสงที่เข้ามาโจมตีเป็นระยะๆ คอยกระโดดโหนข้ามไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ Raptor News Network < 020.jpg > เมื่อเข้ามาข้างในสุดก็จะพบจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์ที่ Bob Barmas ผู้ประกาศข่าวคนสําคัญของ Raptor กำลังรายงานข่าวบิดเบือนไปเรื่อยๆ ตามคำสั่งของมันดัส ดันเต้จึงเข้าไปจัดการมันทันที
Boss - Bob Barbas
มันจะเข้ามาสู้ด้วยรูปแบบของโฮโลแกรม โดยในตอนแรกนั้นเราจะไม่สามารถเข้าไปโจมตีมันได้ตรงๆ ต้องใช้หมัด Eryx ต่อยตรงพื้นที่เป็นสีจุดสีแดงๆ ซะก่อน ต่อยให้ครบทุกจุดมันก็จะหยุดนิ่ง ตอนนี้จะสามารถเข้าไปโจมตีมันได้แล้ว เมื่อเลือดหมดหลอดจะสามารถเข้าไปในดวงตาของมันได้อีก เข้าไปแล้วจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจัดการกับศัตรูในนั้นไปเรื่อยๆ โดยระหว่างสู้มันก็กล่าวหาดันเต้ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายที่มีประวัติการใช้ความรุนแรงมาตั้งแต่อายุเพียง 8 ปี
เขาสังหารหญิงชราหัวหน้าพยาบาลที่สถานสงเคราะห์เด็ก ต่อมาในช่วงอายุ 11-15 ปี ก็หนีออกมาจากสถานกักกัน อายุ 16-17 ปี ก็ไปเข้าแก๊งยาเสพย์ติด หรือแม้กระทั่งก่ออาชญากรรม ฆ่าคนตายไปมากมาย และยังรายงานข่าวสด ในเนื้อข่าวบอกว่า พบฐานที่ตั้งของ The Order แล้ว และตอนนี้หน่วย S.W.A.T.ล้อมเอาไว้หมดแล้ว และได้รับการยืนยันว่ามีผู้ก่อการร้าย 2 คนดังภาพ (รูปเวอร์จิลและแคท) ไม่ต้องสนใจที่มันพล่าม จัดการมันซะ หลังกําจัดมันได้เสร็จภาพโฮโลแกรมที่สร้างขึ้นก็หายไปก็เหลือแต่ตัวจริงของมัน ดันเต้ยิงปืนใส่ Bob Barbas จนมันตายคาที่ หลังจากกําจัด Bob Barbas จะได้อาวุธชนิดใหม่จากมันมา กงจักร Aquila
กงจักร Aquila อาวุธโหมด Angel ซึ่งคราวนี้สามารถสลับเปลี่ยนกับเคียว Osiris ไปมาได้แล้ว Aquila ถึงจะพลังโจมตีเบาแต่ได้ความรัวและไวเป็นอย่างมากมาทดแทน สามารถเขวี้ยงจักรแล้วดึงศัตรูหลายๆ ตัวมาโจมตีในคราวเดียวได้ และยังสามารถใช้ทำลายกําแพงสีฟ้าในจุดต่างๆ ที่อยู่ไกลๆ ได้อีกด้วย
การล่มสลายของ Raptor News Network ทําให้มันดัสที่เฝ้ามองดูอยู่นั้นโมโหและหงุดหงิดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
------------------------------------
Mission 11 - The Order
ดันเต้รีบมาที่ฐานลับของ The Order เมื่อไปถึงดันเต้ก็พบว่าฐานที่มั่นถูกหน่วย S.W.A.T. ล้อมเอาไว้แล้ว จึงตั้งใจจะลอบเข้าไปทางด้านหลัง แต่ก็ถูกลากเข้าสู่ Limbo อีกครั้งแล้วจะพบปีศาจตัวใหม่ Butcher
Butcher หุ่นยักษ์มือใบมีดคู่ พยายามหลบหลีกใบมีดของมันเข้าไปโจมตีให้ได้ จุดอ่อนของมันจะอยู่ที่ท้อง โดยเมื่อมันใกล้ตายมันจะระเบิดตัวเองทิ้ง ให้หนีจากรัศมีแรงระเบิดของมันด้วย เมื่อกําจัดศัตรูหมดแล้วไปต่อด้านบน จะพบประตูกําแพงสีฟ้าที่อยู่ค่อนข้างไกล โดยต้องใช้กงจักร Aquila ของเล่นใหม่ที่ได้มา ใช้ท่า Round Trip ปาไปทําลายมันซะ จากนั้นกระโดดเข้าไปที่ซากตึกข้างในไปตามทางเรื่อยๆ
ดันเต้ลุยเข้าไปด้านในฐานลับพร้อมๆ กับหน่วย S.W.A.T. ที่กำลังบุกเข้ามาเพื่อจับตัวหัวหน้าขององค์กร The Order ก็คือเวอร์จิล พวกทหารจัดการระเบิดประตูไปทีละประตู ดันเต้ต้องการไปถึงตัวแคทและเวอร์จิลก่อนพวกทหาร ดันเต้ผ่านห้องต่างๆ ในโลก Limbo ไปเรื่อยๆ จะพบศัตรูตัวใหม่ Drekavac
Drekavac จะใช้ดาบคู่เป็นอาวุธ มีความคล่องตัวสูง และสามารถวาร์ปหายตัวมาโจมตีได้ โจมตีมันไปสักพักมันจะหนีหายไปเอง เดินไปข้างในต่อตามทางจะพบแคทที่หลบซ่อนตัวอยู่
ดันเต้เข้าไปหาแคทที่กำลังตื่นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และถามว่าแล้วเวอร์จิลอยู่ไหน ซึ่งแคทเองก็ไม่รู้ตอบได้แค่ว่าอาจจะอยู่ใน Server Room ดันเต้จึงถามต่อว่าเขาจะช่วยยังไงได้บ้างจากโลกนี้ แคทจึงนำทางดันเต้ไป
------------------------------------
Mission 12 - Under Siege
แคทนำทางมาถึงกำแพงที่คาดว่าจะเป็นอุโมงค์เก่าที่น่าจะหนีออกไปได้ แคทใช้สเปรย์สร้างรอยแยกของมิติขึ้น เพื่อให้ดันเต้ใช้อาวุธทำลายกำแพงจากมิติ Limbo ได้ ทั้งคู่หนีไปตามทางลับเรื่อยๆ ระหว่างทางพวกหน่วย S.W.A.T. ก็ฆ่าคนในองค์กรทุกคนที่พบเจอ ช่วงนี้ผมต้องคอยคุ้มกันแคทตลอดทาง แคทหนีมาจนถึง Server Room ซึ่งจะพบเวอร์จิลที่โดนปีศาจขังไว้ด้วยวงเวทให้เขาติดอยู่ในมิติ Limbo เช่นกัน รีบเข้าไปช่วยเวอร์จิลในทันที
จัดการปีศาจชุดแรกที่โผล่ออกมาให้หมด ดันเต้ต้องการพาแคทหนีออกไปให้เร็วที่สุดที่ทางออกฉุกเฉิน แต่เวอร์จิลบอกว่า เราต้องจัดการกับข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ก่อน จะให้พวกมันได้ข้อมูลไปไม่ได้ แผนการทั้งหมดที่ทำมาก็จะสูญเปล่า ดันเต้สั่งให้แคทเปิดระบบทำลายตัวเองซะ และเขาจะจัดการจากมิติ Limbo เอง ขณะเดียวกันปีศาจก็กำลังจะบุกเข้ามา ดันเต้จึงต้องถ่วงเวลาไว้
จัดการศัตรูที่โผล่ออกมาไปเรื่อยๆ เมื่อหมดชุดแรกเวอร์จิลก็จะส่งปืน Revenant ให้ดันเต้เอาไว้ใช้ต้านศัตรูต่อเพื่อถ่วงเวลา
ปืน Revenant ปืนช็อตกันมีพลังโจมตีสูงในระยะประชิด ซึ่งคราวนี้สามารถสลับเปลี่ยนกับปืน Ebony & Ivory ไปมาได้แล้ว
เมื่อเวอร์จิลจัดการกับข้อมูลเสร็จ พวกทหารในโลกจริงก็กำลังจะระเบิดประตูเข้ามา พวกทหารยิงแคทจนเธอล้มลงและลากตัวเธอออกไป ดันเต้ทำได้เพียงมองดูเท่านั้น คอมพิวเตอร์ถึงเวลาทำลายตัวเอง ดันเต้จึงรีบหนีออกจากมิติ Limbo ไปพร้อมกับเวอร์จิล
------------------------------------
Mission 13 - Devil's Dalliance
มันดัสส่งวิดีโอภาพแคทที่โดนจับตัวไปทรมานจนบอบชํ้ามาหาเวอร์จิล บังคับให้แคทยอมบอกชื่อหัวหน้าองค์กร The Order ที่บังอาจออกมาต่อต้านปีศาจ จนเธอยอมบอกออกไปว่าชื่อ เวอร์จิล จากนั้นมันดัสก็เริ่มต่อรองกับเวอร์จิล โดยให้เวอร์จิลแลกเปลี่ยนตัวประกันกัน ส่งตัว Nephilim ให้มันดัส และมันดัสจะส่งแคทคืนมา ดันเต้จึงบอกจุดอ่อนของมันดัสตามที่ฟีนีสบอกไว้ว่าภรรยาของมันดัสกำลังตั้งครรภ์ทายาทอยู่ เราควรจะจับลิลิธมาเพื่อแลกตัวกับแคทแทน โดยเวอร์จิลทำการหาที่อยู่ของลิลิธจนพบ ตามข้อมูลที่เวอร์จิลสืบมา ลิลิธเปิดไนท์คลับที่ชื่อ Devil's Dalliance พวกปีศาจสามารถเข้าได้อย่างอิสระ ลิลิธจะเปลี่ยนเหยื่อของเธอให้เป็นปีศาจไร้วิญญาณเพื่อใช้งาน และเธอจะมาที่ไนท์คลับด้วยในคืนนี้ ดันเต้จึงรีบเดินทางไปที่นั่นทันที
ดันเต้มุ่งหน้าสู่ Devil's Dalliance เขากำลังจะเดินเข้าไปข้างใน แต่ก็ต้องโดนการ์ดห้ามเอาไว้เพราะไม่มีรายชื่ออยู่ในลิสต์สมาชิก ดันเต้ไม่สนใจที่มันพล่ามก็สอยปลายคางการ์ดร่วงลงไปนอนพร้อมเซ็นชื่อเข้างานซะหน่อย "Fuck You" เมื่อเข้ามาข้างใน ลิลิธก็ได้สังเกตเห็นว่าดันเต้นั้นได้เข้ามาอยู่ในสถานที่แห่งนี้แล้ว เธอเปลี่ยนไนท์คลับเข้าสู่มิติ Limbo ทันที เพราะถ้าเธอฆ่าดันเต้ได้มันดัสคงต้องดีใจอย่างแน่นอน จัดการพวกศัตรูให้หมด แล้วลิลิธจะบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะสู้กัน ก่อนหน้านั้นจะให้ดันเต้มาเล่นเกมโชว์กับหล่อนซะก่อน
ต้อนรับเข้าสู่ Devil has Talent โดยในพื้นที่ทางเดินนั้น ถ้าเป็นสีแดงต้องใช้โหมด Demon ในการเดิน สีฟ้าใช้โหมด Angel ในการเดิน เมื่อถึงจุดที่สู้กับศัตรูพื้นที่ยืนอยู่จะสลับสีเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ต้องสลับอาวุธให้ถูกในการยืนอยู่ที่พื้น ไม่เช่นนั้นจะเสียเลือด แสงสีของไนท์คลับนั้นค่อนข้างแสบทรวงมาก ทรมานสายตายิ่งนัก ทะลวงไปตามทางเรื่อยๆ จะมีทั้งหมด 5 ด่านทดสอบ เมื่อมาสุดทางจะเข้าสู่ด่านที่ 6 โดยลิลิธจะส่งปีศาจ 2 ตัวออกมาจัดการ Ghost Rage ตัวสีฟ้า ให้ใช้อาวุธโหมด Angel จัดการ ส่วน Blood Rage ตัวสีแดง ให้ใช้อาวุธโหมด Demon จัดการเท่านั้น อย่างอื่นโจมตีไม่เข้า เมื่อเก็บพวกมันเสร็จก็ถึงคิวลิลิธต้องออกโรงเองแล้ว ตาแกแล้วเจ้าบาร์บี้...
------------------------------------
Mission 14 - Last Dance
ลิลิธได้ลงมาจัดการสู้กับดันเต้ด้วยตัวเอง โดยมันจะใช้ลูกในท้องเป็นตัวเองออกมาจัดการกับดันเต้แทน ลูกจากท้องลิลิธจะขยายตัวเป็นปีศาจน่าเกลียดขนาดใหญ่แล้วเอาแม่ของมันไปซ่อนไว้ในท้องของมันแทน
Boss - Mundus’s Spawn
การโจมตีหลักๆ ของมันมีแค่ทุบพื้นกับเอามือตบเมื่อตัวเราอยู่ใกล้ๆ ให้พยายามอ้อมไปด้านข้างของตัวมัน แล้วดึงลูกตาที่อยู่ข้างๆ ออกเพื่อไปตีจุดอ่อนของมัน เมื่อเลือดส่วนของลูกมันหมดหลอด มันจะล้มลงแล้วจะสามารถดึงลิลิธที่อยู่ในท้องออกมาโจมตีได้ ตีไปสักพักมันจะเข้าไปในท้องใหม่ แล้วตัวลูกมันจะพื้นพลังมาสู้ใหม่ ทําแบบเดิมไปเรื่อยๆ จนจัดการมันลงได้
ดันเต้ได้พูดต่อรองกับลิลิธว่าถ้าไม่ทำตามในสิ่งที่บอกก็เตรียมตัวตายทั้งแม่และลูกได้เลย ลิลิธต้องยอมพ่ายแพ้ให้กับดันเต้ จากนั้นดันเต้ก็ส่งวิดีโอภาพไปถึงมันดัสเพื่อเจรจาข้อแลกเปลี่ยนเสียใหม่ ว่าถ้าต้องการได้ตัวลิลิธและลูกคืนก็ให้เอาตัวแคทมาแลก มันดัสโดนแผนย้อนกลับทําให้มันเจ็บใจยิ่งนัก
------------------------------------
Mission 15 - The Trade
การแลกตัวประกันของทั้ง 2 ฝ่ายเกิดขึ้นที่ท่าเรือ โดยมันดัสได้ส่งทีมหน่วย S.W.A.T. พาตัวแคทมาแลกเปลี่ยนแทนกับลิลิธ ในขณะที่ดันเต้และเวอร์จิลก็พาลิลิธมาส่งให้ ทั้ง 2 ฝ่ายก็ระมัดระวังอย่างตึงเครียด ขณะที่ตัวประกันของทั้ง 2 ฝ่ายกำลังเดินแลกเปลี่ยนตัวกันผ่านมาครึ่งทาง แต่ขณะวินาทีนั้นเองเวอร์จิลได้ใช้ปืนยิงเข้าที่ด้านหลังทะลุท้องของลิลิธ และยิงอีกนัดเข้าหัว ทำให้ลิลิธตายไปกับพร้อมลูก ดันเต้ตกใจอย่างมาก "อะไรวะ" ดันเต้ไม่คาดคิดเลยว่าเวอร์จิลจะทำแบบนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายจึงเริ่มกระหน่ำยิงปืนเข้าสู้กัน ทำให้ดันเต้ต้องใช้ตัวเองบังกระสุนเข้าไปช่วยแคทออกมาจนเธอปลอดภัย เวอร์จิลจัดการกับทีมหน่วย S.W.A.T. ทั้งหมด
ขณะเดียวกันมันดัสที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างก็โกรธแค้นอย่างมาก มันจึงใช้พลังงานจาก Hell Gate เปลี่ยนสภาพเมืองทั้งเมืองให้เป็นมิติ Limbo ทำให้ถนนพังทลาย แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ดันเต้ให้เวอร์จิลพาแคทขับรถหนีไปให้ไกลและเร็วที่สุด ซึ่งรถของเวอร์จิลก็โดนซากต่างๆ ขวางทางจนแทบจะหนีไม่รอด แต่ดันเต้ได้สังเกตเห็นว่ามิติของ Limbo นั่นช้ากว่าโลกจริง จึงรีบเข้าไปช่วยในการเคลียร์เส้นทางให้รถเวอร์จิลไม่โดนชน ตลอดทางต้องคอยเอาสิ่งกีดขวางออกไปเรื่อยๆ โดยไม่ให้รถได้รับอันตรายจนทำให้ขับหนีออกไปได้อย่างปลอดภัย
------------------------------------
Mission 16 - The Plan
ทั้ง 3 วางแผนการบุกเข้าตึก Sliver Sack Tower โดยแคทจะให้ดันเต้และเวอร์จิลแยกกันไปคนละทาง ดันเต้เข้าไปทางหน้าตึกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แล้วให้เวอร์จิลลอบเข้าไปทางด้านหลัง เพื่อเข้าไปแฮกระบบรักษาความปลอดภัยของตึกเพื่อเปิดประตูให้กับดันเต้ เมื่อรับรู้ถึงแผนการบุกแล้วทั้งคู่ก็ออกทําภารกิจทันที
มันดัสได้ใช้พลังงานจาก Hell Gate ทําลายพื้นเมืองบริเวณรอบๆ นั้นจนพินาศ เราต้องวิ่งหนี กระโดดไปตามทางเรื่อยๆ จนถึงหน้าตึก ปราบศัตรูให้หมดแล้วเวอร์จิลจะแฮกระบบให้ประตูเปิด มีเวลา 30 วินาทีในการเข้าไป ไม่ต้องสนใจศัตรูที่โผล่มา มุ่งหน้าเข้าไปสู่ตึกทันทีเลย ลุยไปเรื่อยๆ จนขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 87 จะพบเวอร์จิลรออยู่ แคทจะบอกแผนต่อไปโดยให้ดันเต้มุ่งหน้าไปทางฝั่งตะวันออกของตึกมุ่งสู่สะพานลอยฟ้า แล้วให้เวอร์จิลไปที่ห้องควบคุมเซิร์ฟเวอร์หลักทางฝั่งตะวันตกของตึกเพื่อทําการปิดระบบ ลุยต่อไปตามทางเรื่อยๆ จะพบเลเซอร์ขวางทาง แต่เวอร์จิลก็ปิดระบบมันให้จนสามารถไปต่อได้ เดินตามทางไปเรื่อยๆ จนขึ้นถึงลิฟต์ของชั้น 105 แต่จริงๆ ต้องไปชั้น 106 (ผิดชั้นซะงั้น) เดินไปตามทางเรื่อยๆ จะพบเลเซอร์ขวางทางอีกครั้ง ขณะที่เวอร์จิลกําลังแฮกเข้าระบบแต่ระบบของตึกก็สร้างระบบป้องกันออกมาขวาง ทำให้ต้องกระโดดหลบฝ่าดงเลเซอร์เข้าไปด้วยตัวเอง ลุยไปเรื่อยๆ จนถึงลิฟต์ชั้น 106 จะพบเวอร์จิลรออยู่ ทั้งคู่ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 114 ต่อไป และเวอร์จิลได้ให้ปืนกระบอกใหม่กับดันเต้ ปืน Kablooey
ปืน Kablooey ปืนระเบิดที่สามารถยิงลูกระเบิดขนาดเล็กออกไปติดตัวศัตรูได้ และสามารถควบคุมการระเบิดได้อีกทีด้วย
มุ่งสู่ทิศตะวันตกของตึกไปตามทางเรื่อยๆ จนมาถึงชั้น 159 บนดาดฟ้าก็พบศัตรูอีกชุด กําจัดพวกมันให้หมด แล้วกระโดดไปตามซากปรักหักพังจนขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงชั้นบนของหอคอยจะเข้าสู่โซนต่อไป
------------------------------------
Mission 17 - Furnace of Souls
ในสถานที่แห่งนี้คือเตาเผาวิญญาณ ที่จะมีไฟพุ่งขึ้นมาจากพื้นเป็นระยะๆ เรื่อยๆ ต้องกระโดดไปยังจุดหมายต่างๆ ใช้ทุกความสามารถที่มีในการผ่านทาง พร้อมรับมือกับศัตรูทุกประเภทในแต่ละโซนนั้นๆ ไปตามทางเรื่อยๆ จนขึ้นไปยังบนสุดจะพบทางวาร์ปไปสู่อีกจุดหมาย
------------------------------------
Mission 18 - Demon's Den
ดันเต้และเวอร์จิลบุกเข้ามาถึงหน้าห้องของมันดัส แต่ระบบรักษาความปลอดภัยก็ปิดประตูไม่ให้ทั้งคู่ไปต่อทันที ตรงกลางของพื้นที่จะมีตราสัญลักษณ์ที่พื้นอยู่ 4 แบบ และมีเสารูปปั้นอยู่ 4 ด้าน โดยต้องไปเปิดระบบเสาทั้ง 4 ด้านออก โดยเข้าไปในถํ้าทั้ง 4 ด้าน ซึ่งทั้ง 4 ด้านนั้นต้องเปิดระบบโดยการใช้ Ophion Demon Pull ดึงให้มันทํางาน แล้วจะมีแสงวิ่งไปยังเสาเพื่อเปิดระบบ เมื่อเปิดแล้วจะสู้กับศัตรู 1 ชุด ทําแบบนี้ทั้ง 4 ด้านให้ครบ เมื่อครบหมดแล้วกลับมายังตรงกลาง จะมีตราสัญลักษณ์ต่างๆ อยู่ 4 แบบคือ พระอาทิตย์ พระจันทร์ ดาว และลม โดยให้ใช้หมัด Eryx ทุบที่พื้นวงกลมสีแดงเพื่อเลื่อนตราสัญลักษณ์ทั้ง 4 แบบให้ตรงกับเสารูปปั้นให้ครบ เมื่อทําสําเร็จแล้วประตูห้องของมันดัสก็จะเปิดออก
------------------------------------
Mission 19 - Face of the Demon
ดันเต้และเวอร์จิลสามารถเข้าไปในห้องของมันดัสได้สำเร็จ โดยเวอร์จิลได้เตือนแผนกับดันเต้อีกครั้ง ดันเต้รับหน้าที่ยั่วโมโหมันดัสให้ประมาทจนออกห่างจาก Hell Gate ส่วนเวอร์จิลรอคอยจังหวะในการทำลาย Hell Gate ที่เชื่อมต่อกับพลังงานของมันดัส
ดันเต้ได้ทําตามแผนที่ตกลงไว้โดยการพูดจายั่วยุต่างๆ จนมันดัสโมโหพุ่งเข้าไปอัดดันเต้จนกระเด็นออกไปจากตัวตึกเลย เป็นโอกาสให้เวอร์จิลได้ลอบเข้าไปทําลาย Hell Gate ได้สำเร็จตามแผน เมื่อ Hell Gate เสียหายทำให้มิติต่างๆ เริ่มปั่นป่วนจนมิติ Limbo เริ่มที่จะรวมกันกับโลกแห่งความจริง ทำให้มนุษย์ทั่วไปต่างก็เริ่มเห็นปีศาจจริงๆ ปรากฏอยู่ทั่วเมืองเต็มไปหมดจนเกิดความโกลาหลขึ้นทั้งเมือง
ในขณะที่ดันเต้พลาดท่าจะโดนมันดัสควักหัวใจเหมือนที่มันทำกับแม่ของเขา แต่จู่ๆ มันดัสก็รู้สึกได้ว่าพลังจาก Hell Gate นั้นกําลังมีปัญหา ทันใดนั้นเองเวอร์จิลได้ใช้ดาบเสียบจากด้านหลังของมันดัสตอนมันเผลอจนร่วงไปด้านล่าง ดันเต้จึงรอดตายอย่างหวุดหวิด แต่...มันคงไม่ง่ายแค่นี้ เป็นถึงราชาปีศาจจะมาตายง่อยๆ ได้ไง มันดัสรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายของมันทำการรวมร่างกับซากปรักหักพังบ้านเมืองรถยนต์ทั้งหมดจนได้ร่างกายขนาดใหญ่ แล้วเข้ามาโจมตีใส่ดันเต้และเวอร์จิลทันที จนตอนนี้มันดัสรู้แล้วว่าลูกของสปาร์ด้าไม่ได้มีแค่ดันเต้คนเดียว แต่มีถึง 2 คน การต่อสู้กับราชาปีศาจจึงได้เริ่มต้นขึ้น
Boss - Mundus
ช่วงแรกนั้นสู้ไปเรื่อยๆ ก่อนตามเนื้อเรื่อง หลังจากนั้นเมื่อเวอร์จิลโดนดูดเข้าไปในร่างกายของมัน จะเริ่มการต่อสู้ที่แท้จริง ดันเต้ต้องคอยสู้รับมือมันดัสร่างยักษ์ เวอร์จิลจะจัดการตัวข้างใน การต่อสู้กับมันดัสไม่มีอะไรยาก มันจะมีแค่ทุบพื้นก็คอยกระโดดหลบเอา หรือถ้าปล่อยลูกพลังมาก็ใช้ท่า Prop ของเคียวสวนตีกลับไป หรือถ้ามันพ่นนํ้าเมือกที่พื้นก็กระโดดไปอีกฟาก ทําลายมือทีละข้าง เมื่อทําลายได้แล้วก็จะสามารถดึงดวงตามันออกมาได้ ทําลายให้ครบทั้ง 2 ข้างจะเหลือตรงหัวมันสุดท้ายแล้ว คอยหลบลูกพลังที่ออกมาเยอะๆ แล้วค่อยโจมตีอัดใส่หน้ามัน เลือดมันจะลดลงอย่างมาก เมื่อปราบสําเร็จดันเต้จะกระโดดเข้าไปฟันร่างที่แท้จริงจนมันตาย พร้อมช่วยเวอร์จิลออกมา และมันดัสก็ตายล่มสลายไปในที่สุด
การต่อสู้กับราชาปีศาจมันดัสก็ได้จบลงสักที ทั้งคู่ได้ล้างแค้นให้พ่อและแม่ได้สําเร็จ และคืนอิสรภาพให้แก่มนุษย์ เวอร์จิลได้บอกว่า "พวกเราทําสําเร็จแล้วนะ" แต่ดันเต้ก็พูดสวนขึ้นมาทันที "ฉันต่างหากที่ทําสําเร็จ" สร้างรอยยิ้มที่ดูมีความสุขจากสองพี่น้องทันที
ในสังคมไซเบอร์ทั่วโลก ได้ตื่นตระหนกกับการพบเห็นปีศาจบนโลกใบนี้แล้ว…We Have Awoken
------------------------------------
Mission 20 - The End
แสงสว่างของวันใหม่ วันแห่งอิสรภาพของมนุษย์ มันดัสล่มสลายไป Limbo พังทลายรวมเข้ากับโลกมนุษย์ แม้บ้านเมืองจะเสียหายไปมาก ผู้คนต้องหวาดกลัวที่มองเห็นพวกปีศาจขึ้นมา แต่ปีศาจก็ไม่ได้แอบแฝงปกครองอีกต่อไป ก็ดูเหมือนความสงบสุขจะมาเยือน แต่ทว่า...
ความเห็นที่ขัดแย้งผลักดันให้ทั้งสองคนต้องสู้กันเอง แม้แคทจะพยายามห้ามแต่ก็โดนเวอร์จิลตวาดให้ถอยไป ศึกสายเลือดจึงได้เริ่มต้นขึ้น...
Final Boss - Vergil
การต่อสู้กับเวอร์จิลนั้นอาจดูเหมือนยาก แต่จริงๆ แล้วไม่ยากเลย พวกท่า Summon Sword นั้นสามารถใช้ปืนลูกซองยิงทําลายได้เลย หรือพวกท่าเขวี้ยงดาบก็สามารถสะท้อนกลับโดยการใช้ท่า Prop ของเคียวสวนกลับไปได้ หรือจะรอจังหวะโจมตีมาแล้วหลบแบบ Demon ก็ยังได้ แล้วดึงลากตัวมาฟันได้เลย เมื่อสู้ไปเรื่อยๆ จนเลือดมันลดลง มันจะใช้ Devil Trigger เรียกร่างแยกของมันออกมา ซึ่งจะทําให้มันเลือดขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้เราก็ตีมันสะสมพลังเกจ Devil Trigger ของเราไปก่อน โจมตีไปเรื่อยๆ จนมันเหลือเลือดขีดสุดท้าย มันจะเรียกว่าแยกออกมาคุ้มครอง โดยตัวจริงมันจะนั่งปักดาบที่พื้น ช่วงนี้ให้ใช้ Devil Trigger แล้วฟันมันจะจัดการได้สําเร็จ ก็จะพบกับฉากจบสุดท้ายของเกมนี้
--------- THE END --------