DmC: Devil May Cry
บทสรุปโดย Devilexe
Mission 1 - Found
ฉากของเกมเริ่มต้นขึ้น ขณะที่ดันเต้ได้พาสาว 2 คนกลับจากไนท์คลับ Devil's Dalliance มาที่บ้านรถตู้ของเขาด้วยความเมามายก่อนจะบรรเลงบทเลิฟซีนจนผ่านพ้นไปอีกคืน วันรุ่งขึ้นดันเต้หลับคาเตียงโดยไม่สนใจต่อข่าวทางทีวีที่กำลังนำเสนอสื่อว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ล้วนแต่เป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายอย่างดันเต้ และองค์กรใต้ดิน The Order ที่กำลังออกมาปลุกระดมให้มนุษย์ลุกต่อกรกับปีศาจ จนเสียงเคาะประตูดังขึ้น ดันเต้ถูกปลุกขึ้นโดยมีหญิงสาวมาเคาะประตูจนต้องลากสังขารที่เมาค้างและร่างกายเปลือยๆ ออกไป เธอได้บอกว่าดันเต้กำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะ Hunter Demon กำลังไล่ล่าเขาอยู่ แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป Hunter Demon โจมตีใส่บ้านรถตู้ของดันเต้จนพัง จากสภาพปกติกําลังจะเข้าสู่มิติ Limbo เป็นมิติระหว่างโลกมนุษย์และโลกปีศาจ ที่มนุษย์ไม่อาจจะสามารถเข้ามายังมิติ Limbo ได้ ดาบ Rebellion ดาบคู่กายของดันเต้งอกออกมาจากหลังพร้อมใช้กวัดแกว่งปีศาจที่มาขวางทางทุกตัวแล้ว
หลังจากที่ดันเต้ลุยจัดการกับพวกปีศาจแล้ว ลุยไปเรื่อยๆ จะพบปืน Ebony & Ivory ปืนคู่กายของดันเต้ที่ห้อยอยู่กับบราซะงั้น เก็บมาซะ เดินไปตามทางจัดการศัตรูไปเรื่อยๆ จากนั้นจะพบหญิงสาวปริศนาอีกครั้งเ ธอแนะนำตัวเองว่าชื่อ แคท และจะพยายามหาทางช่วยดันเต้อยู่ตลอดทาง ซึ่งแคทนั้นเธอมีความสามารถพิเศษคือมองเห็นมิติ Limbo ได้ แต่เธอไม่สามารถเข้าไปได้ เดินไปตามทางต่อเรื่อยๆ จน Hunter ไล่ล่ามา มันได้ทําลายชิงช้าสวรรค์ซะพังลงมาเพื่อที่จะไล่ทับดันเต้ แต่ดันเต้ก็สังเกตเห็นว่าเสื้อโค้ดของตัวเองนั้นได้ไปติดแหง่กอยู่ด้านบนของเครื่องเล่นซะงั้น วิ่งขึ้นไปเอามาใส่ซะหน่อย
ณ ปัจจุบัน Limbo City โลกแห่งความจริง เครื่องเล่นในสวนสนุกก็พังตามจริงเช่นกัน กลับมาที่มิติ Limbo อีกครั้ง ลุยข้างหน้าฝ่าดงศัตรูไปเรื่อยๆ Hunter ก็ตามไล่ล่าดันเต้มาจนสุดทาง ดันเต้ได้ใช้ปืนยิงใส่มัน แต่แคทบอกกับดันเต้ว่าไม่สามารถจัดการมันด้วยกระสุนปืนได้ เธอได้โยนระเบิดขวดเพลิงโจมตีจนมันเผยจุดอ่อนออกมา ทำให้ดันเต้เข้าไปสู้กับมันได้
Boss - Hunter
จุดอ่อนมันอยู่ที่หัวโจมตีไปเรื่อยๆ สลับกับใช้ปืนยิงมันตอนมันเกาะที่ด้านบนจนร่วงลงมา เมื่อมันใกล้ตายมันจะพ่นควันดําออกมาปกคลุม แล้วค่อยโยนใบมีดออกมาโจมตีเรื่อยๆ ให้กระโดดหลบไปเรื่อยๆ จนมันเผยตัวออกมาถึงจะโจมตีต่อได้ เมื่อจัดการมันได้แล้วเจ้าปีศาจ Hunter พูดออกมาก่อนตาย ลูกของสปาร์ด้า...เจ้าจะต้องตายเหมือนแม่ของแก ลูกใครนะ? ดันเต้ถามด้วยความงงกับคำพูดของปีศาจ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจก่อนที่จะหวดดาบปลิดชีพมันลงไปทันที
หลังจบการต่อสู้กับเจ้าปีศาจ Hunter ดันเต้ก็ได้หลุดออกมาจากมิติ Limbo สวนสนุกในโลกแห่งความจริงก็พังยับเยินเช่นเดียวกัน ขณะที่ดันเต้เดินไปตามถนนอย่างไม่มีจุดหมาย แคทก็ขับรถมาขอความช่วยเหลือ และหัวหน้าของเธอต้องการพบกับดันเต้ แน่นอนว่าดันเต้ไม่สนใจจะช่วยอะไรกับคนแปลกหน้า แต่แคทได้ให้ข้อเสนอว่าจะบอกความจริงทุกอย่างที่ดันเต้อยากรู้เกี่ยวกับอดีตของเขา ทำให้ดันเต้ที่ไม่รู้เรื่องราวในอดีตของตัวเองเลยต้องหยุดคิด และขึ้นรถไปกับแคทในที่สุด ระหว่างทางนั้นแคทอธิบายว่า เธอคือสมาชิกขององค์กรที่มีชื่อว่า The Order ที่มีเป้าหมายคือการเปิดโปงแผนชั่วร้ายและปลดปล่อย Limbo City จากเงื้อมมือปีศาจ ในขณะนั้นไคล์ก็ได้รับรู้ว่าปีศาจที่ลิลิธส่งไปนั้นได้ถูกกําจัดไปแล้วเช่นกัน
------------------------------------
Mission 2 - Home Truths
แคทขับรถพาดันเต้เข้ามายังตึกร้างแห่งหนึ่งซึ่งเป็นทางเข้าฐานลับขององค์กร The Order ชายในเสื้อโค้ทสีน้ำเงินผู้นำองค์กรแนะนำตัวว่าเขาคือ เวอร์จิล พร้อมทั้งถามถึงอดีตของดันเต้ซึ่งเขาจำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เวอร์จิลบอกว่า เขาเองก็สูญเสียความทรงจำไปเช่นกัน และดันเต้มีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยมวลมนุษย์จากเงื้อมมือของปีศาจร้าย แต่ดันเต้ไม่เล่นด้วยเพราะคิดว่าไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเอง แต่เวอร์จิลขอร้องดันเต้ว่า อย่างน้อยก็มาย้อนดูอดีตก่อนดีกว่า
เวอร์จิล แคท และดันเต้ มาถึง Paradise คฤหาสน์หลังใหญ่ทรุดโทรมซึ่งตั้งอยู่นอกตัวเมือง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขสู่อดีตของดันเต้ แคทเปิดทางสู่ Limbo ให้ดันเต้ ณ ที่นั้น ดันเต้ได้พบกับภาพเขียนของชายคนหนึ่ง ที่ใต้ภาพเขียนว่า "Sparda" ซึ่งก็คือพ่อของเขางั้นหรือ? แต่เมื่อดันเต้สัมผัสที่รูปเขาก็จะได้รับขวาน Arbiter อาวุธใหม่มา
ขวาน Arbiter อาวุธโหมด Demon อาวุธหนักที่ใช้ทําลายเกราะ ทําลายโล่ของศัตรู และยังสามารถใช้ทำลายกําแพงสีแดงในจุดต่างๆ ได้ด้วย
จากนั้นกําจัดพวกปีศาจที่ออกมาจนหมดแล้ว ออกจากห้องย้อนกลับมาห้องโถงกลางอีกครั้ง ดันเต้ก็ได้เห็นภาพซ้อนของอดีตสมัยเด็กของตัวเองกำลังเล่นสนุกอยู่กับเด็กชายอีกคนหนึ่งซึ่งก็คือ เวอร์จิล ทำให้เขารู้ว่าเวอร์จิลเป็นพี่น้องฝาแฝดนั่นเอง แล้วเมื่อดันเต้สำรวจที่ใต้เตียงจะเจอกับโล่ไม้ของเล่นสมัยเด็กที่มีตราประจำตระกูลอยู่ ซึ่งมันทำให้จิตของดันเต้หลุดมาในสถานที่แห่งหนึ่งนั่นคือ Dream World โลกแห่งความฝัน
ดินแดนแห่งความฝันนี้ดันเต้เห็นรูปปั้นขนาดใหญ่ถูกโซ่ตรึงอยู่กลางพื้นที่ เดินไปสักพักก็จะได้รับความสามารถใหม่ Ophion Demon Pull มาใช้ โดยจะเป็นเหมือนแส้ที่ใช้ในการดึงสิ่งต่างๆ ที่มีจุดสีแดงอยู่ได้ เอาไว้ใช้สำหรับดึงพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ไกลให้เข้ามาใกล้พอให้กระโดดถึง รวมไปถึงสามารถดึงตัวศัตรูที่อยู่ไกลๆ เข้ามาหาตัวโจมตีได้อีกด้วย จากนั้นก็ใช้ความสามารถที่ได้มาใหม่ดึงซากพื้นที่ให้เข้ามาชิดกันเพื่อทำเป็นทางกระโดดเข้าไปด้านในจนถึงแท่นหินที่ตรึงโซ่อยู่ ซึ่งเมื่อมาถึงให้ทําลายหินที่ตรึงโซ่ไว้ด้วยขวาน Arbiter จากนั้นจิตของดันเต้ก็จะย้อนกลับมาที่คฤหาสน์อีกครั้ง
เดินไปตามทางเรื่อยๆ ใช้อาวุธและความสามารถที่ได้มาผ่านทาง จนมาถึงอีกห้องหนึ่งจะพบภาพเขียนอีกภาพ เป็นภาพของผู้หญิงผมสีแดง "Eva" แม่ของเขาเอง จากนั้นดันเต้จะได้รับเคียว Osiris อาวุธใหม่อีกชิ้นมา
เคียว Osiris อาวุธโหมด Angel อาวุธเบาแต่ถึงพลังโจมตีจะเบาแต่ได้ความรวดเร็วในการออกคอมโบมาทดแทน และยังสามารถใช้ทำลายกําแพงสีฟ้าในจุดต่างๆ ได้ด้วย
จากนั้นกําจัดพวกปีศาจที่ออกมาจนหมดแล้วเดินไปตามทางเรื่อยๆ ใช้อาวุธและความสามารถที่ได้มาผ่านทางเข้าไปในห้องด้านใน ดันเต้จะพบกับกุหลาบสีน้ำเงินตกอยู่ซึ่งมันทำให้จิตของดันเต้หลุดมาใน Dream World โลกแห่งความฝันอีกครั้ง
เช่นเดิมในดินแดนแห่งนี้จะได้เห็นรูปปั้นขนาดใหญ่ถูกโซ่ตรึงอยู่กลางพื้นที่ เดินไปสักพักก็จะได้รับความสามารถใหม่ Ophion Angel Lift มาใช้ โดยจะเป็นเหมือนแส้ที่ใช้ในการโหนตัวไปยังที่ต่างๆ จุดสีฟ้าเป็นจุดเอาไว้ให้เกี่ยวโหนตัวไปที่ไกลๆ รวมไปถึงสามารถดึงตัวเราไปหาตัวศัตรูที่อยู่ไกลๆ ได้รวดเร็วอีกด้วย จากนั้นก็ใช้ความสามารถที่ได้มาใหม่โหนไปตามทางเรื่อยๆ จนถึงแท่นหินที่ตรึงโซ่อยู่ ซึ่งเมื่อมาถึงให้ทําลายหินที่ตรึงโซ่ไว้ด้วยขวาน Arbiter อีกครั้ง จากนั้นจิตของดันเต้ก็จะย้อนกลับมาที่คฤหาสน์อีกครั้ง
หลังกลับสู่คฤหาสน์จะโดนพวกศัตรูโจมตี ให้จัดการศัตรูให้หมด เดินไปนิดนึงดันเต้จะเห็นรูปภาพของครอบครัวของเขาที่เคยถ่ายร่วมกันในสมัยอดีต ทำให้เขาเริ่มจดจำเรื่องครอบครัวได้บางส่วนแล้ว Sparda และ Eva คือพ่อและแม่ของเขา จำได้ว่าแม่ของเขาเคยให้สร้อยประจำตัวเอาไว้คนละเส้นกับพี่ชายฝาแฝดของเขา
ไปตามทางเรื่อยๆ มิติ Limbo ก็เริ่มฉีกแยกคฤหาสน์ออกจากกัน ดันเต้จึงต้องหนีออกไปตามการชี้ทางของแคท และกลับสู่โลกจริง เมื่อดันเต้เห็นเวอร์จิลก็จำได้ทันทีว่า เวอร์จิล คือพี่ชายฝาแฝดของเขา เวอร์จิลโชว์สร้อยสีฟ้าที่แม่ให้ไว้ให้ดูเพื่อเป็นการยืนยัน
------------------------------------
Mission 3 - Bloodline
เวอร์จิลพาดันเต้มาที่สนามเด็กเล่น และเริ่มเล่าเรื่องราวของสงครามระหว่างนางฟ้าและปีศาจ ดันเต้ฟังจบก็สรุปสั้นๆ ได้ว่า ไอ้ปีศาจที่ฆ่าแม่และจับพ่อไปขังคือเจ้ามันดัส แล้วจะกำจัดเจ้ามันดัสยังไง ยังไม่ทันได้บอก เหล่าปีศาจสมุนของมันดัสก็ลากเข้าสู่มิติ Limbo ทันที
กำจัดศัตรูที่ออกมาให้หมดแล้วเดินไปหาแคทที่กำลังใช้วงเวทเปิดทางออกไว้ให้ แต่แล้วเส้นทางก็กลับพังลงเสียก่อน จนต้องหาทางไปอีกทาง เมื่อย้อนกลับมาที่ลานกว้างอีกครั้ง ศัตรูจะออกมาอีกชุด กำจัดให้หมดแล้วจะมีทางขึ้นโดยมีจุดสีฟ้า Angel Lift ดึงโหนขึ้นไปได้ ขึ้นมาบนทางเดินชั้น 2 ไปตามทางเรื่อยๆ
กระโดดเหยียบเศษหินที่ลอยอยู่ขึ้นไปที่ด้านบนจะพบดอกไม้สีน้ำเงิน เมื่อสำรวจแล้วจิตของดันเต้จะหลุดมาใน Dream World โลกแห่งความฝันอีกครั้ง
คราวนี้จะได้รับความสามารถใหม่คือ Angel Boost ซึ่งจะทำให้สามารถกระโดดแดชกลางอากาศได้ไกลขึ้น จากนั้นก็ไปตามทางเรื่อยๆ จนถึงแท่นหินที่ตรึงโซ่อยู่ ซึ่งเมื่อมาถึงให้ทําลายหินที่ตรึงโซ่ไว้ด้วยขวาน Arbiter อีกครั้ง จิตของดันเต้ก็จะย้อนกลับมาที่ Limbo ตรงลานกว้างอีกครั้ง กําจัดศัตรูให้หมดแล้วกลับไปยังทางที่ขาดโดยใช้ Angel Boost บินข้ามไปหาแคท
ทั้งสามจะกลับมาที่องค์กร เวอร์จิลจะบอกถึงแผนที่จะกำจัดมันดัส ซึ่งแผนของเวอร์จิลคือทำลาย Hell Gate นั่นซะ แต่ก่อนจะทําลาย Hell Gate นั้นต้องจัดการเปิดโปงความลับของเครื่องดื่ม Virility ที่กำลังมอมเมาประชาชนอยู่ตอนนี้ก่อน ซึ่งการจะบุกเข้าไปถึงโรงงานผลิตเครื่องดื่ม Virility นั้นค่อนข้างลําบาก เพราะมันดัสยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของสถานีโทรทัศน์ Raptor News Network และมีสื่อต่างๆ ไว้จนหมด โดยมันแอบเฝ้ามองทุกการเคลื่อนไหวในเมืองด้วยกล้อง CCTV ตาปีศาจของมันที่มีอยู่ทั่วเมืองนั่นเอง
------------------------------------
Mission 4 - Under Watch
ดันเต้และแคทเดินทางมาตามถนนในเมืองโดยต้องหลบสายตาของกล้องปีศาจของมันดัสให้พ้น แต่ดันเต้ก็ดันไปปัดเครื่องดื่ม Virility จากคนที่เดินดื่มอยู่ด้วยความหวังดี แต่นั่นทำเอาสายตาของกล้องปีศาจเห็นตัวดันเต้แทนซะเอง ดันเต้จึงเข้าสู่มิติ Limbo ทันที จัดการศัตรูที่ออกมาให้หมด แล้วไปตามจุดที่มีกล้อง CCTV อยู่ โดดขึ้นไปใช้ Ophion Demon Pull ดึงทำลายมันออกมาซะ ก็จะผ่านเข้าไปยังพื้นที่ต่อไปได้ วิ่งตามแคทไปตามทางเรื่อยๆ จนพบจุดที่มีกล้อง CCTV 2 ตัว และจะพบกับศัตรูชนิดใหม่ Frost Knight
ซึ่งเจ้า Frost Knight นั้นจะเป็นศัตรูประเภทพิเศษ ตัวสีฟ้าๆ โดยต้องใช้อาวุธโหมด Angel เท่านั้นถึงจะสามารถโจมตีมันเข้า อาวุธชนิดอื่นจะไม่สามารถโจมตีได้ ก็ให้ใช้เคียว Osiris ที่มีอยู่ตอนนี้จัดการมันซะ ปราบศัตรูทั้งหมด ถอดกล้องทั้ง 2 จุด ทำลายมันให้หมด แล้วเข้าไปด้านในต่อ พื้นที่ในเมืองก็จะเริ่มพังและขัดขวางดันเต้ตลอดทาง หนีตามทางไปเรื่อยๆ จนตกลงมาที่โบสถ์ จัดการศัตรูที่ออกมาให้หมด แล้วจะมีศัตรูตัวใหม่โผล่ออกอีกนั่นคือ Tyrant
Tyrant ตัวมันจะมีเกราะค่อนข้างหนา แต่ก็มีจุดอ่อนอยู่ที่ข้างหลังของมัน ให้หลบท่าของมันแล้วอ้อมมาด้านหลัง แล้วใช้ Ophion Demon Pull ดึงให้มันล้มลง พอมันล้มลงจะโจมตีมันได้เนื้อๆ หลังจากปราบมันเสร็จพื้นจะแยกออก กระโดดไปเรื่อยๆ โหนตัวออกไปด้านนอกหน้าต่างกระจกของโบสถ์จนออกมาจากมิติ Limbo ได้สำเร็จ
------------------------------------
Mission 5 - Virility
ดันเต้และแคทเดินทางเข้ามายังโรงงานผลิตเครื่องดื่ม Virility ได้สำเร็จ แคทพาดันเต้ลอบเข้าไปยังห้องใต้ดินของโรงงาน (เปิดประตูเดินเข้าไปกันง่ายๆ เลยเหรอออ...) จนถึงโกดังสินค้าเธอก็เริ่มพ่นสเปรย์เป็นวงเวทส่งดันเต้เข้าสู่มิติ Limbo เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับโรงงานผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง Virility
เมื่อเข้าสู่มิติ Limbo บริเวณนี้จะเป็นเหวเกือบทั้งหมด เราจะยืนอยู่บนลังและกล่องเล็กๆ แค่นั้น พยายามโหนขึ้นไปจนด้านบนสุด ซึ่งสามารถไปได้หลายเส้นทาง เมื่อขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ จะพบกับศัตรูชนิดใหม่ Hell Knight ซึ่งเจ้า Hell Knight นั้นจะเป็นศัตรูประเภทพิเศษตัวสีแดงๆ โดยต้องใช้อาวุธโหมด Demon เท่านั้นถึงจะสามารถโจมตีมันเข้า อาวุธชนิดอื่นจะไม่สามารถโจมตีได้ ก็ให้ใช้ขวาน Arbiter ที่มีอยู่ตอนนี้จัดการมันซะ
ปราบศัตรูทั้งหมดแล้วลุยไปข้างในต่อโดยแคทจะบอกให้ดันเต้ค้นหาห้องผสมนํ้าให้เจอ ลุยไปเรื่อยๆ ตามทางจัดการปีศาจที่ออกมาให้หมด เข้าสู่ห้อง Mixing Room จะพบกับปีศาจน่าขยะแขยงที่อยู่ในหลอดแก้ว กลางห้องมันกำลังผลิตน้ำออกมาจำนวนมากส่งต่อขึ้นไปยังแท็งค์เก็บน้ำด้านบน ซึ่งมนุษย์หลายคนก็กำลังดื่มนํ้า Virility กันอย่างไม่รู้ตัวเลยว่ามาจากปีศาจพวกนี้ ในขณะที่แคทกำลังหาทางเปิดทางเข้าด้านในพวกปีศาจมากมายก็ออกมา ต้องคอยระวังที่พื้นด้วยเพราะมีน้ำย่อยไหลออกจากหลอด ทําให้เสียเลือดเวลาเดินเหยียบ เมื่อจัดการศัตรูทั้งหมดแล้วแคทจะเปิดทางเข้าไปยังส่วนในของโรงงานต่อ
------------------------------------
Mission 6 - Secret Ingredient
แคทช่วยนำทางดันเต้ลงลึกไปสู่ใจกลางของห้องผสมนํ้าเพื่อค้นหาส่วนผสมลับ โดยต้องผ่านทางลงของท่อระบายอากาศขนาดใหญ่ ซึ่งแคทจะใช้เครื่องมือทรงกลมในการปรับทิศทางให้มิติของ Limbo ให้เอียงในแนวนอนเพื่อให้ดันเต้วิ่งผ่านท่อระบายอากาศไปได้ แต่มันจะสามารถอยู่ได้แค่ 2 นาทีเท่านั้น จะต้องวิ่งฝ่าศัตรูตามทาง กระโดดโหนไปข้างในสุดให้ทันก่อนหมดเวลา เมื่อเข้ามาด้านในได้แล้วจะพบปีศาจหน้าตาน่าเกลียดคล้ายหนอนตัวใหญ่ห้อยตัวอยู่กลางห้องที่มีลาวาล้อมรอบ มันคือ Succubus ปีศาจตัวการในการทํานํ้าย่อยสร้างเครื่องดื่ม Virility ขึ้นมา ทั้งคู่พูดคารมหยาบคายปะทะเถียงกันจนต้องลงไม้ลงมือกันซะหน่อยแล้ว
Boss - Succubus
จุดอ่อนของมันจะอยู่ที่หัวแดงๆ วิธีที่สู้กับมันก็ง่ายมากๆ แค่ยืนรอจังหวะมันจะใช้มือกวาดตบเรา ให้ใช้ Demon Evade หลบในจังหวะพอดี มันจะเผยจุดอ่อนออกมา โจมตีมันแค่ชุดเดียวก็ลงไปกองแล้ว แล้วก็ดึงสายท่อของมันออกจนครบ แล้วมันจะหนีไป ตามไปเก็บมันต่อ คราวนี้ก็หลบไปเรื่อยๆ ด้วยการดึง การโหน จนสุดท้ายมันจะเอามือมาเกาะที่เสาหิน ตีมือมันจนหลุดและให้ไปโดนใบพัดซึ่งจะได้ฉีกร่างมันออกเป็นชิ้นๆ จะได้อาวุธชนิดใหม่จากมันมา นั่นคือ หมัดเพลิง Eryx
หมัดเพลิง Eryx อาวุธโหมด Demon ซึ่งคราวนี้สามารถสลับเปลี่ยนกับขวาน Arbiter ไปมาได้แล้ว หมัด Eryx นั้นพลังโจมตีจะเบากว่าขวาน แต่ก็สามารถชาร์จเพิ่มพลังให้แรงได้ สามารถใช้เคาน์เตอร์สวนท่าพุ่งชนของพวกตัวหนาๆ และยังสามารถใช้ทำลายกําแพงสีแดงในจุดต่างๆ ที่เป็นคนละแบบกับที่ขวานทําลายได้อีกด้วย
------------------------------------
Mission 7 - Overturn
หลังจากเสร็จภารกิจทําลาย Virility แล้ว ขณะที่แคทขับรถพาดันเต้ไปหาเวอร์จิลที่จุดนัดพบ ดันเต้ถามแคทว่าเธอรู้จักกับเวอร์จิลได้ยังไง แต่แคทไม่ยอมตอบ ดันเต้จึงบอกกับแคทว่า เขาต้องการรู้ว่าคนที่เขาต้องมาร่วมเสี่ยงชีวิตด้วยเป็นใคร คนหนึ่งคือพี่ชายแท้ๆ ที่พยายามจะกู้โลก แล้วเธอล่ะ? แคทยังคงกระอักกระอ่วน ดันเต้จึงพูดต่อ เธอเข้ามาขอร้องให้ช่วย เขาก็ยอมช่วยเพราะความเชื่อใจ และเธอก็สามารถเชื่อใจเขาได้เช่นกัน แคทจึงต้องใจอ่อนยอมเริ่มเล่าอดีตของเธอให้ฟัง
เมื่อขับรถมาถึงจุดนัดพบกับเวอร์จิลที่หน้าตึก Raptor News Tower เป้าหมายต่อไปคือทําลายสถานีโทรทัศน์ที่ผลิตทั้งรายการบันเทิง โฆษณา และข่าวสาร ที่คอยล้างสมองมนุษย์อยู่เบื้องหลัง ซึ่งจุดหมายที่ดันเต้ต้องไปนั้นไม่ใช่หอคอยบนโลกจริง แต่เป็นเงาสะท้อนในน้ำซึ่งมีอยู่จริงใน Limbo หอคอยนี้เป็นคุกคุมขังดวงวิญญาณมนุยษ์ ที่ไม่มีวันหนีออกมาได้ แคทเปิดทางเชื่อมให้อีกครั้ง ดันเต้ดำดิ่งลงสู่ Limbo
เข้าสู่มิติ Limbo โดยต้องมุ่งหน้าไปยังตึก Raptor News Tower ซึ่งในการผ่านทางจะมีกําแพงสีแดงที่ต้องใช้ความสามารถหมัดเพลิง Eryx ที่ได้มาใหม่ในการทำลายเข้าไป และยังใช้ทําลายพื้นสีแดงๆ ให้พังด้วยการกระโดดต่อยได้อีกด้วย ไปตามทางเรื่อยๆ จนถึงด้านในสุด ดันเต้จะเห็นว่ามีชายแก่โดนปีศาจรุมทําร้ายอยู่ มันคือพวก Harpies ให้เข้าไปจัดการพวกมันซะ จะพบว่าชายแก่คนนี้ตาบอดและหน้าหายไปครึ่งหนึ่ง
ดันเต้ได้ถามหาทางเข้าตึกกับชายแก่ ชายแก่เล่าว่าเขาถูกขังอยู่ที่นี่ และปีศาจก็ขโมยดวงตาของเขาไป ถ้ายอมช่วยตามหาดวงตาคืนมาก็จะยอมช่วยนำทางไปหอคอยให้ ก็ต้องยอมช่วยหามาคืนแบบเซ็งๆ ละ
------------------------------------
Mission 8 - Eyeless
ชายแก่บอกว่าดวงตาของเขานั้นดูเหมือนพวกปีศาจนก Harpies จะขโมยมันไปไว้ที่รังของพวกมัน โดยอยากให้ดันเต้ไปช่วยเอามาคืนให้ เขาได้ล่อพวก Harpies ออกมาและให้ดันเต้ไล่ตามไปที่รังของพวกมัน แล้วดันเต้ก็รีบกระโดดตามมันไป พวกมันจะหนีเข้าข้างในเรื่อยๆ ตามลุยเข้ามาจะผ่านเส้นทางรถไฟใต้ดิน คอยระวังโดนรถไฟชนด้วยล่ะ เข้ามาด้านในสุดจนพบรังของพวก Harpies แล้วจะพบกับดวงตาของชายแก่ พวก Harpies มันจะออกมาโจมตีเป็นฝูง จัดการพวกมันให้หมดซะ จากนั้นก็ย้อนกลับมาตามทางเดิม เอาดวงตาไปคืนให้ชายแก่ เมื่อใส่ดวงตาของเขากลับคืนและมองเห็นได้อีกครั้ง เขาก็ได้รู้ว่าคนที่ช่วยเอาดวงตามาให้นั้นคือดันเต้นั่นเอง เขาได้แนะนำตัวเองว่าชื่อ ฟีนีส และบอกว่าเขาเป็นเพื่อนกับสปาร์ด้า และจะนำทางดันเต้ไปสู่หอคอยตามสัญญา
------------------------------------
To Be Continued Part II Link Below