สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: Revelations ‘ตอนที่ 1 ใจกลางมหาสมุทร’ & ‘ตอนที่ 2 ปริศนาทั้งสอง’

 กลับมาต่อกันด้วยเนื้อเรื่องของเกม Resident Evil: Revelations ที่เป็นภาคคั่นกลางระหว่างภาค 4 และภาค 5 ตามไทม์ไลน์ของซีรี่ส์หลัก Resident Evil นะครับ หลายสิ่งหลายอย่างเชื่อมโยงกันไปจนถึงภาค 5 ดังนั้นผมจึงเลือกนำภาคนี้มาเสนอด้วยนั่นเอง >w<

 

เพื่อนๆ สามารถดูเนื้อเรื่องย้อนหลังได้ที่

หมายเหตุ ภาคนี้ภาพอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไรนะครับ เพราะเป็นของเวอร์ชั่น 3DS เสียดายที่เวอร์ชั่น PS3 ออกมาไม่ทันก่อนเขียนบทความนี้ TTwTT

ตอนที่ 1 ใจกลางมหาสมุทร

ไม่ระบุวันที่ ปี 2004

Terragrigia มหานครลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายเวลโทร โจมตีด้วยอาวุธชีวภาพ ก่อให้เกิดความสับสนอลหม่านและสร้างความเสียหายไปทั่วเมือง

หน่วยงาน FBC (Federal Bioterrorism Commission) ได้รับมอบหมายให้ทำการหยุดยั้งการโจมตีดังกล่าวโดยมี เคลฟ อาร์ โอไบรอัน ผู้บัญชาการสูงสุดของ BSAA (Bioterrorism Security Assessment Alliance) คอยให้การช่วยเหลือ

นายพล มอร์แกน แลนส์เดล กรรมาธิการ FBC ตัดสินใจใช้ Regia Solis (ดาวเทียมที่ใช้แสงอาทิตย์เป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน) ทำลายเมืองเพื่อหยุดยั้งหายนะที่เกิดขึ้น เคลฟ คัดค้านความคิดของ มอร์แกน แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

สุดท้าย Terragrigia ก็ล่มสลายเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพังเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว FBC ประกาศว่า เวลโทร ได้ล่มสลายโดยสมบูรณ์ และทั่วโลกก็ได้ตระหนักถึงภัยคุกคามอันเกิดจากการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ

 

ไม่ระบุวันที่ ปี 2005

3.50 PM ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

โอไบรอัน ยืนมองซากมหานคร Terragrigia ที่อยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา จนกระทั่ง จิล วาเรนไทน์ และ ปาร์คเกอร์ ลูเชียนี่ เจ้าหน้าที่หน่วย BSAA เดินเข้ามาเพื่อปฏิบัติภารกิจสำรวจซาก Globster บริเวณชายฝั่งโดยใช้เครื่องสแกน Genesis เก็บข้อมูล ขณะที่ทั้งสองกำลังดำเนินการสำรวจซากประหลาดอยู่นั้น จิลก็พบวัตถุชิ้นหนึ่งคล้ายหลอดบรรจุของเหลวในซาก Globster โอไบรอัน จึงขอสิ่งนั้นจากเธอเพื่อนำไปสืบสวน

เมื่อเสร็จสิ้นการสำรวจ โทรศัพท์ของ โอไบรอัน ดังขึ้นและพูดคุยกับบุคคลปลายสายด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด จิล และ ปาร์คเกอร์ ต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย หลังจากวางสาย โอไบรอัน ก็บอกกับทั้งคู่ว่าขาดการติดต่อกับ คริส เรดฟิลด์ และ เจสสิก้า เชราวัต เขาส่งข้อมูลให้ทั้งคู่ดู จึงทราบว่าสัญญาณขาดหายไปในแถบมหาสมุทร และคาดว่าน่าจะเป็นที่เรือ ด้วยเหตุนี้ปฏิบัติการณ์ค้นหา คริส และ เจสสิก้า จึงเริ่มขึ้น

 

6.08 PM ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

พอทั้งคู่มาถึงเรือ Queen Zenobia ซึ่งเป็นที่หมาย ก็เริ่มค้นหา คริส และ เจสสิก้า ทันที พวกเขาสำรวจแต่ละห้องจนมาถึงห้องครัว ขณะที่ ปาร์คเกอร์ เปิดฝาตะแกรง จิล ก็ใช้ Genesis สแกนหาข้อมูลแล้วพบบางอย่างรูปร่างคล้ายปืน ขณะที่หยิบปืนที่มีข้อมือศพติดขึ้นมาด้วยนั้น จิล รู้สึกถึงความผิดปกติเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลัง พอหันไปดู ก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็นเมื่อสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ Ooze ตรงมาที่พวกเขา ทั้งคู่สาดกระสุนไม่ยั้งจนมันตาย ปาร์คเกอร์ คาดว่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์นี้ต้องมีส่วนทำให้ลูกเรือหายไปแน่ ลางสังหรณ์ของ จิล บ่งบอกว่าสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีและเริ่มเป็นห่วง คริส แล้วว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

6.20 PM บนเรือ Queen Zenobia

ระหว่างที่ทั้งคู่ตรวจสอบซาก Ooze  ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีใครปิดประตู จิล จึงรีบรุดหน้าไปยังหน้าประตูที่คาดว่าน่าจะเป็นต้นตอของเสียงนั้น พอมองผ่านช่องมองประตู เธอก็เห็นชายคนหนึ่งถูกจับมัดข้อมือนั่งหันหลัง เธอมั่นใจว่าเป็น คริส แน่จึงพยายามเปิดประตูแต่ก็เปิดไม่ออก เธอรีบรายงาน ปาร์คเกอร์ และตามหากุญแจเพื่อไขเข้าไป

ระหว่างที่ จิล สำรวจตามที่ต่างๆ นั้น ก็ได้ยินเสียงร้อง พอวิ่งไปตามเสียงร้องก็พบผู้หญิงคนหนึ่งถูก Ooze สังหารอย่างโหดเหี้ยม ปาร์คเกอร์ ติดต่อมาหา จิล เพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอบอกว่าเจอผู้หญิงคนหนึ่งถูกฆ่า และพบกุญแจที่ศพ ปาร์คเกอร์ จึงแนะนำว่าให้ลองนำมาไขห้องที่ขัง คริส ไว้และบอกว่าจะไปพบเธอที่หน้าห้องดังกล่าว จิล รีบย้อนกลับไปที่ห้องขัง พอไขเข้ามาแล้ว จิล รีบวิ่งเข้าไปหาแล้วเอามือแตะไหล่ แต่ว่าศีรษะกลับร่วงลงมาที่พื้น ชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นเพียงหุ่นที่จัดฉากขึ้นเพื่อหลอกพวกเขาเท่านั้น กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นกับดักก็สายเกินไป แก๊สสลบถูกปล่อยออกมา ก่อนจิล จะหมดสติ ชายสวมหน้ากากเดินเข้ามาแล้วบอกว่า "ถึงเวลาที่ต้องรู้ ‘ความจริง’ แล้วล่ะ คุณ วาเรนไทน์"

 

ตอนที่ 2 ปริศนาทั้งสอง

6.42 PM บริเวณหุบเขาแถบยุโรป

คริส และ เจสสิก้า เดินทางมาถึงบริเวณหุบเขาท่ามกลางหิมะที่หนาวเหน็บตามข้อมูลที่ได้รับ แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่บวกกับความเหนื่อยล้า และยังไม่สามารถติดต่อกองบัญชาการได้ ทางเจสสิก้าเองก็เอาแต่บ่นตลอดการเดินทาง

ขณะที่จวนจะถึงที่หมาย พวกเขาก็เห็นเครื่องบินลำหนึ่งไฟลุกท่วมและร่วงตกลงไปไม่ไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ ทั้งคู่รีบตรงไปยังตำแหน่งที่เครื่องบินตกและสำรวจพื้นที่โดยรอบจนพบแผนการบินที่ตัวศพ พอเปิดอ่านก็ทราบว่าเครื่องบินลำนี้กำลังจะไปที่สนามบิน Valkoinen Mökki ทั้งคู่ตัดสินใจเดินผ่านเข้าไปในเหมืองที่อยู่ใกล้กับจุดที่เครื่องบินตก พอออกมาจากเหมืองแล้ว ทั้งคู่ก็เดินตรงไปยังริมหน้าผาทันที เบื้องล่างนั้นพวกเขาเห็นสิ่งก่อสร้างที่คาดว่าน่าจะเป็นที่ซ่อนของกลุ่มผู้ก่อการร้าย

ไม่นานนัก โอไบรอัน ก็ติดต่อเข้ามาเพื่อสอบถามว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน คริส ตอบกลับไปว่ามีอุปสรรคบางอย่างทำให้สัญญาณขาดหายไป และตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ Valkoinen Mökki เมื่อได้ยินดังนั้น โอไบรอัน หัวเสียทันทีเมื่อรู้ว่าทุกอย่างเป็นแผน และบอก คริส ไปว่าเขาส่ง จิล และ ปาร์คเกอร์ ไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อตามหา คริส และ เจสสิก้า และตอนนี้ขาดการติดต่อจาก จิล และ ปาร์คเกอร์ ไปแล้ว คริส เริ่มกังวลและขอยกเลิกคำสั่งค้นหาแหล่งที่ซ่อนของ Veltro เพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลมเดิเตอร์เรเนียนเพื่อออกค้นหา จิล และ ปาร์คเกอร์ แทน

 

8.32 PM ห้องพักบนเรือ

จิล ตื่นขึ้นมาในสภาพที่ไร้อาวุธหลังจากหมดสติไปเป็นชั่วโมงโดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ส่วนไหนของเรือ ปาร์คเกอร์ ติดต่อเข้ามาและนัดแนะให้ จิล ออกมาเจอกับเขาที่ห้องอาหาร หลังจากที่หาอาวุธของตัวเองจนเจอ พวกเขาก็ตัดสินใจไปที่หอบังคับการเรือเพื่อติดต่อกับกองบัญชาการ แต่พอมาถึง กลับพบว่าเครื่องมือสื่อสารถูกทำลายจนพัง ระหว่างนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังจากข้างนอก เรือโยงที่พวกเขาใช้โดยสารมาถูกระเบิดทำลายไม่มีชิ้นดี

ปาร์คเกอร์ และ จิล รีบวิ่งไปเรือของพวกเขาทันที แต่ว่ากลับมีใครบางคนเข้ามาจับตัว จิล ไว้ ปาร์คเกอร์ เล็งปืนไปที่ตัวคนร้ายแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะความมืด จิล พยายามใช้ความสามารถตอบโต้และสลัดตัวออกจากตัวคนร้ายจนทำให้ไฟฉายที่คนร้ายถือมาตกพื้น แสงจากไฟฉายทำให้เห็นรูปร่างคนร้าย ปาร์คเกอร์ สั่งให้วางอาวุธ แต่คนร้ายขัดขืนและเล็งปืนไปที่ ปาร์คเกอร์ จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น

To Be Continue…

โดยสำหรับสรุปเนื้อเรื่องของภาค Revelation นี้ต้องขอขอบคุณ คุณ Daphne สำหรับข้อมูลบางส่วนที่เคยลงนิตยสาร Play ด้วยครับ

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้