[รีวิวเกม] Persona 4: The Golden - “อภินิหารพลังมิตรภาพกับคดีฆาตกรรมปริศนา”

แชร์เรื่องนี้:
[รีวิวเกม] Persona 4: The Golden - “อภินิหารพลังมิตรภาพกับคดีฆาตกรรมปริศนา”

Reviews Game - Persona 4: The Golden 

 

“อภินิหารพลังมิตรภาพกับคดีฆาตกรรมปริศนา”

 
แพลตฟอร์ม: PS Vita
ผู้พัฒนา: ATLUS
ผู้จัดจำหน่าย:  ATLUS
เรต: 15 ปีขึ้นไป
 
ตัวเอก (ตั้งชื่อเองได้ แต่ตามเทรนด์อนิเมนิยมตั้งตามเนื้อเรื่อง ตอนต่อเน็ตเลยเห็นตั้งว่า "นารุคามิ ยู" กันแทบทุกคน) ย้ายมาพักกับญาติและเรียนมัธยมปลายปีสองที่เมืองอินาบะเป็นเวลาหนึ่งปี ตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใช้ในการเล่นนั้น ผู้เล่นจะต้องคลี่คลายคดีฆาตกรรมปริศนาร่วมกับพวกพ้อง ใช้ชีวิตดูแลมิตรภาพความสัมพันธ์ต่อผู้อื่นและการร่ำเรียน โดยได้รับความช่วยเหลือจากพลังพิเศษที่เรียกว่า "เพอร์โซน่า" พลังที่มีความหมายถึงการเผชิญหน้ากับตัวตนที่แท้จริงของตนเอง
                เชื่อว่าผู้อ่านที่สนใจใน JRPG เกือบทุกท่านซื้อ PS Vita มารอเกมนี้หรือพยายามเก็บเงินเพื่อสุดยอดเกมในตำนานอย่าง Persona 4 ผมรีวิวไปก็เหมือนกับสอนนักเล่นเกมให้เสียบปลั๊กทีวี ซึ่งทุกคนน่าจะทราบถึงวิธีกันดีอยู่แล้ว เอาเป็นว่าให้คะแนนไปก่อนเลยละกัน “9 คะแนน” ไม่มีพลิกโผ ทีม Persona ไม่พลาดงานถนัดที่จะสร้าง "ความพึงพอใจ" ให้แก่เหล่าแฟนกับสาวกจริงๆ เรื่องวิจารณ์ทั่วไปไว้ทีหลัง (สำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นหรือไม่รู้จัก) ทุกอย่างที่เพิ่มมา ทุกอย่างที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใน The Golden ไม่มีข้อตำหนิประการไหนปฏิเสธให้ผู้ที่อยากเล่นต้องควักกระเป๋าสตางค์ซื้อ PS Vita เลยครับ ไม่ได้เอามาหากินเฉยๆ เหมือนหลายค่าย จัดเต็มมากขอรับประกันเลย
                อย่างแรกขอพูดถึงการพัฒนาภายนอกของเกมที่ผู้เล่นสามารถเห็นได้ตั้งแต่แรกคือกราฟิกไม่ได้แค่ลบเหลี่ยมเพิ่มความเนียน หรือที่เรียกว่าอัพสเกลให้เป็น HD เฉยๆ แต่ใน The Golden ทีมสร้างได้ทำเทกเจอร์ขึ้นมาใหม่หลายที่ โดยเฉพาะมิติของฉากและความสวยงามของต้นไม้กับตัวพลังเพอร์โซน่าก็ขัดเกลาปรับปรุงให้ดูดีขึ้นจากภาค PS2 ไปเยอะ มีเพลงใหม่จากฝีไม้ลายมือของคุณเมกุโระนักแต่งเพลงประจำค่ายที่ยังสุดยอดเหมือนเดิม เนื้อเรื่องที่ผสมผสานนิยายนักสืบญี่ปุ่นกับชีวิตประจำวันของเด็กวัยเรียนที่นอกจากต้องเรียนหนังสือแล้วยังต้องสร้างมิตรภาพกับความรักให้ก่อเกิดขึ้นมาก็รวมกันได้อย่างลงตัว ไม่นับที่ต้องกระโดดเข้าไปในโลกโทรทัศน์ เพื่อลุยดันเจี้ยนหาเบาะแสการฆาตกรรมที่ทำให้ผู้เล่นสนุกตื่นเต้นติดตามลุ้นอยู่ตลอด นอกจากนี้กำไรของจริงสำหรับผู้ที่ซื้อภาครีเมคนี้ไปคือการเพิ่มเนื้อเรื่องเพิ่มเหตุการณ์ต่างๆ กับเปลี่ยนระบบใหม่มากมายมายนับไม่ถ้วนเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความหลากหลายให้กับตัวเกมแบบที่ส่วนตัวจบไปแล้ว 7-8 รอบมาเห็นยังต้องอึ้ง อะไรจะเพิ่มเยอะขนาดนั้น!!
                ส่วนย่อหน้านี้สำหรับผู้ไม่เคยเล่นมาก่อน ซีรีส์เพอร์โซน่าในปัจจุบัน (ภาค 3-4) จะแบ่งเกมเพลย์ออกเป็นสองส่วนคือ “ส่วนชีวิตประจำวัน” และ “เข้าไปลุยดันเจี้ยน” ชีวิตประจำวันใน Persona 4 ผู้เล่นก็จะต้องทำตัวเหมือนนักเรียนมัธยมปลายปกติ ไปโรงเรียน คบเพื่อน ทำงานพิเศษ หาของกินเล่น ช้อปปิ้ง ฯลฯ แบบคนปกติเขาทำกัน ยิ่งในภาค The Golden นี่มีอะไรให้ทำให้ลองมากกว่าเดิมอีก (ปวดหัวเลย เลือกไม่ถูก) แต่ที่ไปจีบสาวให้ติดคบเพื่อนให้รักกันสุดๆ หรือเอาผลการเรียนดีๆ มาให้ได้นั้นใช่ว่าจะไรประโยชน์เสียทีเดียว เพราะความระดับสัมพันธ์ของตัวละครเอกกับผู้อื่นนั้นจะส่งผลถึงการพัฒนาความเก่งของเพอร์โซน่าซึ่งเป็นพลังความสามารถหลักในส่วนของ “การเข้าไปลุยดันเจี้ยนด้วย” เพราะตัวละครร้ายหรือฆาตกรนั้นใช้โลกของโทรทัศน์ในการฆาตกรรม (รวมถึงอาจจะเป็นผู้ใช้เพอร์โซน่าด้วย) และโลกของโทรทัศน์นั้นเต็มไปด้วยชาโดว์หรือเงาส่วนที่ถูกปกปิดไว้ของมนุษย์ทำหน้าที่เป็นศัตรูและบอสคอยท่าอยู่ ซึ่งการที่จะได้เป็นผู้ใช้เพอร์โซน่าต่อสู้และร่วมมือกันค้นหาความจริงนั้น เหล่าเพื่อนของตัวเอกจะต้องเผชิญหน้าและเอาชนะด้านมืดของตนเองให้ได้เสียก่อน เป็นอีกหนึ่งแก่นของเนื้อเรื่องในภาคนี้ที่หลายๆ คนประทับใจและเข้าใจได้ง่าย สรุปแล้วสำคัญทั้งสองฝั่งและสนุกทั้งสองฝั่งครับ ในชีวิตปกติก็จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้คิดถึงชีวิตวัยเรียน บทสนทนาและตัวละครจำนวนมากที่ผ่านเข้ามาก็มีเสน่ห์ การวางแผนจัดการให้ตัวเอกได้ทั้งความรู้เรียนดีกีฬาเด่นเพื่อนเพียบสาวติดตรึมก็ทำได้หลายวิธี ส่วนการตะลุยดันเจี้ยนของโลกโทรทัศน์นั้นก็บู๊กันสนั่นหวั่นไหว ระบบต่อสู้ของเกมนี้ก็อยู่ในระดับที่ยากแบบประมาทไม่ได้เสียด้วย เรียกได้ว่าตื่นเต้นกันตั้งแต่สู้ศัตรูปกติไปถึงสู้บอสเลยทีเดียว (มีโหมด VERY EASY บริการคนเล่นไม่ไหวจริงๆ) แต่จุดสำคัญข้อหนึ่งที่ควรต้องบอกไว้ก่อนว่า ไม่ว่าจะเป็นภาคภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่น ตัวเกมค่อนข้างต้องการทักษะทางด้านภาษาพอสมควรครับ จึงจะอินไปกับเนื้อเรื่องกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีการเลือกตอบคำถามหรือกับระบบของเกมที่ค่อนข้างหลากหลายซับซ้อน ก็ต้องอาศัยคู่มือหรือความเข้าใจพอสมควร
                ขอสารภาพความผิดว่ายังเล่นไม่จบแล้วมาเขียนรีวิวครับ ผมเป็นพวกชอบเล่นให้ได้สมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ บวกกับความโรคจิตสิ้นคิดดันไปเลือกเล่นโหมดยากสุดอย่าง RISKY ทำให้กว่าจะไปถึงครึ่งเกมก็ต้องใช้เวลาไปแล้ว 35 ชั่วโมง + เกมโอเวอร์กลางทางอีกหลายรอบ สำหรับแฟนพันธุ์แท้เช่นเดียวกันกับผู้รีวิว ถ้าอยากลองโดนเกมทรมานทรกรรมก็เชิญนะครับ มันส์มาก ศัตรูโหดขึ้น 3-5 เท่า (ลูกน้องตบทีครึ่งหลอด ทีเดียวตายก็มี) แถมได้ค่าประสบการณ์กับเงินกระต๋อยเดียวแทบไม่พอใช้
ป.ล. สำหรับภาคภาษาอังกฤษจะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมปีนี้นะครับ
 
 

9 คะแนน

รีวิวโดย Kanann
 
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ