สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil : Code Veronica ตอนที่ 3 'โศกนาฏกรรมส่งท้ายแด่ตระกูลแอชฟอร์ด'

แชร์เรื่องนี้:
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil : Code Veronica ตอนที่ 3 'โศกนาฏกรรมส่งท้ายแด่ตระกูลแอชฟอร์ด'

เอาล่ะครับ กลับมาต่อกันด้วยเนื้อเรื่องของ Resident Evil : Code Veronica นะครับ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นตอนที่ 3 แล้วล่ะครับคราวนี้ไม่ขอเกริ่นอะไรมากล่ะครับ ตามมาชมกันเลยดีกว่า ^^

เพื่อนๆ สามารถดูเนื้อเรื่องย้อนหลังได้ที่

ในขณะเดียวกับที่แคลร์และสตีฟ ถูกโจมตีด้วยเถาวัลย์ประหลาดในช่วงท้ายตอนที่แล้ว ตัดกลับมาที่เกาะร็อคฟอร์ดอีกครั้ง บริเวณริมผาของเกาะร็อคฟอร์ด ปรากฏร่างของชายคนหนึ่งกำลังปีนหน้าผาเพื่อขึ้นมายังเกาะนี้ เขาคนนั้นคือ คริสต์ เรดฟิลด์ พี่ชายของ แคลร์ เรดฟิลด์ ที่ได้รับการติดต่อจากลีออนว่าแคลร์ถูกพวก Umbrella จับตัวไว้อยู่ที่เกาะร็อคฟอร์ด เขาจึงรีบรุดหน้ามาทันที

หลังจากที่หาทางขึ้นมาถึงสนามฝึกซ้อมทหารได้ คริสต์ก็พบทางลับลงไปห้องปฏิบัติการใต้ดินของอัลเฟรด ที่นั่น คริสต์ได้พบกับจอฉายภาพขนาดใหญ่ ซึ่งมีภาพของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังร้องเพลงกล่อมอัลเฟรดที่หมดลมไปแล้ว ส่วนเวสเกอร์เองที่ยึดห้องสังเกตการณ์ได้แล้วก็เห็นภาพนี้ขึ้นจอเช่นกัน ซึ่งเวสเกอร์ก็ถึงกับเหวอไปเลยเมื่อพบว่า อเล็กเซียยังมีัชีวิตอยู่ เพราะเคยมีข่าวลือมาว่า อเล็กเซียตายไปแล้วนั่นเอง

และเวสเกอร์ก็พบว่า คริสต์เดินทางมาถึงเกาะเพื่อช่วยแคลร์ตามแผนแล้ว ก็ได้ปล่อยเหล่าฮันเตอร์ออกไปตามล่าคริสต์ทันที หลังจากที่หนีรอดออกมาได้ คริสก็พบกับเวสเกอร์อีกครั้ง ซึ่งคริสต์เองก็ตกใจมากเพราะเห็นว่าเวสเกอร์ถูกไทแรนท์ฆ่าตายต่อหน้าต่อตาไปแล้วในภาค 1ซึ่งเวสเกอร์ก็อธิบายให้คริสต์ฟัง รวมถึงบอกคริสต์ด้วยว่า แคลร์ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เกาะร็อคฟอร์ดแล้วเพราะอัลเฟรดได้นำตัวไปยังแอนตาร์กติก

จากนั้นเวสเกอร์ได้เข้าโจมตีคริสต์ เพื่อแก้แค้นที่ทำแผนทุกอย่างของเวสเกอร์พัง แต่การโจมตีของเวสเกอร์นั้นไม่เหมือนมนุษย์ปกติทั่วไป เพราะความเร็วที่มองไม่ทัน กับพละกำลังที่บีบคอคริสต์ได้ด้วยมือเปล่า เล่นเอาคริสต์ถึงกับน่วมลุกไม่ขึ้นเลย แต่แล้วก็มีเสียงหัวเราะผ่านจอมอนิเตอร์ของอเล็กเซียดังขึ้นมา ทำให้เวสเกอร์นึกขึ้นได้ว่าต้องทำตามแผนให้สำเร็จ ก่อนจะปล่อยคริสต์แล้วออกตามล่าอเล็กเซียต่อไป

คริสต์ที่ฟื้นขึ้นมาได้ ก็พยายามหาวิธีเดินทางจนค้นพบเครื่องบินที่จะพาคริสต์ไปยังแอนตาร์กติกได้ในที่สุด และหลังจากผ่านอุปสรรคต่างๆ จนมาถึงคฤหาสน์ลับอีกหลังหนึ่งบนแอนตาร์กติก คริสต์ได้พบกับแคลร์และช่วยเหลือแคลร์เอาไว้ได้ เมื่อแคลร์ฟิ้นขึ้นมาก็ถามหาสตีฟ และคิดว่าเขาน่าจะถูกอเล็กเซียจับตัวไป จึงชวนคริสต์ไปตามหาและช่วยสตีฟ แต่ขณะที่กำลังขึ้นบันไดคฤหาสน์ ก็ถูกเุถาวัลย์ยักษ์จู่โจมจนบันไดพัง และคริสต์เองก็บาดเจ็บที่ขา ทำให้ไม่สามารถไปต่อไ้ด้ และในเวลานั้นก็มีเสียงร้องของสตีฟดังออกมาจากด้านใน คริสต์จึงรีบให้แคลร์รุดหน้าไปก่อน

แคลร์ที่วิ่งตามเสียงร้องของสตีฟ ก็มาจนถึงคุกใต้ดินซึ่งในนั้นก็พบกับสตีฟ ที่ถูกตรึงร่างเอาไว้ พร้อมกับมีขวานขนาดใหญ่ล็อคตัวเขาไว้กับกำแพงอยู่ แคลร์ำพยายามดึงขวา่นออกเพื่อปล่อยสตีฟแต่ไม่ได้ผลเพราะขวานใหญ่และหนักมาก แต่อยู่ๆ สตีฟก็มีอาการแปลกๆ ไป ร่างกายของเขาเริ่มบวมใหญ่ขึ้น และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียว สตีฟที่อยู่ต่อหน้าแคลร์ในตอนนี้ ได้กลายเป็นสัตว์ประหลา่ดขนาดใหญ่ไปแล้วด้วยไวรัส T-Veronica ที่อเล็กเซียแพร่ใส่ร่างของสตีฟ 

หลังจากที่กลายร่างแล้วสตีฟก็เอาขวานไล่ฟันใส่แคลร์ ทางแคลร์เองก็ได้แต่หนีไม่กล้าตอบโต้เพราะอีกฝ่ายคือสตีฟ แคลร์ได้หนีเข้าไปยังห้องขังห้องหนึ่ง ซึ่งสตีฟในร่างตัวประหลาดก็พยายามใช้ขวานพังกรงเข้ามา ขณะที่แคลร์ขังตัวเองอยู่ในกรงที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว แต่อยู่ๆ ก็มีเถาวัลย์ยักษ์โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน เข้าโจมตีแคลร์ และมัดตัวแคลร์ไว้ ในขณะเดียวกัน สตีฟก็พังกรงเข้ามาได้พอดี เขาง้างขวานขึ้นเพื่อจะโจมตีใส่แคลร์แต่ก็หยุดชะงัก เพราะตัวสตีฟเริ่มได้สติขึ้นมาบ้าง เขาพยายามควบคุมตัวเองให้ฟันใส่ก้านเถาวัลย์ที่รัดแคลร์อยู่ได้สำเร็จ แต่โชคร้ายเพราะโดนเถาวัลย์อีกก้านหนึ่งพุ่งเข้าเสียบทะลุร่าง


สตีฟกลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง แคลร์พยายามเรียกสติสตีฟให้ตื่นตัวเสมอ แล้วบอกสตีฟว่าพี่ชายของแคลร์มาช่วยแล้ว เราจะหนีออกจากที่นี่ด้วยกัน แต่บาดแผลของสตีฟสาหัสเกินกว่าที่จะทนได้ สตีฟได้บอกกับแคลร์ว่า "ผมยินดีด้วยที่พี่ชายของคุณมาช่วยคุณได้ตามสัญญา แต่ผมกลับช่วยคุณไม่ได้ ผมดีใจมากที่ได้พบคุณอีกครั้ง.... ผมรักคุณ" แล้วสตีฟก็ได้สิ้นใจลงอย่างสงบ...

ตัดกลับมาทางคริสต์ ที่อาการเริ่มดีขึ้น เขาได้พบกับเวสเกอร์ ที่กำลังเจรจากับอเล็กเซีย โดยเวสเกอร์ต้องการนำตัวอเล็กเซียไป เพราะตัวอย่างของไวรัส T-Veronica นั้นอยู่ที่ตัวของอเล็กเซีย แล้วก็เกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างเวสเกอร์กับอเล็กเซียที่กลายร่าง สำหรับคริสต์ที่แอบดูอยู่ การต่อสู้ครั้งนี้เป็นอะไรที่เหนือธรรมชาติจนเขาไม่มีทางที่จะเข้าไปทำอะไรได้เลย และระหว่างนั้น เวสเกอร์ได้หลบมาในทิศทางที่คริสต์อยู่พอดี เมื่อเวสเกอร์เห็นคริสต์แล้ว และคิดว่าสู้อเล็กเซียไม่ไหว จึงใช้คริสต์เป็นตัวล่อเพื่อให้อเล็กเซียจัดการกับคริสและวิ่งหนีออกทางประตูหน้าไป ส่วนคริสต์เองก็อาศัยจังหวะนี้หนีขึ้นทางบันไดแต่โดนอเล็กเซียขวางไว้ คริสต์จึงยิงสกัดเพื่อให้ตัวเองฝ่าหนีเข้าไปในคฤหาสน์ได้



ภายในคฤหาสน์คริสต์ได้เดินทางมาถึงชั้นใต้ดิน ก็พบว่าแคลร์ติดอยู่ในห้องหนึ่งซึ่งไม่สามารถออกได้ แคลร์แนะนำให้คริสต์ไปเปิดระบบทำลายตัวเองของที่นี่ แล้วระบบล็อคอัตโนมัติจะหยุดทำงาน หลังจากที่คริสต์เปิดระบบทำลายตัวเองได้สำเร็จ แคลร์ก็หนีออกมาได้ และทั้งคู่ก็ได้พบกับอเล็กเซียที่กลายร่างขึ้นไปอีกขั้น คริสต์ให้แคลร์ช่วยหมุนปลั๊กสำหรับปลดล็อคอาวุํธปืนลำแสงที่ชื่อ Linear Launcher จากนั้นก็สั่งให้แคลร์หนีไปก่อนแล้วเขาจะตามไป คริสต์สู้กับอเล็กเซียจนกลายร่างไปอีกขั้นที่คล้ายกับแมลงปอ ในเวลาเดียวกัน ปืน Linear Launcher ก็ทำการชาร์จสำเร็จพร้อมใช้ คริสต์จึงนำปืนนั้นยิงใส่อเล็กเซีัยจนร่างแตกสลายเป็นจุล ปิดฉากตำนานตระกูลแอชฟอร์ดเป็นที่เรียบร้อย

ในขณะที่คริสต์เตรียมไปรวมตัวกับแคลร์อีกครั้ง ก็พบว่า เวสเกอร์จับตัวแคลร์ไว้ คริสต์ได้ตามไปช่วยเหลือจนเวสเกอร์ยอมปล่อยตัวแคลร์ คริสต์บอกกับเวสเกอร์ว่า อเล็กเซียตายแล้ว แต่เวสเกอร์ไม่ใส่ใจอะไรมาก เพราะตอนนี้เขาได้ร่างของสตีัฟ ที่มีเชื้อไวรัส T-Veronica อยู่ในตัวมาแล้ว แคลร์โมโหมากและพยายามเข้าจู่โจมเวสเกอร์ แต่คริสต์ห้ามไว้พร้อมสั่งให้แคลร์หนีไปยังจุดจอดเครื่องบินก่อน แล้วเขาจะตามไป

คริสต์กับเวสเกอร์ได้สู้กันอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้วคริสต์ก็ยังไม่สามารถต่อกรกับพลังเหนือมนุษย์ของเวสเกอร์ได้อยู่ดี แถมโดนอัดจนเกือบปางตาย  โชคยังดีที่ระบบทำลายตัวเองของที่นี่เริ่มทำงานทำให้เพดานบางส่วนถล่มลงมาขวางเวสเกอร์เอาไว้ เวสเกอร์ได้บอกกับคริสต์ว่า พบกันคราวหน้านายอาจไม่โชคดีแบบนี้อีกแน่ พร้อมกับหัวเราะท่ามกลางเปลวเพลิงและเพดานที่พล่มลงมา ส่วนทางคริสต์ก็หนีไปรวมกับแคลร์ และขับเครื่องบินหนีออกมาจากแอนตาร์กติกได้สำเร็จ

สรุปเส้นทางของตัวละคร หลังจบภาค Code Veronica

คริสต์
แคลร์ได้ขอให้คริสต์กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ทางคริสต์ตั้งเป้าหมายไว้ที่การกำจัด Umbrella ให้ได้ จึงออกเดินทางเพื่อไปสมทบกับจิลที่หนีออกมาจากเมืองแรคคูนพร้อมกับแบรี่ และก่อตั้งกลุ่ม B.S.A.A. ขึ้น

แคลร์
ส่วนแคลร์ได้กลับไปหาเชอรี่เพื่อให้กำลังใจแก่เชอรี่ที่ถูกทางรัฐบาลทำการทดลองและวิจัยไวรัส G ในตัวของเชอร์รี่ และแคลร์ก็ได้เข้าร่วมกับหน่วยงาน Terrasave ในภาค Degenerarion

เวสเกอร์
เวสเกอร์ปฏิบัติหน้าที่ในการนำตัวอย่างไวรัส T-Veronica กลับไปให้กับบริษัทปริศนาได้สำเร็จ ซึ่งไวรัสนั้นอยู่ในศพของสตีฟ หลังจากนี้ก็ไม่มีข้อมูลใดๆ ของเวสเกอร์เพิ่มเติมอีกจนในปี 2002 เวสเกอร์ได้นำไวรัส T-Veronica ที่สกัดมาได้ไปรักษามานูเอลล่า ลูกสาวของจาเวียร์เพื่อแลกกับเงินก้อนโต

สตีฟ
สำหรับสตีฟนั้น หลังจากที่เสียชีวิตลง ก็ถูกเวสเกอร์นำร่างไปสกัดไวรัส T-Veronica จากนั้นมาก็ไม่มีเปิดเผยข้อมูลใดๆ อีกเลย (มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะกลับมาอีกครั้ง ในภาคที่แคลร์มีบทในเกม...)

ทันย่า ?
หากเพื่อนๆ เล่นภาค Darkside Chronicle เพื่อนๆ จะพบว่ามีบันทึกเสียงของอเล็กเซีย และอัลเฟรด ที่พูดถึงคนๆ หนึ่งที่ชื่อว่า ทันย่า ในเนื้อหาของเกมซีรี่ส์นี้ไม่มีข้อมูลใดๆ มากเกี่ยวกับคนๆ นี้ ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับอัลเฟรด และอเล็กเซียอยู่พอสมควร 
จากเทปบันทึกเสียงของอเล็กเซียนั้น เหมือนกับว่า ทันย่ามีจิตใจและร่างกายเหมือนกับอเล็กเซีย ที่อเล็กเซียไปเสาะแสวงหามา และอาจจะถูกอเล็กเซียทำการทดลองอะไรบางอย่างกับตัวของทันย่าจนเสียชีวิตลงด้วยวัย 13 ปี
เพื่อเป็นการขอบคุณ อเล็กเซียกับอัลเฟรดจึงจัดงานวันเกิดให้กับทันย่าเรื่อยมา งานวันเกิดครบรอบ 13 ปี ตลอด 15 ครั้ง และจะฉลองวันเกิดครบรอบ 13 ปีแด่ทันย่าต่อไปตลอดกาลนาน...

จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับภาค Code Veronica นะครับ หวังว่าเพื่อนๆ จะไม่เบื่อไปซะก่อนนะ และขออภัยด้วยนะครับ เพราะติดช่วงปีใหม่เลยไม่สามารถเขียนลงได้ทันในวันศุกร์ที่ผ่านมา สำหรับภาคต่อไปจะเป็นภาค Resident Evil 4 ครับ

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ