แพลตฟอร์ม: Nintendo 3DS
ผู้พัฒนา: Banpresto, Monolith Soft
ผู้จัดจำหน่าย: Namco Bandai Games
เรต: 13 ปีขึ้นไป
จริงๆ แล้วผมไม่ถนัดเกมแนวนี้เท่าไรนะครับ พวก SRPG แนววางแผนสู้เดินเป็นช่องทั้งหลาย แล้วก็เกมที่เป็นต้นแบบของโปรเจ็กต์ครอสโซนนี้อย่าง Namco X Capcom ผู้เขียนก็ไม่ได้เล่น งานนี้ซื้อมาเพราะความอยากรู้อยากเห็นครับ แล้วก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่เกมนี้สามารถตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของผมด้วยความสนุกคุ้มค่าพอสมควรเลยทีเดียว
ตัวเกมนั้นประกอบขึ้นมาอย่างง่ายๆ โดยผู้เล่นจะต้องลุยไปทีละด่านทั้งหมด 41 ด่านยาวเหยียด (ด่านหลังๆ ใช้เวลาเล่นประมาณด่านละ 1 ชั่วโมงขึ้นไป) เป็นแนววางแผนการรบนำตัวละครเดินเป็นช่องๆ เข้าไปใกล้ศัตรูแล้วโจมตี การเข้าฉากโจมตีศัตรูนั้นจะออกมาคล้ายกับเกมแอ็กชั่นคือมีปุ่มให้กดด้วย ตอนกดก็ไม่ใช่ว่ากดรัวมั่วนิ่มยังไงก็ได้ เพราะแต่ละท่าของตัวละครนั้นจุดประสงค์ในการใช้จะแตกต่างกันออกไป เช่น ท่านี้จะทำให้ศัตรูการ์ดแตกง่ายขึ้น อีกท่าจะทำให้มันลอยขึ้นไปสูงไว้สำหรับต่อคอมโบบนอากาศ เป็นต้น
ในด่านต่างๆ นั้นก็จะมีสมบัติให้เก็บซ่อนเอาไว้แล้วก็ศัตรูทั้งระดับธรรมดาและระดับบอสเป็นจำนวนมากพอสมควรให้ต่อสู้ ซึ่งถ้าให้ดีผู้เล่นจะต้องจัดการให้หมดแม้เงื่อนไขของด่านจะบอกว่าแค่จัดการบอสบางตัวก็พอ เพราะแต่ละด่านนั้นย้อนเล่นเพื่อปั๊มเลเวลไม่ได้ ต้องวางแผนกันให้ดีๆ ว่าอยากให้ตัวละครไหนเก่ง ตัวละครไหนไม่ค่อยได้ใช้ก็ไม่ต้องไปเก็บเลเวล
สุดท้ายเมื่อจบแต่ละด่านก็จะสามารถปรับแต่งตัวละครได้อีกเล็กน้อย เช่น ของสวมใส่หรือตำแหน่งสองตัวละครหลักกับอีกหนึ่งตัวละครเสริม (รวมเป็น 3 คน ต่อหนึ่งช่องยูนิต) ค่าสเตตัสนั้นบอกเป็นภาษาอังกฤษครับ แต่พวกสกิลและความสามารถพิเศษต่างๆ ก็ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นกันบ้าง ทั้งหมดนี้คือลักษณะภายนอกของเกมครับ
ส่วนที่ทำให้โปรเจ็กต์ครอสโซนพิเศษกว่าเกมวางแผนเกมอื่นๆ คือตัวละครที่นำเข้ามาโดยเฉพาะฝ่ายดีหรือฝ่ายตัวเอกนั้นจับยำใหญ่ใส่สารพัดค่ายมากันเต็มไปหมดร่วมหลายสิบตัวละคร
ทั้งจากค่าย Namco Bandai เองอย่าง Tales of Vesperia, Tekken, God Eater, .hack
จาก Capcom ก็มี Street Fighter, Devil May Cry, Darkstalker, Rockman X
ส่วนทาง SEGA ก็มี Sakura Taisen, Senjo no Valkyrie, End of Eternity เป็นต้น จริงๆ ยังมีอีกเพียบเอามาใส่หมดเดี๋ยวจะยาวเกิน
ตัวละครแต่ละตัวแต่ละกลุ่มก็มาพร้อมกับ Theme Song หรือเพลงประจำตัวที่แตกต่างกันออกไป และแน่นอนว่าท่าไม้ตายหรือการโจมตีในรูปแบบต่างๆ ถ้าคนเคยเล่นเกมนั้นมาก่อนก็จะได้รับการเซอร์วิสกันแบบเต็มๆ หายคิดถึงกันไปข้าง ซึ่งการนำตัวละครดังมารวมหัวกันถล่มศัตรูในเกมนี้นี่แหละคือประเด็นหรือจุดขายหลักของ Project X Zone เลย ขาดข้อนี้ไม่ได้และไม่พูดถึงไม่ได้
นอกจากจะเป็นทางด้านเกมเพลย์ แอ็กชั่นท่าไม้ตายและเพลงประจำแล้ว บทพูดภายในเกมก็จะสื่อออกมาในแนวล้อเลียนอุปนิสัยหรือคาแรคเตอร์ประจำของตัวละครนั้นด้วย เช่น Frank West จาก Dead Rising เอะอะก็ถ่ายรูป เจอสาวเป็นไม่ได้ เน้นความเฮฮาควบคู่ไปกับการต่อสู้ศัตรูทั้งหลายแบบเดินหน้าลุยมันไม่ยั้ง
มาถึงข้อเสียกันบ้าง สำหรับผมแล้วนอกจากความรู้สึกสนุกแบบเรื่อยๆ ซาวด์แทร็กเจ๋งๆ แล้วก็ตัวละครที่ชื่นชอบ ตัวเกมไม่ค่อยมีอะไรที่เรียกได้ว่า “โป๊ะเชะโดนใจ” ชนเข้ามาตรงๆ ในเดือนนี้ผมเล่นพร้อมกันสามเกมคือเกมนี้ Bravely Default กับ Toki to Towa ตัวโทคินั้นชัดเจนว่าเผามาให้เล่นแถมงกแบบน่าเกลียด ส่วน Bravely ถึงขั้นอย่างจะร้องไห้ในความสุดยอดของเกม (ถึงจะไม่ได้เป็นคนรีวิวลง play แต่ขอให้ 10 คะแนนเต็มมันตรงนี้ล่ะ!) Project X Zone นี่อยู่ในระหว่างตรงกลางพอดีครับ ไม่ได้แย่ สนุกเลยล่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับร้องอู้หูว ว้าว หรือรู้สึกไม่เสียชาติเกิดที่ได้เล่น ที่รู้สึกชัดเจนเลยก็มีตรงนี้ ส่วนข้อเสียปลีกย่อยอื่นๆ อย่างเช่น มุมกล้องไม่ได้ดั่งใจในบางจุดแถมหมุนไม่ได้ กับ Sprite พิกเซลตัวละครศัตรูดูไม่ค่อยตั้งใจทำเท่าไหร่ผมไม่ค่อยคิดมากอะไรครับ
สรุปแล้วถ้าคุณผู้อ่านชอบตัวละคร Namco Bandai ชอบ Capcom ชอบ SEGA ก็เอามาพกติดตัวไว้สักตลับก็ได้ครับ แต่ถ้าไม่รู้จักบนหน้าปกเกมสักคนนี่ก็อาจจะลองเกมแนววางแผนที่เล่นง่ายแล้วก็สนุกใช้ได้เกมนี้ดูก็ได้ครับ
*ป.ล. อย่างน้อยก็น่าจะรู้จักริวกับเคนบ้างนะ บ้านนอกอย่างผมยังรู้จักเลย (หัวเราะ)
คะแนน 8/10
รีวิวโดย Kanann