สวัสดีค่ะ สำหรับแฟนๆ Square Enix อาจจะเริ่มตั้งขอสงสัยแล้วว่า เอทำไมเดี๋ยวนี้ค่าย Square Enix หันไปเอาดีทำแต่เกมบนมือถือและเกมโซเชียลกันเสียหมด ทั้งหลายต่อหลายเกม ตั้งแต่ Traveling Fairy for Mobage, Emperors SaGa for GREE, Final Fantasy: Airborn Brigade รวมถึงเกมใหม่อย่าง Star Galaxy ที่พึ่งเปิดตัวไม่ได้นาน ล้วนแต่เป็นเกมแนว Social ทั้งสิ่้น
ทำไมถึงได้ผลิตเกมโซเชียลออกมาเสียมากมายหล่ะ ก็เพราะต้นทุนในการพัฒนาเกมที่ต่ำว่าเกมแนว Console และยังสามารถสร้างผลกำไรให้เรื่อยๆ ซึ่งผิดกับเกมคอนโซล ซึ่งจากตารางข้างบน แถบสีฟ้าที่ปรากฏคือ ผลกำไรที่ทาง Square Enix เองได้จากการทำเกมแนวโซเชียล และสีแดงคือ ส่วนที่ไม่ได้ทำกำไร และสีเขียวคือ เกมที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา
และจากตารางจะเห็นได้ชัดเลยว่า ถึงแม้ว่าผลกำไรจากเกมโซเชียลจะลดไปสักเกมหนึ่ง ก็ไม่ได้ทำให้ทาง Square Enix นั้นเจ็บตัวมากนัก เมื่อเทียบกันหากเป็นเกมคอนโซล หากผลกำไรลดไปเกมหนึ่ง ย่อมส่งผลและปัญหาระยะยาวให้กับทาง Square Enix อย่างแน่นอน
Square Enix President, Yoichi Wada ได้กว่าวไว้ว่า ต้นทุนในการพัฒนาเกมที่ต่ำว่าเกมแนว Console และยังสามารถสร้างผลกำไรให้เรื่อยๆ ซึ่งผิดกับเกมคอนโซล และ ในการทำเกมแบบ HD นั้น เราได้ประสบมาทั้งผลกำไรและขาดทุนในปริมาณที่คู่คี่ผสมผสานกันมาตลอด แต่สำหรับเกมแนวโซเชียลและมือถือแล้วนั้น ทางเรากลับพบว่ามีเพียงไม่กี่เกมที่ไม่ได้ทำรายได้ดีเท่าไร
และจากเหตุผลข้างต้น ก็ทำให้ทาง Square Enix เองหันไปเอาดีในการทำเกมโซเชียลเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้แล้ว ด้วยนิสัยคนญี่ปุ่นเองที่ใช้มือถือเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ก็ทำให้วัฒนธรรมในการเล่นเกมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
แต่อย่างไรก็ตามทาง Square Enix เองก็ไม่ได้ทิ้งเกมคอนโซลแบบหมดตัว จากข่าวคราวในสัปดาห์ที่แล้วเองที่ทาง Square Enix เองได้ตัดสินใจที่จะกลับไปปลุกปล้ำกับโปรเจค Final Fantasy XIV ต่อ ทั้งบนเครื่องคอนโซลและ PSP แต่อย่างไรก็ตาม ทาง Square Enix เองก็ได้มองแล้วว่าในระยะเวลา 2-3 ปีในข้างหน้านี้ อาจจะไม่ใช่ยุคที่รุ่งเรืองของเกมคอนโซลต่อไป และทาง Wada เองก็ยังคงหวังในการทำกำไรกับรูปแบบในทางแบบใหม่ของทาง Square Enix
ที่มา : crunchyroll / siliconera