REVIEWS
Atelier Ayesha: The Alchemist of Twilight Land
“ปรุงยาตามหาน้อง”
แพลตฟอร์ม: PS3
ผู้พัฒนา: Gust
ผู้จัดจำหน่าย: Gust
เรต: 13 ปีขึ้นไป
ผู้พัฒนา: Gust
ผู้จัดจำหน่าย: Gust
เรต: 13 ปีขึ้นไป
เกมเบาสมองสบายๆ สำหรับผู้รักใน JRPG และรักในเหล่าสาวน้อย เน้นคำว่ารักสาวน้อยเพราะเท่าที่ดูแล้วตามปกติกลุ่มเป้าหมายของเกมนี้ก็น่าจะเป็นเด็กหรือผู้หญิงเสียมากกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าที่ซื้อมาบูชากันนี่มีแต่พวกตาลุง อันนี้ไม่ได้ซีเรียสอะไรนะครับ ล้อเล่นเฉยๆ
ไม่มีความรุนแรงหรือความยากแบบซับซ้อนต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมในการเล่น Atelier Ayesha (อ่านว่าอาช่า) มีเนื้อเรื่องอยู่ว่าสองพี่น้องอาช่าและนิโอะประกอบกิจการปรุงยาต่อจากผู้เป็นตาซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว อยู่มาวันหนึ่งระหว่างที่นิโอะได้หายตัวไประหว่างออกไปเก็บวัตถุดิบมาปรุงยา อาช่าจึงต้องอยู่อย่างเดียวดายไร้ร่องรอยว่านิโอะหายไปที่ไหน จนในเวลาต่อมาอาช่าได้พบกับเบาะแสและคำบอกใบ้ถึงการตามหาน้องสาวของเธอ ภารกิจปรุงยาและการค้นหาดอกไม้แห่งแสงจึงเริ่มต้นขึ้น จะตามหาน้องสาวจนเจอหรือไม่ ระหว่างทางนั้นจะเจอใครหรือพบเนื้อเรื่องย่อยเรื่องใดบ้าง อยู่ที่ผู้เล่นต้องค้นหากันเองครับ ซึ่งเล่นได้หลายรอบและมีฉากจบหลากหลายแบบรอคุณอยู่
เบาๆ เดาเรื่องกันง่าย ไม่มีศัตรูหรือปริศนายากก็จริง แต่ก็เฉพาะสำหรับท่านผู้อ่านที่พอรู้ภาษาญี่ปุ่นหรือคุ้นเคยเกมแนว jRPG ที่ต้องผสมของ ทำเควสต์ช่วยเหลือผู้คน ที่สำคัญคือตัวเกมมีกำหนดให้เล่น 3 ปีในเกมเท่านั้น ซึ่งต้องบอกว่าสั้นพอสมควรจึงต้องจัดการตารางเวลาให้ดีด้วย ภาษาญี่ปุ่นจะอยู่ในระดับเด็กประถมมัธยมนิดๆ ก็พอฝึกไปใช้งานได้นิดหน่อยนะครับ แต่ถ้าไม่มั่นใจในข้อแม้ที่กล่าวไปข้างต้นก็รอภาคภาษาอังกฤษแล้วไปเล่น Rorona, Totori, Meruru รอกันก่อนก็ได้ (ภาษาอังกฤษวางจำหน่ายครบหมดแล้ว) สามภาคก่อนนี่จะเกิดขึ้นในโลกของอาร์แลนด์ต่อเนื่องกันไป ส่วนอาช่านี่แยกออกมาไม่เกี่ยวข้องกัน เรื่องเกิดขึ้นที่แดนสนธยา (ทะโซกาเระ โนะ ไดฉิ) ครับ ซึ่งไม่ใช่แค่เนื้อเรื่องเท่านั้นที่แยกจากกันไปเลย ระบบต่างๆ ทั้งระบบสู้กับระบบปรุงยาอันเป็นหัวใจสำคัญของซีรีส์นี้ก็ถูกเปลี่ยนไปเพียบเลย
โมเดลตัวละครจุดขายของซีรีส์ก็ทำได้นิ้งมากเหมือนเคยครับ สวยน่ารักจริงๆ ไม่อิงนิยาย ผู้อ่านสุภาพสตรีก็ไม่ต้องกังวลไป ตัวละครชายไม่ว่าจะหนุ่มหรือแก่ขอบอกว่าหล่อเลิศเพริดพริ้งกันทั้งนั้น ทีมพัฒนาตั้งใจเกลาเต็มที่ทั้งสีหน้าเสื้อผ้าหน้าผมตัวละครสำคัญทุกคน มอนสเตอร์ก็ออกแบบได้น่ารักๆ กันเป็นส่วนใหญ่ด้วย เข้ากับบรรยากาศของแดนสนธยาที่เน้นธรรมชาติกับดอกไม้ได้เป็นอย่างดี ...ก็เอาใจตามกลุ่มเป้าหมายแนวแอนิเมชั่นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ไม่เน้นซีเรียสมาก ประมาณนั้นเลย อีกด้านที่จะพูดถึงก็คือตัวเกมซีรีส์นี้ไม่เน้นฉากหลังเหมือนเคยครับ ธรรมดาๆ ชัดเจนว่าไม่ได้สนใจเป็นพิเศษอะไรและคนเล่นกลุ่มเป้าหมายก็คงไม่ใส่ใจด้วยเช่นเดียวกัน ให้ดูกันเป็นบ้าน เป็นเมือง เป็นต้นไม้ เป็นดันเจี้ยนอะไรพวกนี้ก็พอ แล้วก็ผลจากการพยายามทำให้ตัวละครสวยมากมายนั้น ก็ทำให้เวลาเอฟเฟ็กต์ในฉากเยอะภาพก็เฟรมตกตามประสา PS3 ทั้งที่เข้าสู่ปลายยุคแล้วนะ...
เกมจะแบ่งเป็นหลักใหญ่ 4 ข้อครับ หนึ่งการปรุงยา สองการต่อสู้ สามการทำเควสต์กับทำเนื้อเรื่อง (ทั้งหลักและรอง) และสี่การจัดการเวลาสามปีที่เกมให้มาให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยสำหรับผู้เล่นอาร์แลนด์ทั้งสามภาคมานั้นก็ต้องปรับตัวกับระบบและสมดุลใหม่ๆ หลายอย่าง เช่น การปรุงยานั้นก็อาจจะได้คุณสมบัติไม่พึงประสงค์มาบ้าง ขยะท่วมบ้าง ไอเทมเทพทำไมทำยากเช่นนี้ ฯลฯ การต่อสู้ที่คล้ายของเดิมแต่ไม่มีการกดป้องกันแล้วและจะไปเน้นที่ “ตำแหน่ง” ของตัวละครกับศัตรูที่อาจจะต้องเคลื่อนไหวอ้อมไปข้างหลังบ้างหรือออกห่างจากกันบ้าง ส่วนการทำเควสต์ที่แสนสะดวกเพราะกึ่งจูงบอกให้ไปไหนต่อไหนเอง การจัดการเวลาให้ได้ฉากจบที่ต้องการหรือเก็บ Trophy ให้ครบก็ต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้ทางด้านภาษากับเกมแนวนี้ หรือพึ่งคู่มือเล็กน้อยเช่นเคยครับ ถ้าเล่นดีๆ รอบเดียวก็เก็บได้เกือบครบเหมือนกัน
คงไม่ต้องบอกย้ำว่าเป็นเกมเฉพาะกลุ่มนะครับ ตัวเกมเปิดเนื้อเรื่องบทใหม่เป็นแดนสนทยานี่ก็ดูจะปรับเปลี่ยนลองผิดลองถูกอยู่เยอะเลย มองโลกในแง่ดีมันเป็นอะไรที่ผู้เล่นจะต้องเติบโตไปกับทางค่ายเกมแหละครับ เพราะนี่ไม่ใช่เกมฟอร์มยักษ์อลังการอะไร เน้นเล่นดูโน่นดูนี่ลองทำนั่นทำนี่สบายๆ ไปตามประสาคนชอบ jRPG เสียมากกว่า แล้วก็ส่งฟีดแบ็คกลับไปบ้าง (เขารับฟังนะ) โดยรวมแล้วส่วนตัวผมชอบอาร์แลนด์สองภาคหลังสุดอย่าง Totori กับ Meruru มากกว่า แต่ไม่ว่ายังไงเล่นภาคนี้แล้ว ก็ยังรอเล่นภาคต่อไปอีกเช่นเคยอยู่ดีครับ
7 คะแนน
รีวิวโดย Kanann