REVIEWS
Agarest Senki Mariage
ภาคล่าสุดของ RPG จีบสาวข้ามรุ่นที่โมเอะกว่าเดิม
แพลตฟอร์ม: PSP
ผู้พัฒนา: Felistella
ผู้จัดจำหน่าย: Compile Heart
เรต: 18 ปีขึ้นไป
จากเกม RPG จีบสาวแนวแฟนตาซีบนเครื่อง PS3 และ Xbox360 ที่ออกมาแล้วถึง 3 ภาคด้วยกัน ก็ถูกสร้างภาคใหม่ให้กับเครื่องพกพา PSP แต่ระบบต่อสู้ของเกมจะเปลี่ยนจากกึ่งวางแผนการรบมาเป็น RPG ล้วนๆ ซึ่งเข้าใจได้ง่ายขึ้น และความยาวของเกมก็ยังสั้นกว่าภาคอื่นๆ ด้วย
แนวการเล่นและเนื้อเรื่องจะเหมือนกับภาคอื่นๆ คือเป็นเกม RPG ที่จะต้องสร้างความสัมพันะระหว่างตัวเอกกับเหล่าตัวละครสาวในเกม ซึ่งเมื่อผ่านเนื้อเรื่องไปช่วงหนึ่งแล้วก็จะต้องเลือกคู่ครองกับตัวละครหญิงคนหนึ่ง แล้วเกมก็จะเปลี่ยนเนื้อเรื่องไปเป็นบทของรุ่นลูกของตัวละครนั้นๆ แทนโดยความสามารถของพ่อแม่ก็จะถูกถ่ายทอดไปให้ลูกด้วย ซึ่งภาคแรกของเกมนั้นจะมีถึง 5 รุ่นคนเลยทีเดียวใช้เวลาในการเล่นเนื้อเรื่องหลักก็ราว 100 ชั่วโมงแล้ว แต่ภาค Mariage จะลดลงเหลือแค่ 2 รุ่นเท่านั้น ทำให้ตัวเกมกระชับลง ใช้เวลา 30-40 ชั่วโมงก็จบได้ นอกจากนั้นตัวละครหลักในเกมก็จะมีน้อยลง คือมีแค่ตัวเอกและเพื่อนสาวอีกสามคนที่เราจะมีโอกาสแต่งงานด้วยรวมแล้วเป็น 4 ตัวละครเท่านั้นในแต่ละรุ่น ส่วนตัวละครอื่นๆ จะเป็น Sub Member ที่เรียกออกมาช่วยในระหว่าการต่อสู้เท่านั้น
เกมจะถูกเปลี่ยนจากแนวกึ่งวางแผนการรบที่เน้นตำแหน่งยืนของตัวละครในทีม มาเป็น RPG แบบใส่คอมมานด์ทั่วไปที่เข้าใจง่ายขึ้น ตัวละครแต่ละตัวทั้งฝ่ายเราและศัตรูจะผลัดกันโจมตีตามเทิร์นของตนทีละตัว โดยลำดับการโจมตีจะแสดงให้เห็นในแถบบาร์ด้านขวาของฉากต่อสู้ คำสั่งโจมตีก็จะเป็นแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มีไอคอนและคอมมานด์เป็นภาษาอังกฤษกำกับ เช่น Attack, Skill, Item เป็นต้น แต่ชื่อสกิลและไอเท็มยังคงเป็นภาษาญี่ปุ่นอยู่ ส่วนท่าโจมตีผสานหรือ Chain ในภาคนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อ ตัวละครฝ่ายเรามีลำดับการโจมตีติดต่อกันบนแถบบาร์ ซึ่งท่า Chain ก็จะมีความรุนแรงต่างกันตามจำนวนตัวละครที่ใช้ในท่าตั้งแต่ 2-4 คน MP ของทุกคนที่เข้าร่วมโจมตีจะลดลง แต่แม้จะมีเงื่อนไขมากแต่ก็มีความรุนแรงสูงเหมาะกับการต่อสู้กับศัตรูระดับบอส
สกิลของเกมนี้จะไม่ได้ขึ้นกับเลเวลของตัวละคร แต่จะได้มาตจากการเก็บสะสมวัตถุดิบที่ได้จากการกำจัดศัตรู เมื่อมีวัตถุดิบตามที่ต้องการแล้วก็จะสามารถเลือกติดตั้งสกิลใหม่ๆ ได้ ซึ่งทำให้เราไม่สามารถได้รับสกิลบใหม่ๆ แม้ว่าจะวนเก็บเลเวลในจุดเดิมๆ เพราะจะไม่มีวัตถุดิบที่ต้องการนั่นเอง และนอกจากสกิลประจำตัวแล้วก็มีระบบใหม่ที่เพิ่มมาคือ Role ที่จะคล้ายกับระบบ Job ของเกม RPG อื่นๆ แต่ Roll ของเกมนี้นั้นจะเป็นหน้าที่ในการต่อสู้ 4 อย่างก็คือ Attacker ที่เน้นที่โจมตี, Defender ที่คอยป้องกันเพื่อน, Supporter ที่คอยฟื้นพลังและรักษา และ Conductor ที่มีสกิลอำนวยความสะดวกพิเศษเช่นเรียกตัวละครเสริมมาช่วย ซึ่งตัวละครทั้ง 4 คนในปาร์ตี้เราจะต้องเลือกเข้ารับหน้าที่ใดหน้าที่นึง จะเลือกซ้ำกันไม่ได้ เมื่อต่อสู้ชนะก็จะได้ค่าประสพการณ์มาทำให้ เลเวลของ Role นั้นๆ เพิ่มขึ้นด้วย และจะได้รับ Role Skill ตอบแทน ซึ่งตัวละครแต่ละคนก็จะมี Role Skill ที่จะได้มาต่างกัน ดังนั้นก็ต้องพิจารณาการเลือก Role ให้ตัวละครด้วย
การเดินทางบนแผนที่จะเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างเมืองและจุดต่างๆ ซึ่งช่วงที่เราไม่เคยไปนั้นจะพบศัตรูอยู่ถี่เกือบทุก 2 วินาทีเลยทีเดียว แต่หลังจากที่ผ่านเส้นทางนั้นแล้วก็จะกลายเป็นเส้นทางปลอดภัยซึ่งจะไม่พบศัตรูในช่วงนั้นอีก แต่ถ้าต้องการจะสู้กับศัตรูก็ใช้วิธีการกด L+R จะเข้าฉากต่อสู้เองทันที ส่วนระบบอีเวนท์และเควสต์ในเกมจะง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ตำแหน่งที่มีอีเวนท์หลักนั้นก็จะแจ้งให้เห็นบนแผนที่โลกเลย ส่วนเควสต์ย่อยนั้นเราจะได้จาก Guild ในเมืองซึ่งเงื่อนไขส่วนมากจะง่ายๆ เช่นให้ไปหาไอเทมที่กำหนดจากดันเจี้ยนต่างๆ
ความสัมพันธ์กับสาวๆ ในเกมนั้นจะแสดงเป็นไอคอนรูปหัวใจที่ตัวละคร ที่จะค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มกรอบ ซึ่งหลักๆ แล้วจะเพิ่มความสัมพันธ์ ด้วยการพูดคุยในที่พักแรมในเมือง ซึ่งจะมีข้อความ NEW แสดงแจ้งให้ผู้เล่นรู้ว่าจะมีบทสนทนาเกิดขึ้นในสถานที่นั้นด้วยไม่ต้องกลัวพลาด แต่ที่รู้สึกแปลกก็คือเกมมักจะมีบทสนทนากับตัวละครหลายคนอยู่แล้วแต่ต้องให้เราจ่ายเงินพักแรมหลายๆ วันเพื่อจะคุยให้ครบ นอกจากนี้การใช้ท่า Chainในการต่อสู้ก็ยังจะได้รับความสัมพันธ์เพิ่มด้วย เมื่อเราเพิ่มความสัมพันธ์ได้ถึงระดับนึงก็จะมีอีเวนท์ให้ดูรูปสวยๆ ของตัวละครสาวๆ ซึ่งบางรูปก็ถือว่าวาบหวิวไปหน่อย
กราฟิกของเกมจัดว่าพื้นๆ เมื่อเทียบกับเกม PSP อื่นๆ แต่จากเดิมที่เกมซีรีส์นี้บนคอนโซลก็ไม่ได้มีภาพสวยงามอะไรอยู่แล้ว แต่จุดที่เปลี่ยนไปก็คือภาคนี้เปลี่ยนคาแรคเตอร์ดีไซน์เป็น Blade นักวาดที่ออกไปในแนวโมเอะหรือโลลิมากกว่าเดิมเหมือนจะพยายามเจอะผู้เล่นกลุ่มใหม่รึไงก็ไม่ทราบ ก็ถือเป็น RGP น่ารักๆ ที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร ตัวเกมเน้นความเบสิกมากจึงตัดระบบหลายๆ อย่างที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของซีรีส์ออกไป แม้ว่าจะทำให้คนที่ไม่เคยเล่นภาคก่อนๆ มา เล่นได้ง่ายขึ้น แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าเกมพื้นๆ ไม่ค่อยมีลูกเล่นในการต่อสู้เท่าที่ควร แต่อีกด้านนึงเกมก็มีระยะเวลารวมในการเล่นไม่ยาวเท่าไหร่อีกทั้งการต่อสู้ก็ไม่ต้องคิดจัดทีมวางแผนการรบแบบภาคก่อน จึงพกพาไปเล่นนอกสถานที่หรือเล่นฆ่าเวลาได้ (แต่ก็ระวังฉากวับๆ แวมๆ นิดนึงละกัน :p)
คะแนน 6.5
รีวิวโดย Kiba